สรุปภาวะตลาดเงินและภาวะเศรษฐกิจ - ธนาคารกสิกรไทย

สรุปภาวะตลาดเงินและภาวะเศรษฐกิจ - ธนาคารกสิกรไทย

แชร์เรื่องนี้
แชร์เรื่องนี้LineTwitterFacebook

KBank Market Watch             ตลาดหุ้นไทย ปิดบวก 0.65% ขณะที่ตลาดในภูมิภาคปรับตัวไร้ทิศทาง โดยภาวะการซื้อขายภาคบ่ายยังมีแรงซื้อเข้ามาในหุ้นกลุ่มปิโตรเคมี และหุ้นแบงก์ขนาดใหญ่ ซึ่งช่วงนี้นักลงทุนต่างชาติยังเข้าซื้อหุ้นไทยอย่างต่อเนื่อง อย่างไรก็ดี ปัญหาหนี้ของกรีซยังคงไม่มีความแน่นอน ซึ่งเป็นปัจจัยที่กดดันตลาดหุ้นไทยและตลาดหุ้นเอเชีย           USD/THB ปิดตลาดที่ระดับ 30.86 โดยบาทแข็งค่าจากราคาปิดวานก่อน จากกระแสเงินทุนที่ไหลเข้าอย่างต่อเนื่อง โดยนักลงทุนให้ความสำคัญต่อการคาดการณ์ว่าสหรัฐฯ จะดำเนินมาตรการผ่อนคลายทางการเงินเพิ่มเติม และจากอัตราดอกเบี้ยที่อยู่ในระดับต่ำของสหรัฐฯ ได้หนุนให้นักลงทุนเข้าซื้อสินทรัพย์มากขึ้น แม้ปัญหาหนี้กรีซยังคงกดดันตลาดอยู่ก็ตาม วันนี้คาดปรับตัวลงไปที่ 30.75   การเคลื่อนไหวของตลาดที่สำคัญ           ตลาดหุ้นไทย ปิดบวก 0.65% ขณะที่ตลาดในภูมิภาคปรับตัวไร้ทิศทาง โดยภาวะการซื้อขายภาคบ่ายยังมีแรงซื้อเข้ามาในหุ้นกลุ่มปิโตรเคมี และหุ้นแบงก์ขนาดใหญ่ ซึ่งเมื่อวานนี้ นักลงทุนต่างชาติเข้าซื้อสุทธิ 2,303.61 ล้านบาท จะเห็นได้ว่าช่วงนี้นักลงทุนต่างชาติยังเข้าซื้อหุ้นไทยอย่างต่อเนื่อง อย่างไรก็ดี ปัญหาหนี้ของกรีซยังคงไม่มีความแน่นอน ซึ่งเป็นปัจจัยที่กดดันตลาดหุ้นไทยและตลาดหุ้นเอเชีย           ตลาดหุ้นสหรัฐฯ DJIA ปิดปรับขึ้นเล็กน้อย 0.26% โดยผลการหารือเกี่ยวกับมาตรการช่วยเหลือกรีซยังมีความไม่แน่นอน ซึ่งทำให้นักลงทุนยังไม่เข้ามาลงทุนล็อตใหญ่ในระยะนี้ เมื่อวานนี้ พรรคการเมืองกรีซได้เลื่อนการตัดสินใจออกไปอีก 1 วันอีกครั้ง (หลังจากที่ได้เลื่อนมาก่อนหน้านี้แล้ว) ที่จะยอมรับการปฏิรูปซึ่งจำเป็นต่อการบรรลุข้อตกลงความช่วยเหลือ 1.30 แสนล้านยูโรเพื่อหลีกเลี่ยงการผิดนัดชำระหนี้ อย่างไรก็ดี ตลาดยังคงมีความเชื่อมั่นว่ากรีซจะยอมรับข้อตกลงความช่วยเหลือเร็ว ๆ นี้เพื่อหลีกเลี่ยงการผิดนัดชำระหนี้ โดยเจ้าหน้าที่รัฐบาลกรีซคนหนึ่งกล่าวว่า รัฐบาลกรีซกำลังจัดเตรียมเอกสารเกี่ยวกับมาตรการปฏิรูปประเทศที่จำเป็นต้องทำเพื่อแลกกับมาตรการให้ความช่วยเหลือทางการเงิน           ราคาน้ำมันดิบในตลาดล่วงหน้า NYMEX ส่งมอบเดือนมี.ค.ปรับเพิ่มขึ้น 1.50 ดอลลาร์สหรัฐฯ/บาร์เรล สู่ระดับ 98.41 ดอลลาร์สหรัฐฯ/บาร์เรล ท่ามกลางความผันผวนของค่าสเปรด (ส่วนต่าง) ระหว่างน้ำมันดิบเบรนท์กับน้ำมันดิบสหรัฐฯ โดยราคาน้ำมันได้รับแรงหนุนจากข่าวที่ว่ามีการปิดโรงงานแปรรูปทรายน้ำมันแห่งหนึ่งในรัฐแอลเบอร์ทาของแคนาดาเป็นเวลา 2-3 สัปดาห์           ราคาทองตลาด COMEX ส่งมอบเดือนเม.ย.