นายกฯมอบเฉลิม-ยุทธศักดิ์หัวหน้าทีมข่าวความมั่นคง

นายกฯมอบเฉลิม-ยุทธศักดิ์หัวหน้าทีมข่าวความมั่นคง

นายกฯมอบเฉลิม-ยุทธศักดิ์หัวหน้าทีมข่าวความมั่นคง
แชร์เรื่องนี้
แชร์เรื่องนี้LineTwitterFacebook

นางฐิติมา ฉายแสง รองเลขาธิการนายกรัฐมนตรี รักษาการโฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี แถลงว่า นายกรัฐมนตรี ได้มอบให้ ร.ต.อ.เฉลิม อยู่บำรุง รองนายกรัฐมนตรี เป็นหัวหน้าทีม ร่วมกับ พล.อ.ยุทธศักดิ์ ศศิประภา รองนายกรัฐมนตรี บูรณาการงานข่าว โดยจะประชุมร่วมกับหน่วยงานความมั่นคงทุกสัปดาห์ เพื่อแลกเปลี่ยนความคิดเห็นรับทราบข้อมูลมาวิเคราะห์ให้ทิศทางข่าวไปในทิศทางเดียวกัน และขอให้ กระทรวงคมนาคม ดูแลความปลอดภัยที่ สนามบินสุวรรณภูมิ ตำรวจท่องเที่ยว ดูแลความปลอดภัยในพื้นที่ ที่เป็นสถานที่ท่องเที่ยว และเพิ่มเจ้าหน้าที่ ที่สามารถสื่อสารภาษาต่างประเทศบริเวณด่านตรวจคนเข้าเมืองนอกจากนี้ นายกรัฐมนตรี ยังได้พูดถึงการลงพื้นที่สำรวจลุ่มน้ำ โดยขอบคุณทุกหน่วยงานที่ให้ความร่วมมือ เนื่องจาก ได้รับการตอบรับเป็นอย่างดี และจะมีการติดตามความคืบหน้าระดับน้ำทุกเดือน โดยกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ จะเป็นผู้รายงาน โดยคำนึงถึงภัยแล้งและน้ำท่วมเป็นหลักนางฐิติมา ฉายแสง รองเลขาธิการนายกรัฐมนตรี รักษาการโฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี แถลงว่า นายกรัฐมนตรี ได้มอบให้ ร.ต.อ.เฉลิม อยู่บำรุง รองนายกรัฐมนตรี เป็นหัวหน้าทีม ร่วมกับ พล.อ.ยุทธศักดิ์ ศศิประภา รองนายกรัฐมนตรี บูรณาการงานข่าว โดยจะประชุมร่วมกับหน่วยงานความมั่นคงทุกสัปดาห์ เพื่อแลกเปลี่ยนความคิดเห็นรับทราบข้อมูลมาวิเคราะห์ให้ทิศทางข่าวไปในทิศทางเดียวกัน และขอให้ กระทรวงคมนาคม ดูแลความปลอดภัยที่ สนามบินสุวรรณภูมิ ตำรวจท่องเที่ยว ดูแลความปลอดภัยในพื้นที่ ที่เป็นสถานที่ท่องเที่ยว และเพิ่มเจ้าหน้าที่ ที่สามารถสื่อสารภาษาต่างประเทศบริเวณด่านตรวจคนเข้าเมือง นอกจากนี้ นายกรัฐมนตรี ยังได้พูดถึงการลงพื้นที่สำรวจลุ่มน้ำ โดยขอบคุณทุกหน่วยงานที่ให้ความร่วมมือ เนื่องจาก ได้รับการตอบรับเป็นอย่างดี และจะมีการติดตามความคืบหน้าระดับน้ำทุกเดือน โดยกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ จะเป็นผู้รายงาน โดยคำนึงถึงภัยแล้งและน้ำท่วมเป็นหลัก ครม. ไฟเขียวแจกแท็บเล็ต 1,937 ลบ. นางฐิติมา ฉายแสง รองเลขาธิการนายกรัฐมนตรี รักษาการโฆษกประจําสํานักนายกรัฐมนตรี แถลงผลการประชุมคณะรัฐมนตรี ว่า ที่ประชุมมีมติอนุมัติในหลักการโครงการจัดการเรียนการสอน โดยใช้เครื่องคอมพิวเตอร์แบบพกพา (แท็บเล็ต) ให้กับนักเรียนชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 