แข้งไทยเปิดโหด ยำหม่อง13-0 ศึกฟุตซอลเอเชีย
ทีมฟุตซอลทีมชาติไทยเอาชนะเมียนมาร์ 13-0 ขึ้นนำเป็นที่ 1 กลุ่มเอของการแข่งขันฟุตซอลชิงแชมป์ เอเชีย รอบคัดเลือก ในวันที่ 21 ก.พ. 2555 วิคเตอร์ เฮอร์มันส์ ว่าที่กุนซือทีมชาติไทยเข้าชมเกมด้วย ด้าน นายสุทธิพันธ์ วรรณวินเวศร์ พอใจผลงาน เผย นายอุดม โปร่งฟ้า ที่เข้ามาเป็นผู้ช่วยผู้จัดการทีมอีกคนตบโบนัส 6.5 หมื่นบาท
ทีมฟุตซอลทีมชาติไทย อันดับที่ 13 ของโลก ลงประเดิมสนามนัดแรกพบกับเมียนมาร์ ในการแข่งขันฟุตซอลชิงแชมป์ เอเชีย รอบคัดเลือก สายเอ วันที่ 21 ก.พ. 2555 เวลา 19.00 น. โดยสถิติที่พบกันมาไทยชนะเมียนมาร์ทั้ง 6 ครั้ง ได้ 81 ประตู เสีย 16 ประตู ล่าสุดนั้นไทยถล่มไปด้วย 17-0 ในซีเกมส์ 2011
ผู้เล่นชุดแรกที่ "โค้ชน้อย" บงการ พรหมผุย เฮดโค้ชทีมชาติไทยส่งลงสนามประกอบไปด้วย ประกิต ด่านขุนทด (GK), กฤษดา วงษ์แก้ว(C), ศุภวุฒิ เถื่อนกลาง, เกียรติยศ แฉล้มเขตร์ และ จิรวัฒน์ สอนวิเชียร ทางฝั่งของเมียนมาร์ประกอบไปด้วย เนย์ เมียว เชน (GK), ยอว์ ซิน เหงียน, อ่อง ตู, อ่อง อ่อง และ ตัน วันนา อ่อง
ไทยเปิดฉากบุกตั้งแต่ต้นเกม น.2 กฤษดา วงษ์แก้ว เปิดเตะมุมให้กับ ศุภวุฒิ เถื่อนกลาง กึ่งยิงกึ่งผ่านก่อนที่ เกียรติยศ แฉล้มเขตร์ จะซัดโล่งๆหน้าประตูให้ไทยนำ 1-0 น.6 เมียนมาร์มีโอกาสตีเสมอจาก อ่อง ลิน เมือง ที่หลุดขึ้นไปทางขวาก่อนยิงไปติดเซฟ ประกิต ด่านขุนทด
น.8 ทีมชาติมาได้ประตูนำ 2-0 อภิวัฒน์ แจ่มเจริญ ผ่านบอลให้ ณัฐวุฒิ หมัดยะลาน แปโล่งๆ จากนั้นไทยมาได้ 2 ประตูติดๆกันในช่วงเวลาไม่กี่วินาที กฤษดา วงษ์แก้ว ทำชิ่งกับ ศุภวุฒิ เถื่อนกลาง ก่อนที่ กฤษดา ที่วันนี้รับหน้าที่กัปตันทีมจะยิงบริเวณเขตโทษเข้าไปตุงตาข่ายให้ไทยขยับเป็น 3-0 ก่อนที่จังหวะถัดมา ศุภวุฒิ เถื่อนกลาง จะซัดมุมแคบด้วยซ้ายบอลพุ่งเสยเพดานเข้าไปอย่างสวยงามเปลี่ยนสกอร์เป็น 4-0
น.17 ศุภวุฒิ เถื่อนกลาง แทงบอลจากกลางสนามให้ จิรวัฒน์ สอนวิเชียร สอดขึ้นมากระโดดแปตามน้ำเป็นประตูอย่างสุดสวย ไทยนำ 5-0 ไม่กี่วินาทีถัดมาสกอร์เปลี่ยนมาเป็น 6-0 จากจังหวะสวนกลับก่อนที่ กฤษดา วงษ์แก้ว จัดการซัดโล่งๆไม่เหลือ จบครึ่งแรกไทยนำ 6-0
