DSIนำสื่อบุกสวนผึ้งพบรุกที่อื้อ

จากกรณีที่กรมสอบสวนคดีพิเศษ หรือ ดีเอสไอ ได้มีมติรับกรณีการบุกรุกที่ดินที่ราชพัสดุใน อ.สวนผึ้ง จ.ราชบุรี รายของ นายวันชัย กาญจนเพ็ญ รองประธานสหกรณ์ผู้ปลูกสวนยางพาราและสวนปาล์มน้ำมัน จ.ราชบุรี เป็นคดีพิเศษ เมื่อวันที่ 28 ธันวาคม 2554 นั้น ในวันนี้ ทาง พ.ต.ท.ประวุธ วงศ์สีนิล ผู้เชี่ยวชาญเฉพาะด้านคดีพิเศษ ดีเอสไอ คณะพนักงานสอบสวนดีเอสไอ พร้อมด้วยทหารจากกรมการทหารช่าง และหน่วยเฉพาะกิจทัพพระยาเสือ จำนวนกว่า 100 นาย ได้นำสื่อมวลชนขึ้นรถฮัมวี่ และจีเอ็มซี เข้าตรวจสอบข้อเท็จจริงที่เกิดเหตุ บริเวณหน้าศูนย์พักพิงบ้านถ้ำหิน หมู่ที่ 5 ต.สวนผึ้ง อ.สวนผึ้ง จ.ราชบุรี ที่ นายวันชัย ได้ทำการบุกรุกพื้นที่ป่าประมาณ 500 ไร่ และได้ทำการถางและเผาป่า โดยจากการสังเกตพบว่า พื้นที่ในบริเวณดังกล่าวนั้น ได้มีการถางและเผาป่าจริง และได้มีการปลูกยางพาราอย่างเต็มพื้นที่ รวมไปถึงมีการปลูกสร้างโรงเรือนในพื้นที่ลาด และมีการปลูกสร้างบ้านพักคนงานภูเขาด้วย ซึ่งการกระทำดังกล่าว ทำให้พื้นที่เขาซึ่งเป็นที่ดินที่ราชพัสดุ และเป็นที่ดินของรัฐ ถูกยึดถือครอบครอง และทรัพยากรป่าไม้ได้ถูกทำลาย ทำให้เกิดความเสียหายต่อทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อมเป็นอย่างมาก พ.ต.ท.ประวุธ วงศ์สีนิล ผู้เชี่ยวชาญเฉพาะด้านคดีพิเศษ กรมสอบสวนคดีพิเศษ หรือ ดีเอสไอ กล่าวระหว่างเดินทางเข้าตรวจสอบข้อเท็จจริงกรณีที่ นายวันชัย กาญจนเพ็ญ รองประธานสหกรณ์ผู้ปลูกสวนยางพาราและสวนปาล์มน้ำมัน จ.ราชบุรี ทำการบุกรุกพื้นที่ป่า ซึ่งเป็นที่ราชพัสดุ จำนวนประมาณ 500 ไร่ ว่า ภายหลังดีเอสไอรับคดีดังกล่าวเป็นคดีพิเศษแล้ว จึงได้ทำการเข้าตรวจสอบข้อเท็จจริงในพื้นที่ พบว่ายังมีการเข้ามาดำเนินการหาประโยชน์อยู่อย่างต่อเนื่อง และจากการตรวจสอบภาพทางอากาศ ยังพบด้วยว่า นายวันชัย มีการถางและเผาผืนป่าเพื่อนำพื้นที่มาหาประโยชน์จริง และก่อนหน้านี้ เจ้าหน้าที่ทหารได้มีการแจ้งเตือนทั้งทางวาจา และนำหนังสือไปปิดประกาศให้ทราบแล้ว แต่ นายวันชัย ยังไม่หยุดดำเนินการ ซึ่งการกระทำของ นายวันชัย ถือว่าเป็นความผิดสำเร็จแล้ว ดีเอสไอจึงเตรียมรวบรวมหลักฐานเพื่อดำเนินคดีกับ นายวันชัย ตาม พ.ร.บ.ป่าไม้ ซึ่งเป็นความผิดที่มีอัตราโทษสูง โดยคาดว่าจะใช้เวลาไม่นานในการดำเนินการอย่างไรก็ตาม จากการตรวจสอบเบื้องต้น ไม่พบว่ามีหน่วยงานราชการใดเข้ามาเกี่ยวข้องกับกรณีดังกล่าว โดยเป็นการบุกรุกของ นายวันชัย เท่านั้น