ทีมชาติไทย ประเดิมแย่แพ้ ทีมชาติเกาหลีใต้ 3-1

การแข่งขันฟุตบอลชิงถ้วยพระราชทานคิงส์คัพ ครั้งที่ 41 ในวันอาทิตย์ที่ 15 มกราคม พ.ศ. 2555 ซึ่งเป็นเกมนัดเปิดสนามระหว่างทีมชาติไทย พบกับ ทีมชาติเกาหลีใต้ ชุดโอลิมปิก ที่สนามราชมังคลากีฬาสถาน

โดยก่อนเกมจะเริ่มขึ้นได้มีพิธีเปิดการแข่งขันอย่างยิ่งใหญ่ในเวลา 18.45 น. โดยมีนายพิชัย นริพทะพันธุ์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงพลังงาน ในฐานะประธานจัดการแข่งขันมาเป็นประธานในพิธี ร่วมด้วยนายวรวีร์ มะกูดี นายกสมาคมฟุตบอลแห่งประเทศไทย

 

สำหรับเกมในวันนี้ได้รับความสนใจจากแฟนบอลพอสมควร โดยเข้ามาชมเกมในสนามกว่า 5,000-6,000 คน ซึ่งเกมคู่แรกเวลา 16.10 น.ระหว่าง นอร์เวย์ กับ เดนมาร์ก แชมป์เก่า ก็ปรากฏว่าทั้งคู่เสมอกันไป 1-1 เก็บไปได้ทีมละ 1 คะแนนในเกมแรก ส่งผลให้คู่ที่ 2 ระหว่าง ไทย กับ เกาหลีใต้ หากมีผลแพ้ชนะก็จะทำให้ทีมที่ชนะขึ้นนำเป็นที่ 1 ของตารางคะแนนทันที

 

 

เปิดฉากก็เป็นทีมชาติไทยที่เปิดเกมรุกตั้งแต่ต้นเกมหวังทำประตูให้ได้เร็วที่สุด แต่ส่วนใหญ่ก็มักจะจ่ายบอลพลาดกันเองง่ายๆ และเป็นทีม “โสมขาว” ที่รอจังหวะเก็บตกและสวนกลับเร็ว แต่ทั้งคู่ก็ยังไม่มีจังหวะได้ยิงมากนัก ผ่านไป 10 นาทีแรกยังเสมอกันอยู่ 0-0

 

น.13 เป็นโอกาสแรกของทีม “ช้างศึก” สุมัญญา ปุริสาย ได้บอลหน้าเขตโทษก่อนจะจ่ายตัดหลังมาให้ สมปอง สอเหลบ ที่เติมขึ้นมาทางกราบขวาในเขตโทษและตัดสินใจยิงมุมแคบบอลเรียดเข้ากรอบแต่ก็เบาเกินไป คิม ซุง กยู นายทวารเกาหลีใต้รับไว้ได้สบาย  

 

น.18 ไทยได้ลุ้นประตูอีกครั้ง สมปอง สอเหลบ ได้บอลอยู่ทางริมกรอบโทษฝั่งซ้ายก่อนจะไหลบอลมาให้ จักรพันธ์ แก้วพรม ที่ยืนรออยู่หน้าเขตโทษได้กลับตัวยิงด้วยซ้ายแต่บอลข้ามคานออกไป น.28 เกาหลีใต้ มาได้ฟรีคิกริมเส้นฝั่งขวาและเป็น คิม มิน วู ที่เปิดด้วยซ้ายบอลพุ่งแรกเกือบจะโค้งเข้าเสาไกลแต่ยังดีที่ กวิน ธรรมสัจจานันท์ ยังบินพุ่งมารับไว้ได้ติดมืออย่างยอดเยี่ยม

 

น.38 เกาหลีใต้เกือบได้ประตูขึ้นนำจากจังหวะที่ คิม แต ฮวาน เปิดบอลจากกราบขวาเข้าไปในเขตโทษและเป็นทาง คิม มิน วู ที่ได้พุ่งโหม่งเต็มศีรษะที่เสาสองแต่บอลเลยถากเสาออกไปอย่างน่าเสียดาย

 

และแล้ว น.42 ทีมชาติเกาหลีใต้ก็มาได้ประตูขึ้นนำจนได้ เป็นจังหวะที่ คิม มิน วู เลี้ยงบอลหนีตัวประกบอยู่หน้าเขตโทษก่อนจะจ่ายให้ คิม ดอง ซับ ที่จับบอลหนึ่งจังหวะแล้วตวัดยิงด้วยขวาบอลพุ่งเสียบเสาเข้าไปอย่างสวยงาม โดยที่ กวิน ผู้รักษาประตูของไทยนั้นหมดสิทธิ์ป้องกัน ทำให้เกาหลีใต้ขึ้นนำไทยไปก่อน 1-0

