อั๊ต อัษฏา น้ำตาซึม บวชแทนคุณพ่อแม่-ป้าจุ๊

อั๊ต อัษฏา น้ำตาซึม บวชแทนคุณพ่อแม่-ป้าจุ๊

อั๊ต อัษฏา น้ำตาซึม บวชแทนคุณพ่อแม่-ป้าจุ๊
แชร์เรื่องนี้
แชร์เรื่องนี้LineTwitterFacebook

อดีตนักแสดงและพิธีกรหนุ่ม อั๊ต อัษฎา พานิชกุล ที่ปักหลักลุยงานวงการบันเทิงอยู่ที่ประเทศสิงคโปร์ ล่าสุดเจ้าตัวได้ลาออกจากงานที่สิงคโปร์บินเงียบกลับไทยเข้าพิธีอุปสมบททดแทนบุญคุณพ่อแม่และ ป้าจุ๊ จุรี โอศิริ ในวันนี้ (4 ก.พ.) ณ วัดสระเกศ (ภูเขาทอง) โดยบวช 15 วันถึง 1 เดือน ซึ่งได้รับฉายาทางธรรมว่า กิตติวัฑฒโณ แปลว่า ผู้เจริญด้วยชื่อเสียง เผยหลังจากศึกพร้อมทำงานที่เมืองไทย บอกรู้สึกซาบซึ้งใจจนน้ำตาไหลที่ญาติๆ เพื่อนๆพี่น้องในวงการอาทิ ตู่ นพพล, นุช ปรียานุช, หน่อง อรุโณชา, โด่ง สิทธิพร, อ้อม สุนิสา, ปราโมทย์ แสงศร, โอ อนุชิต, พิม ซอนย่า และสามี, ดีเจเอกกี้ เอกชัย มาร่วมงาน แพลนหลังบวชเตรียมทำงานในวงการบันเทิงแต่จะเบื้องหน้าหรือเบื้องหลังต้องดูอีกที

"ที่กลับมาบวชในครั้งนี้ก็ด้วยความตั้งใจบวชมาตั้งนานแล้วแต่ว่าไม่มีโอกาสที่จะกลับมาบวชที่เมืองไทยเป็นเรื่องเป็นราว ก็อยากบวชให้พ่อแม่ ด้วยเวลาและอะไรต่างๆ ทุกอย่างตอนนี้ก็ลงตัวเคลียร์งานได้หมดแล้วเลยถือโอกาสบวช และเนื่องจากคุณยายจุรีเพิ่งเสียด้วย ก็อยากจะบวชให้คุณยาย และคิดว่าผู้ชายไทยส่วนใหญ่ในชีวิตก็ต้องหาเวลามาบวชให้พ่อแม่ คนรอบข้าง รวมถึงคนที่ทำให้เรามีชีวิตจนทุกวันนี้ครับ"

ตั้งใจบวชนานแค่ไหน? "ตอนนี้ตั้งใจบวช 15 วันถึงเดือนนึงครับ แต่หลวงพี่บอกให้เข้ามาก่อน แต่ถ้าถึงเวลาแล้วอยากอยู่ต่อก็อยู่ได้"

ตั้งใจอยากศึกษาพระธรรมถึงขั้นไหน? "ศาสนาบ้านเรามันจะไปคู่กันอย่างเช่นศานาพุทธก็สามารถที่จะไปศึกษาที่อินเดียก็ได้ แต่ในเมืองไทยบ้านเราจะถูกปลูกฝังเรื่องของวัฒนธรรมมากกว่า เช่นวันนี้ผมมาบวชก็จะมีญาติพี่น้องและเพื่อนฝูงมาเป็นกำลังใจกันเยอะมาก แล้วก็ยังเป็นการที่เราได้อโหสิกรรมให้กับผู้ใหญ่และพ่อแม่พี่น้อง ซึ่งผมเป็นคนไทยก็คิดว่านี่คือเชื้อชาติของผมและศาสนาของผมด้วยครับ"