ช่วงครึ่งหลัง น.25 กฤษดา วงษ์แก้ว จ่ายย้อนหลังมาให้ ศุภวุฒิ เถื่อนกลาง ตะบันด้วยซ้ายเต็มแรงบอลพุ่งชนิดมองไม่ทันเสยเพดานตาข่ายเข้าไปอย่างสวยงาม ไทยนำ 7-0 น.26 ศุภวุฒิ กับ กฤษดา เล่นกัน 2 คน คราวนี้ ศุภวุฒิ งัดบอลจากฝั่งขวาให้กับ กฤษดา เข้ามาพังประตู ทิ้งห่าง 8-0
สกอร์เริ่มจะไหล น.29 เกียรติยศ แฉล้มเขตร์ เก็บตกหน้าประตู นำไทย 9-0 น.30 ศุภวุฒิ เถื่อนกลาง ใช้ความสามารถเฉพาะตัวแตะหลบผู้รักษาประตูเมียนมาร์ก่อนแปเข้าไปง่ายๆขึ้นเลข 2 หลัก 10-0
น.33 ณัฐวุฒิ หมัดยะลาน ดึงจังหวะหลอก เนย์ เมียว เชน ผู้รักษาประตูเมียนมาร์แล้วจัดการซัดเข้าไปสบายๆเป็นประตู 11-0 น.34 ศุภวุฒิ ได้ลูกเก่งเมื่อเพื่อนจ่ายคืนหลังมาให้แล้วหวดเน้นๆหน้าเขตโทษเป็นประตูที่ 4 ของตัวเองให้ไทยยิงครึ่งโหล 12-0
ไทยยังไม่เพลาเกมบุก น.37 กฤษดา วงษ์แก้ว ส่งบอลจากลูกเตะมุมเข้ากลางแล้ว จิรวัฒน์ สอนวิเชียร วิ่งเข้ามาแประยะหวังผลส่งบอลเข้าไปซุกก้นตาข่ายให้ไทยนำ 13-0 ก่อนจะจบเกมด้วยชัยชนะของทีมชาติไทย 13-0
สำหรับผลการอีกคู่ในสายเอ อินโดนีเซีย ชนะ ฟิลิปปินส์ 12-0 ส่วนผลการแข่งขันในสายบี ออสเตรเลีย ชนะ กัมพูชา 15-0 และ เวียดนาม ชนะ มาเลเซีย 4-0 โดยในนัดต่อไปทีมชาติไทยจะพบกับฟิลิปปินส์ วันที่ 22 ก.พ. เวลา 19.00 น. ที่ชาญชัย อคาเดี้ยม
รับอัดฉีด6.5หมื่นบาท
ภายหลังจบเกม นายสุทธิพันธ์ วรรณวินเวศร์ ผู้ช่วยผู้จัดการทีมชาติไทย ได้เผยว่า "พอใจกับเกมที่ออกมาซึ่งนักเตะใหม่ทำผลงานได้หน้าพอใจแต่จะไปเทียบกับซีเกมส์ไม่ได้เพราะชุดซีเกมส์มีผู้เล่นตัวเก๋าหลายคน การชนะได้ 13-0 ในเกมนี้หากเทียบกับศักยภาพถือว่าเป็นผลงานที่ดีแล้ว และนักเตะใหม่กับนักเตะยังต้องปรับจูนกันอีกเล็กน้อย ส่วนในเรื่องของโบนัสในเกมนี้ได้รับการสนับสนันจาก นายอุดม โปร่งฟ้า ที่ดึงเข้ามาเป็นผู้ช่วยผู้จัดการทีมอีกคนมอบให้ประตูละ 5,000 บาท รวมแล้วเป็นเงิน 65,000 บาท ซึ่งก็ทำให้นักเตะตั้งใจเล่นกันเป็นอย่างดี เพราะตามที่ตกลงไว้หากเสียประตูเงินโบนัสจะต้องลดเหลือครึ่งเดียว"
เฮอร์มันส์โผล่ชมทีมชาติไทย
นอกจากนี้ในเกมที่ทีมชาติไทยเอาชนะเมียนมาร์ 13-0 วิคเตอร์ เฮอร์มันส์ ว่าที่โค้ชคนใหม่ทีมชาติไทยได้เข้าชมการแข่งขันด้วย หลังจากที่เพิ่งเดินทางมาถึงเมืองไทยพร้อมกับภรรยาในช่วงบ่ายของวันที่ 21 ก.พ.
อันดับดาวซัลโว
5 ประตู : เชอร์วิน เคชาร์วาร์ซ (ออสเตรเลีย)
4 ประตู : ศุภวุฒิ เถื่อนกลาง (ไทย) และ บัมบัง บายู ซัฟตาจิ (อินโดนีเซีย)