 

ช่วงท้ายครึ่งแรกเป็นเกาหลีใต้ ที่ยังทำเกมบุกเข้าใส่ไทยอย่างต่อเนื่องแต่ก็ไม่สามารถทำอะไรเพิ่มได้ จบครึ่งแรกเป็น ไทย ที่ยังตามหลัง เกาหลีใต้ อยู่ 0-1

 

 

ในครึ่งเวลาหลังทีมชาติไทยเปลี่ยนตัวผู้เล่นถึง 2 คน เอา เอกพันธ์ อินทเสน กับ จิรวัฒน์ มัครมย์ ลงไปแทน สมปอง สอเหลบ กับ สุรัตน์ สุขะ ตามลำดับ ส่วนเกาหลีใต้ยังไม่มีการเปลี่ยนตัวผู้เล่น และเริ่มมาใน น.48 ไทยก็ได้ลุ้นประตู เอกพันธ์ อินทเสน ที่เพิ่งจะลงมาลากบอลตะลุยไปถึงหน้าเขตโทษก่อนจะไหลทะลุช่องมาให้ “ลีซอ” ธีรเทพ วิโนทัย ได้หลุดเข้าไปยิงมุมแคบแต่ซัดเหินออกไปไกลอย่างน่าผิดหวัง

 

มาถึง น.54 แฟนบอลชาวไทยก็ได้เฮกันลั่นสนามเมื่อมาได้ประตูตีเสมอ สุมัญญา ปุริสาย ตัดบอลได้ตรงกลางสนามก่อนจะเลี้ยงขึ้นหน้าและโยนยาวมาทางซ้ายให้ ธีรเทพ วิโนทัย ได้หลุดเข้าไปในกรอบเขตโทษและกระดกบอลข้ามตัวผู้รักษาประตูที่ออกมาไกลบอลเข้าไปซุกก้นตาข่ายอย่างหมดจดให้ไทย ตามตีเสมอเป็น 1-1

 

หลังจากเสมอกันรูปเกมก็กลับมาสูสีอีกครั้งโดยทั้งคู่ผลัดกันรุกและรับอย่างสนุก น.66 ซิว จัง จิน ตัวสำรองของเกาหลีใต้ เลี้ยงบอลเข้ามาในเขตโทษและหาจังหวะยิงด้วยขวาแต่โชคดีที่บอลนั้นไม่ตรงกรอบ

 

น.69 เกาหลีใต้ก็มาได้ประตูขึ้นนำอีกครั้ง ซึ่งเป็นความสามารถเฉพาะตัวของ ซิว จัง จิน ที่เลี้ยงลุยเข้าไปคนเดียวริมเขตโทษฝั่งซ้ายก่อนจะตวัดยิงด้วยซ้ายบอลพุ่งเรียดเสียบเสาไกลเข้าไปทำให้เกาหลีใต้ ขึ้นนำไทยเป็น 2-1

 

น.73 วินฟรีด เชเฟอร์ กุนซือทีมชาติไทยตัดสินใจเปลี่ยนเอา ชนาธิป สรงกระสิน ดาวรุ่งวัย 19 ปี ลงเล่นในนามทีมชาติไทยชุดใหญ่เป็นครั้งแรกแทนที่ของ ธีรเทพ วิโนทัย มาถึง น.79 จากความผิดพลาดของ ณัฐพร พันธุ์ฤทธิ์ ตัวสำรองที่ไปเสียบอลหน้าเขตโทษให้ คิม ฮยุน ซัง กองหน้าสำรองของเกาหลีใต้ที่ฉกบอลไปยิงนิ่มๆ ผ่านมือ กวิน เข้าไป เกาหลีใต้หนีห่างเป็น 3-1

 

ช่วงท้ายเกมไทย บุกหนักหวังตีตื้นขึ้นมาให้ได้และมาได้ลุ้นจากการยิงหน้าเขตโทษของ สุรชาติ สารีพิมพ์ ตัวสำรอง ใน น.88 แต่ก็ยังไม่ผ่านแนวรับของเกาหลีใต้ สุดท้ายไม่สามารถทำอะไรเพิ่มกันได้ จบเกมทีมชาติไทยพ่ายเกาหลีใต้ไป 1-3

 

 

