ดุเดือด! เก๋งไล่ยิงกระบะกลางกรุง ดับ 5

ดุเดือด! เก๋งไล่ยิงกระบะกลางกรุง ดับ 5

ดุเดือด! เก๋งไล่ยิงกระบะกลางกรุง ดับ 5
แชร์เรื่องนี้
แชร์เรื่องนี้LineTwitterFacebook

อัพเดทล่าสุด! เจ้าของรถรถฮอนด้าซีวิค อายุ 19 ปี ที่ร่วมก่อเหตุไล่้ยิงรถกระบะเมื่อช่วงเช้ามืดที่ผ่านมา ได้เข้ามอบตัวกับเจ้าหน้าที่ตำรวจแล้ว รับสารภาพเขม่นกันตั้งแต่อยู่ในผับ จึงก่อเหตุไล่ยิงมาตั้งแค่แยกมไหสวรรค์จนมาถึงจุดเกิดเหตุ โดยมีผู้อยู่ในรถยนต์ฮอนด้าซีวิค รวม 6 คน ขณะที่ยอดผู้เสียชีวิตเพิ่มเป็น 5 ราย ประกอบด้วย นายสมชาย สนธิพงษ์ อายุ 20 ปี นายวรวุฒิ วิชชุปัญญาพงศ์ อายุ 23 ปี นายอารมณ์ แซ่เล้า อายุ 23 ปี นายชวาล ทองประดิษฐ์ อายุ 18 ปี และนายนที เอี่ยมสา อายุ 19 ปี

 

(20 ม.ค.) เมื่อช่วงเช้ามืดที่ผ่านมา เจ้าหน้าที่ตำรวจ สน.ราษฎร์บูรณะ ได้รับแจ้งเหตุมีรถชนเกาะกลาง บริเวณถนนสุขสวัสดิ์ ทำให้มีผู้ได้รับบาดเจ็บและเสียชีวิต จึงรีบรุดไปตรวจสอบ

ที่เกิดเหตุบริเวณปากซอยสุขสวัสดิ์ 23 พบรถกระบะมิตซูบิชิไทตัน สีดำ เสียหลักชนเกาะกลาง อยู่ที่ถนนเลนขวาสุด สภาพรถพังยับเยิน ล้อยางแตก ตรวจสอบพบรอยกระสุนปืน บริเวณประตูรถด้านซ้าย 2 จุด ห่างไปไม่ไกลนัก พบรถฮอนด้าซีวิค จอดเสียหลักพังยับเยิน ตรวจสอบภายในรถพบลูกกระสุนปืน 9 มม. จำนวน 2 นัด จึงเก็บเอาไว้เป็นหลักฐาน

ขณะที่บริเวณจุดเกิดเหตุ ห่างจากจุดที่รถทั้งสองคันเสียหลัก พบศพผู้เสียชีวิต 3 ราย ประกอบด้วย นายอารมณ์ แซ่เล้า อายุ 23 ปี นายวรวุฒิ วิชชุปัญญาพงษ์ อายุ 23 ปี และ นายสมชาย สนธิพงษ์ อายุ 20 ปี นอกจากนี้ยังพบผู้ได้รับบาดเจ็บ 4 ราย ประกอบด้วย น.ส.สุนิสา วงคำพู น.ส.อนุสรา สังเษม นายชวาล ทองประดิษฐ และนายทวี เอี่ยมสา

จากการสอบสวนเบื้องต้นทราบว่า ผู้บาดเจ็บและเสียชีวิตทั้งหมด เพิ่งกลับจากเที่ยวผับชื่อดังแห่งหนึ่งย่านถนนพระรามที่ 3 ขณะที่ติดไฟแดงอยู่บริเวณแยกมไหสวรรค์ ถ.รัชดาภิเษก-ท่าพระ คนในรถฮอนด้าซีวิคใช้ปืนยิงใส่รถกระบะหลายนัด รถกระบะจึงได้ขับหนีเข้า ถ.สุขสวัสดิ์ แต่ยังถูกตามไล่ยิงตลอดทาง จนกระทั่งมาถึงจุดเกิดเหตุ รถกระบะเกิดเสียหลัก จนเหวี่ยงไปชนกับรถฮอนด้าซีวิคที่ไล่ยิง จนเป็นเหตุทำให้มีผู้เสียชีวิตดังกล่าว ขณะที่กลุ่มคนร้ายบนรถฮอนด้าซีวิค 5-6 คน ได้วิ่งหลบหนีไป

อย่างไรก็ตาม เจ้าหน้าที่ตำรวจได้สันนิษฐานว่า ผู้ก่อเหตุไล่ยิงน่าจะเคยมีปัญหาทะเลาะหรือเป็นคู่กรณีกันกับบุคคลในรถกระบะที่เกิดเหตุ จนตามไล่ยิงกันบนท้องถนน ซึ่งทางเจ้าหน้าที่ตำรวจจะดำเนินการสอบสวนและนำตัวกลุ่มผู้ก่อเหตุมาดำเนินคดีตามกฎหมายต่อไป

แชร์เรื่องนี้
แชร์เรื่องนี้LineTwitterFacebook