ปรับ 23.50 ดอลลาร์/ออนซ์ สู่ระดับ 1,748.40 ดอลลาร์สหรัฐฯ/ออนซ์ ขณะที่รัฐบาลกรีซเตรียมจัดทำมาตรการปฏิรูปประเทศเพื่อแลกกับมาตรการให้ความช่วยเหลือทางการเงิน           การประชุมธนาคารกลาง: เมื่อวานนี้ธนาคารกลางของประเทศออสเตรเลียตัดสินใจคงดอกเบี้ยนโยบายไว้ที่ 4.25% สำหรับพรุ่งนี้จะมีการประชุมธนาคารกลางยุโรป ธนาคารกลางอังกฤษ ธนาคารกลางของเกาหลีใต้ และธนาคารกลางของอินโดนีเซีย   สรุปความเคลื่อนไหวอัตราแลกเปลี่ยน           EUR/USD ปิดตลาดที่ระดับ 1.3261 โดยยูโรแข็งค่าจากการที่นักลงทุนมีความเชื่อมั่นว่ากรีซจะไม่ออกจากยูโรโซน และจะสามารถบรรลุข้อตกลงกับเจ้าหนี้ได้ในการตัดลดภาระหนี้และดอกเบี้ย ขณะที่นายกฯ ของกรีซจะหารือกับคณะรัฐบาลเพื่อปรับลดงบประมาณรายจ่ายเพื่อสร้างความเชื่อมั่นให้แก่นักลงทุน แม้ยังไม่มีความคืบหน้าแต่ความหวังดังกล่าวได้หนุนการลงทุนในสินทรัพย์เสี่ยง           USD/JPY ปิดตลาดที่ระดับ 76.76  โดยเยนอ่อนค่าเล็กน้อยจากเงินทุนที่ไหลออกจากตลาดญี่ปุ่นเพื่อไปลงทุนในสินทรัพย์เสี่ยงอื่นจากการที่ตลาดคลายความกังวลต่อปัญหาหนี้กรีซ อีกทั้งมีการเก็งกำไรในตลาดพันธบัตรสหรัฐฯ เช่นกัน แม้ดูจะเป็นการคลายความกังวลชั่วคราวจากการที่กรีซยังไม่บรรลุข้อตกลงในการแก้ปัญหาหนี้ แต่เงินทุนที่ไหลออกได้หนุนให้เยนอ่อนค่า           GBP/USD ปิดตลาดที่ระดับ 1.5896 โดยปอนด์แข็งค่าตามความต้องการสินทรัพย์เสี่ยงหลังนักลงทุนมองว่ากรีซน่าจะสามารถผ่านสถานการณ์วิกฤติหนี้ไปได้ ซึ่งจะช่วยทำระบบภาคการธนาคารของยุโรปมีเสถียรภาพ อันหนุนเศรษฐกิจของอังกฤษสกุลเงินเอเชีย ส่วนใหญ่ปิดแข็งค่า นำโดยริงกิตและวอน ขณะที่ดอลลาร์ไต้หวันอ่อนค่า จากการที่นักลงทุนเริ่มคลายความกังวลต่อปัญหากรีซที่คาดว่าจะสามารถบรรลุข้อตกลงกับตัวแทนเจ้าหนี้ และได้รับเงินสนับสนุนเพิ่มเติม อีกทั้งเงินทุนที่ไหลเข้าภูมิภาคได้หนุนให้ค่าเงินเอเชียแข็งค่าต่อเนื่อง           USD/THB ปิดตลาดที่ระดับ 30.86 (รอยเตอร์ปิดที่ 30.92) โดยบาทแข็งค่าจากราคาปิดวานก่อน จากกระแสเงินทุนที่ไหลเข้าอย่างต่อเนื่อง โดยนักลงทุนให้ความสำคัญต่อการคาดการณ์ว่าสหรัฐฯ จะดำเนินมาตรการผ่อนคลายทางการเงินเพิ่มเติม และจากอัตราดอกเบี้ยที่อยู่ในระดับต่ำของสหรัฐฯ ได้หนุนให้นักลงทุนเข้าซื้อสินทรัพย์มากขึ้น แม้ปัญหาหนี้กรีซยังคงกดดันตลาดอยู่ก็ตาม   หมายเหตุ: อัตราแลกเปลี่ยนที่ปรากฏอ้างอิงจาก Reuters ซึ่งอาจไม่ใช่ราคาทำการจริงในตลาด   ท่านสามารถรับฟังข้อมูลอัตราแลกเปลี่ยนผ่านระบบโทรศัพท์อัตโนมัติได้ที่ <โทร 0 2888 8822 หลังเลือกภาษา กด 711 ทิศทางค่าเงินวันนี้ .... กด 721 สรุปความเคลื่อนไหวอัตราแลกเปลี่ยนประจำวัน> หรือติดตามข้อมูลเพิ่มเติมได้ที่           www.twitter.com/KBankFX           www.facebook.com/KBankFX             อมรเทพ จาวะลา           ผู้ชำนาญการงานวิจัยเศรษฐกิจและตลาดทุน           โทรศัพท์: 02 470 6749           E-mail: amonthep.c@kasikornbank.com             นลิน ฉัตรโชติธรรม           ผู้ชำนาญการงานวิจัยเศรษฐกิจและตลาดทุน           โทรศัพท์: 02 470 3235           E-mail: nalin.c@kasikornbank.com             พุฒิกุล อัครชลานนท์           ผู้ชำนาญการงานวิจัยเศรษฐกิจและตลาดทุน           โทรศัพท์: 02 470 1031           E-mail: puttikul.a@kasikornbank.com             โดย ธนาคารกสิกรไทย จำกัด ประจำวันที่ 8 ก.พ. 2555

แชร์เรื่องนี้
แชร์เรื่องนี้LineTwitterFacebook