ทีมชาติไทย : กวิน ธรมมสัจจานันท์ (GK),นิเวส ศิริวงศ์ (C) (ณัฐพร พันธุ์ฤทธิ์ น.75),ชลทิตย์ จันทคาม,สุมัญญา ปุริสาย,สมปอง สอเหลบ (เอกพันธ์ อินทเสน น.46),ธีรเทพ วิโนทัย(ชนาธิป สรงกระสิน น.73),สุรัตน์ สุขะ (จิรวัฒน์ มัครมย์ น.46),ศุภชัย คมศิลป์,สุรีย์ สุขะ,จักรพันธ์ แก้วพรม (สุรชาติ สารีพิมพ์ น.87) และ ชาตรี ฉิมทะเล (อานนท์ สังสระน้อย น.60)

 

ทีมชาติเกาหลีใต้ : คิม ซุง กยู (GK),จิออง ดอง โฮ (โฮ แจ ซุก น.90),คิม กี ฮี (ฮอง จิออง โฮ น.87),ยุน ซุก ยัง,คิม มิน วู,ปาร์ค จอง วู (C),ฮาน กุก ยัง,โช ยัง ชอล (บ็าก ซุง ดอง น.57),คิม ดอง ซับ (คิม ฮยุน ซัง น.73),คิม ยัง กวอน และ คิม แต ฮวาน (ซิว จัง จิน น.58)

 

หลังจบเกมการแข่งขัน ด้าน วินฟรีด เชเฟอร์ กุนซือชาวเยอรมันของทีมาติไทย กล่าวถึงผลงานว่า “ต้องยอมรับว่าทีมเกาหลีใต้แข็งแกร่งมาก ผู้เล่นทุกคนมีความฟิตและเล่นกันได้อย่างเข้าขาเป็นอย่างดี และมีความสามารถเฉพาะตัวสูง ในขณะที่ทีมไทยนั้นวันนี้สภาพทีมถือว่าไม่สมบูรณ์เพราะตัวหลักบาดเจ็บเยอะ ซึ่งตนก็ไม่ต้องการให้ผู้เล่นเหล่านี้ต้องมาเสี่ยง โดยสิ่งที่ทำให้ทีมได้รับความพ่ายแพ้วันนี้คือสภาพร่างกายที่เป็นรองคู่แข่ง โดยตรงจุดนี้ต้องเร่งแก้ไขโดยด่วน แต่ตนก็ต้องขอชื่นชม จักรพันธ์ แก้วพรม ที่ดูมีความฟิตที่สุดของไทย โดยนักเตะทุกคนควรเอาเป็นแบบอย่าง ถึงอย่างไรก็ดีในเกมต่อไปเราต้องเก็บชัยชนะให้ได้”

 

ในขณะที่ทางด้าน ฮอง เมียง โบ กุนซือทีม “โสมขาว” เผยว่า “วันนี้เราใช้ผู้เล่นที่มีสภาพร่างกายสมบูรณ์ลงสนาม รวมถึงผู้เล่นที่เล่นในอากาศร้อนได้ดี ซึ่งการได้รับชัยชนะถือว่าทำได้ตามเป้าหมาย และทำให้อีก 2 เกมที่เหลือเราเล่นง่ายขึ้น ซึ่งเกมต่อไปที่ต้องพบกับเดนมาร์ก ก็ยอมรับว่าเป็นรองแต่เชื่อว่าทีมสามารถสู้ได้อย่างแน่นอน”

 

1. เกาหลีใต้ แข่ง 1 ชนะ 1 เสมอ 0 แพ้ 0 ได้ 3 เสีย 1 ได้เสีย + 2 มี 3 คะแนน

2.เดนมาร์ก แข่ง 1 ชนะ 0 เสมอ 1 แพ้ 0 ได้ 1 เสีย 1 ได้เสีย 0 มี 1 คะแนน

3.นอร์เวย์ แข่ง 1 ชนะ 0 เสมอ 1 แพ้ 0 ได้ 1 เสีย 1 ได้เสีย 0 มี 1 คะแนน

 

สำหรับโปรแกรมนัดที่ 2 จะลงสนามกันในวันพุธที่ 18 มกราคม 2555 นี้ ที่สนามราชมังคลากีฬาสถานเหมือนเดิม คู่แรก 16.00 น.ทีมชาติเกาหลีใต้ จะพบกับ ทีมชาติเดนมาร์ก และคู่ที่ 2 เวลา 19.00 น.ทีมชาติไทย จะพบกับ ทีมชาตินอร์เวย์