1 งบประมาณทั้งสิ้น 1,937 ล้านบาท และให้กระทรวงเทคโนโลยีสารสนเทศและการสื่อสาร ไปจัดหาแท็บเล็ต และจัดวางระบบเครือข่าย Wi-Fi และให้กระทรวงการต่างประเทศแต่งตั้งตัวแทนไปเจรจากับรัฐบาลจีนแบบรัฐต่อรัฐ นอกจากนี้ คณะรัฐมนตรี มีมติอนุมัติ 29 โครงการ ใน 2 จังหวัดภาคตะวันออกเฉียงเหนือ ที่คณะรัฐมนตรีเดินทางมาสัญจร รวมงบประมาณทั้งสิ้น 1,650 ล้านบาท  ครม.มอบกฤษฎีกา-ปปง.ถกกม.ฟอกเงินดึงเชื่อมั่น นางฐิติมา ฉายแสง รองเลขาธิการนายกรัฐมนตรีและปฏิบัติหน้าที่โฆษกประจําสํานักนายกรัฐมนตรี เปิดเผยว่า ที่ประชุมคณะรัฐมนตรี ได้มีมติมอบหมายให้ สำนักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา ร่วมกับ สำนักงานป้องกันและปราบปรามการฟอกเงิน หรือ ป.ป.ง. พิจารณาร่วมกันเกี่ยวกับการออกกฎหมายใหม่ เพื่อสร้างความเชื่อมั่นให้กับต่างประเทศหลังจาก คณะทำงานเฉพาะกิจเพื่อการดำเนินมาตรการทางการเงิน หรือ FATF กำหนดให้ประเทศไทยเป็น 1 ใน 15 ประเทศ ที่มีข้อบกพร่องเชิงยุทธศาสตร์การป้องกันและปราบปรามการฟอกเงิน ซึ่งจะต้องมีการดำเนินการเร่งด่วน เพื่อเป็นการเรียกความเชื่อมั่น นอกจากนี้ ที่ประชุมคณะรัฐมนตรี ยังมีมติเห็นชอบร่างข้อตกลงโควตาพักภาษีสินค้านำเข้าสัตว์ปีกแปรรูปของสหภาพยุโรป ระหว่างไทยกับสหภาพยุโรป หลังจากทางยุโรปได้มีการเตรียมการจัดสรรโควตาให้กับประเทศไทยแล้ว ครม. มีมติลงทุนพัฒนาโครงสร้างพื้นฐานในอาเซียนนางฐิติมา ฉายแสง รองเลขาธิการนายกรัฐมนตรี และ ปฏิบัติหน้าที่โฆษกประจําสํานักนายกรัฐมนตรี เปิดเผยว่า ที่ประชุมคณะรัฐมนตรี ได้มีมติเห็นชอบข้อตกลงในการเข้าถือหุ้นในกองทุน เพื่อการพัฒนาโครงสร้างพื้นฐานในภูมิภาคอาเซียน หรือ AIF ตามข้อเสนอของทางกระทรวงการคลัง เพื่อร่วมทุนถือหุ้นในกองทุนดังกล่าว จำนวน 15 ล้านดอลลาร์สหรัฐ เพื่อให้สอดคล้องกับประเทศเพื่อนบ้าน ที่มีการถือหุ้นเข้าในกองทุนนี้ โดยเรื่องดังกล่าวนั้น ไม่ต้องมีการเสนอต่อรัฐสภา เพื่อพิจารณาเนื่องจากไม่มีผลกระทบทางเศรษฐกิจ โดยตรงมากนัก ทั้งนี้ กองทุนดังกล่าว จะมีการช่วยส่งเสริมการลงทุนในโครงสร้างพื้นฐานประเทศเพื่อนบ้านและส่งเสริมการออมของอาเซียนในภูมิภาคนี้ด้วย ครม. มีมติเห็นชอบตามข้อเสนอ กรอ. พัฒนาเส้นทางโลจิสติกส์ นายชลิตรัตน์ จันทรุเบกษา รองโฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี เปิดเผยว่า ที่ประชุมคณะรัฐมนตรี มีมติเห็นชอบตามที่คณะกรรมการร่วมภาครัฐและเอกชน เสนอ ในโครงการการก่อสร้างรถไฟความเร็วสูง กรุงเทพฯ - หนองคาย เงินลงทุนประมาณ 1.5 แสนล้านบาท เพื่อให้การขนส่งสินค้าและการเดินทางเชื่อมต่อระหว่างประเทศไทย ลาว แล จีน มีความสะดวกมากขึ้น รวมทั้งเห็นชอบในการก่อสร้างเส้นทางรถไฟสายใหม่ จาก จ.