รมว.พณ.เร่งแก้สินค้าแพงเน้นธงฟ้าจ่อคุมนำเข้าไก่ไข่

รมว.พณ.เร่งแก้สินค้าแพงเน้นธงฟ้าจ่อคุมนำเข้าไก่ไข่

รมว.พณ.เร่งแก้สินค้าแพงเน้นธงฟ้าจ่อคุมนำเข้าไก่ไข่
แชร์เรื่องนี้
แชร์เรื่องนี้LineTwitterFacebook

รายการ "รัฐบาลยิ่งลักษณ์ พบประชาชน" ประจำวันเสาร์ที่ 18 ก.พ.2555 น.ส.ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร นายกรัฐมนตรี งดจัดรายการด้วยตนเองอีกครั้ง และให้ นายบุญทรง เตริยาภิรมย์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงพาณิชย์ มาจัดรายการแทน โดยมี นายธีรัตถ์ รัตนเสวี มารับหน้าที่เป็นผู้ดำเนินรายการ ซึ่งเนื้อหาหลักในรายการ วันนี้ เป็นการนำเสนอแนวทางในการแก้ไขปัญหาความเป็นอยู่ของพี่น้องประชาชน โดยเฉพาะอย่างยิ่ง เรื่องของราคาสินค้าอุปโภค-บริโภค ที่มีการปรับตัวสูงขึ้นอย่างต่อเนื่อง  โดย นายบุญทรง กล่าวว่า จะลงไปดูต้นทุนของราคาอาหาร ตั้งแต่ต้นน้ำ กลางน้ำ และปลายน้ำ เพื่อให้ผู้ประกอบการขายอาหารในราคาที่เหมาะสมและเป็นธรรมกับประชาชน ทั้งนี้ กระทรวงพาณิชย์ ได้จัดร้านข้าวแกงธงฟ้าเพื่อขายอาหารราคาประหยัด โดยพื้นที่กรุงเทพฯได้มีร้านที่เข้าร่วมโครงการอยู่ประมาณ 500 แห่ง และจะถึง 1,000 แห่ง ส่วนทั่วประเทศจะทำให้ได้ 8,000 แห่ง โดยร้านค้าเหล่านี้จะอยู่ในสังคมและชุมชนทั่วไปเพื่อเป็นทางเลือก ซึ่งผู้ที่เข้าร่วมโครงการก็จะได้รับการสนับสนุนวัตถุดิบที่มีต้นทุนถูก                  ส่วนร้านธงฟ้า ก็จะมีอีกในภูมิภาค และกระจายลงในจังหวัดต่างๆ อย่างไรก็ตาม โปรแกรมนี้จะทำตลอดในช่วงที่ประชาชนเดือดร้อนในช่วงที่ค่าครองชีพสูง เพราะสินค้าที่ขายจะถูกกว่าท้องตลาด 15-20%              ทั้งนี้ ยืนยันว่า ราคาเนื้อหมูที่เหมาะสม ควรอยู่ที่ราคากิโลกรัมละ 95-110 บาท ขณะเดียวกัน กระทรวงพาณิชย์ ก็จะมีการควบคุม แม่ไก่ เพื่อไม่ให้ไข่ไก่ล้นตลาด นายบุญทรง กล่าวด้วยว่า หลังจากเมื่อ 1 ก.พ.ที่ผ่านมา มีการประกาศสินค้าควบคุม 42 รายการ บัญชีรายการที่มีการปรับปีละหน เมื่อมีผลกระทบจากภาวะเศรษฐกิจโลก จะราคาน้ำมัน หรืออะไรก็แล้วแต่ ซึ่งใน 42 รายการ เราดูความเหมาะสม และขอความร่วมมือให้คงราคาไว้ ซึ่งจนถึงขณะนี้ สินค้า 42 รายการ ก็ยังไม่มีมาขอปรับราคา  รัฐมนตรีว่าการกระทรวงพาณิชย์ ยังเปิดเผย ว่า ได้ตั้งเป้าการส่งออกในปีนี้ ไว้ที่ 15% แม้ว่า ไตรมาสแรกของปี 2555 จะมีเหตุการณ์น้ำท่วม ซึ่งมีผลให้การส่งออกชะลอตัว ส่วนไตรมาส 2 น่าจะดีขึ้น อย่างไรก็ตาม หลังจากไตรมาสที่ 2 แล้ว ก็จะเชิญหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง มาประเมินสถานการณ์อีกครั้ง ทั้งนี้ ในส่วนของการขยายตลาดส่งออกนั้น ได้สั่งการให้กรมส่งเสริมการส่งออก และทูตพาณิชย์ เน้นทำงานเชิงรุก เพื่อหาตลาดการส่งออก พร้อมกับส่งเสริมให้ผู้ประกอบการไทย ไปลงทุนยังประเทศเพื่อนบ้านมากขึ้น โดยเฉพาะการค้าตามแนวชายแดนเพื่อเตรียมความพร้อมก่อนการเป็นประชาคมเศรษฐกิจอาเซียน หรือ เออีซี                  ขณะเดียวกัน ก็ได้มองตลาดแอฟริกาใต้ และตะวันออกกลาง ไว้ด้วย และผู้ประกอบการไทย ก็แสดงความจำนงที่จะเดินทางไปค้าขายเช่นกัน แต่ต้องการให้รัฐบาลเดินหน้าช่วยเหลือ ด้วยการพาไปเปิดตลาดเพื่อเพิ่มความน่าเชื่อถือ ส่วนเป้าหมายเงินเฟ้อ ในปีนี้ ตั้งเป้าไว้ที่ร้อยละ 3.5-3.8
แชร์เรื่องนี้
แชร์เรื่องนี้LineTwitterFacebook