จะจำวัดอยู่ที่นี่หรือไปศึกษาธรรมมะที่วัดอื่น? "ตอนนี้ก็คงต้องจำวัดที่นี่ไปก่อน (หลังจากที่บอกจะบวชคุณพ่อคุณแม่ว่ายังไงบ้าง?) ท่านคงดีใจมากครับ เพราะทั้ง 2 ท่านคงรู้สึกดี เพราะว่าคุณแม่ก็เพิ่งจะเกษียรเมื่อปีที่ผ่านมา ส่วนคุณพ่อเกษียรไปก่อนหน้านี้แล้ว ก็ถือว่าเป็นจังหวะที่ทั้ง สองได้อยู่เมื่อไทยพร้อมกัน ที่ขาดไปงานนี้ก็คงจะเป็นน้องชายอยู่อเมริกาเลยเขาติดภารกิจมาไม่ได้"

ตอนที่ไปลาสิขากับพ่อแม่ก็รู้สึกยังไงบ้าง? "ก็รู้สึกดีครับ เย็น นิ่ง มันเป็นความนิ่งครับรู้สึกดีมาก (มีน้ำตาไหลไหมตอนปลงผม?) ก็ไหลครับเพราะมีทั้งทั้งพ่อแม่เพื่อนๆ มาเป็นกำลังใจให้กันเยอะ คือซาบซึ้งครับ อย่างที่บอกเชื้อชาติผมก็เป็นคนไทย ศาสนาผมก็เป็นศาสนาพุทธ แล้วผมก็หายไปจากเมืองไทยนานถึง 4 ปีกลับมาที่ 2-3 วันหรือ 2 เดือนครั้งนึง พอได้มาเห็นญาติพี่น้องเพื่อนที่สามารถมาได้มารวมอยู่ในที่เดียวกัน ก็น้ำตาไหล เพราะรู้สึกดีมากครับ ซึ่งเพื่อนๆ ที่มาไม่ได้เขาก็ส่งกำลังใจมาให้ครับ"

บอกลางานที่นู้นมายังไง? "ที่สิงคโปร์ผมทำรายการกับทางเอ็มทีวีมา14 ปี และเพิ่งจะลาออกจากรายการนี้เมื่อสิ้นปีที่ผ่านมา ผมก็เลยมีเวลาเตรียมงานประมาณ 2-3 เดือน ส่วนบริษัทผมเองที่สิงคโปร์ผมก็มีลูกน้องคอยดูแลอยู่"

กลับมาอยู่เมืองไทยถาวรเลยไหม? "คงจะผมหลังจากสึกแล้วก็คงจะใช้ชีวิตในเมืองไทยมากขึ้น (กลับมาทำงานในเมืองไทย?) ก็คงดูไปก่อน ถ้าน่าสนใจก็คงทำ (งานที่ถนัดด้านไหน?) แต่ตอนนี้ที่ตั้งใจไว้คือเรื่องของการบวชและก็ศึกษาธรรมะก่อน ถ้าสึกเมืองไหร่ก็คงจะลองดูในเรื่องของสายงานทั้งงานเบื้องหลังและเบื้องหน้า หรืออาจจะควบคู่กันไป เพราะทุกวันนี้ที่ทำงานในสิงคโปร์ก็ควบทั้งสองงานทั้งเบื้องหลังและเบื้องหน้าเหมือนกัน"

งานบริษัทที่สิงคโปร์เกี่ยวกับอะไร? "ผมเป็น เอเจน อาร์ททิส ก็เป็นเหมือนการหางานให้น้องๆแต่ไม่เชิงว่าเป็นโมเดลลิ่ง คือคนที่ดูก็จะเป็นพิธีกรหรือนักแสดง แต่ช่วงหลังๆก็หันมาร่วมงานกับคนที่มีผู้จัดการ ก็คิดว่าจะตั้งใจในสายนี้มากขึ้นเพราะผมรู้มาว่าน้องๆในวงการก็มีพรสวรรค์และมีคุณสมบัติพอสมควรก็จะดูว่าใครที่จะสามารถร่วมงานได้ด้วยในฐานะที่จะหางานที่เมืองนอกให้ด้วย"

อัลบั้มภาพ 19 ภาพ

อัลบั้มภาพ 19 ภาพ ของ อั๊ต อัษฏา น้ำตาซึม บวชแทนคุณพ่อแม่-ป้าจุ๊

แชร์เรื่องนี้
แชร์เรื่องนี้LineTwitterFacebook