ขอนแก่น อ.บ้านไผ่ - จ.นครพนม ระยะทาง 336 ก.ม. มูลค่าการลงทุนกว่า 3.3 หมื่นล้านบาท พร้อมทั้งอนุมัติโครงการก่อสร้างถนนเลียบริมแม่น้ำโขง ทางหลวงหมายเลข 211 และ 212 มูลค่า 5 - 6 หมื่นล้านบาท พร้อมกันนี้ ที่ประชุมยังได้มีมติเห็นชอบโครงการพัฒนาแหล่งน้ำรอบ จ.อุดรธานี ทั้งอ่างเก็บน้ำหนองหานกุมภวาปี และอ่างเก็บน้ำห้วยหลวง วงเงินงบประมาณในการดำเนินการ 964 ล้านบาท  มติครม.โยก'ชลิต'อธิบดีกรมชลฯนั่งรองปลัดกษ.นายอนุสรณ์ เอี่ยมสะอาด รองโฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี แถลงผลการประชุมคณะรัฐมนตรี ว่า คณะรัฐมนตรี มีมติแต่งตั้ง นายเลิศวิโรจน์ โกวัฒนะ รองปลัดกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ เป็นอธิบดีกรมชลประทาน และให้ นายชลิต ดำรงศักดิ์ อธิบดีกรมชลประทาน ไปเป็นรองปลัดกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ นอกจากนี้ ที่ประชุมคณะรัฐมนตรี ให้ทบทวนโครงการต่างๆ ในการแก้ปัญหาน้ำท่วม โดยคณะรัฐมนตรี อนุมัติโครงการของกรมชลประทาน งบประมาณรวมทั้งสิ้น 653 ล้านบาท และให้ชะลออีก 74 โครงการ งบประมาณกว่า 10,000 ล้านบาท เนื่องจากหลายหน่วยงานไม่สามารถเสนอของบประมาณได้ทันในกรอบระยะเวลาที่กำหนด ด้าน นายชลิตรัตน์ จันทรุเบกษา รองโฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี กล่าวว่า คณะรัฐมนตรี อนุมัติงบประมาณ 964 ล้านบาท ซึ่งเป็นงบประมาณผูกพันข้ามปี 2555 ฟื้นฟูแหล่งน้ำห้วยหลวง หนองหาน กุมภวาปี จ.อุดรธานี ทำให้สามารถกักเก็บน้ำได้เพิ่ม 10 ล้านลูกบาศก์เมตร โดยสามารถดำเนินการได้ในเดือน มี.ค. ครม.เห็นชอบกรอบงบประมาณรายจ่ายปี56 มูลค่า 2.44 ลลบ.นางฐิติมา ฉายแสง รองเลขาธิการนายกรัฐมนตรี ปฏิบัติหน้าที่โฆษกประจําสํานักนายกรัฐมนตรี เปิดเผยว่า ที่ประชุมคณะรัฐมนตรี ในวันนี้ เห็นชอบกรอบวงเงินงบประมาณรายจ่ายประจำปี 2556 วงเงิน 2.4 ล้านล้านบาท โดยเป็นงบประมาณขาดดุล 300,000 ล้านบาท เพิ่มขึ้นจากปี 2555 ที่มีกรอบงบประมาณที่ 2.38 ล้านล้านบาท โดยมีการประมาณการรายได้อยู่ที่ 2.1 ล้านล้านบาท เพิ่มขึ้นจากปีที่ผ่านมา ที่มีการกำหนดรายได้ที่ 1.98 ล้านล้านบาท ขณะที่ตัวเลขการขาดดุล อยู่ที่ 300,000 ล้านบาท ลดลงจากปีที่ผ่านมา อย่างไรก็ตาม งบลงทุนได้มีการกำหนดไว้ที่ร้อยละ 19.5 ของวงเงินงบประมาณรายจ่าย หรือคิดเป็น 467,000 ล้านบาท ทั้งนี้ ได้มีการตั้งงบประมาณในการชำระต้นเงินกู้ 48,639 ล้านบาท หรือ คิดเป็นร้อยละ 2 ของวงเงินงบประมาณรายจ่าย โดยงบประมาณดังกล่าว จะมีการคำนวณบนพื้นฐานเศรษฐกิจของประเทศ ที่จะขยายตัวที่ร้อยละ 8.4 ในปี 2556
แชร์เรื่องนี้
แชร์เรื่องนี้LineTwitterFacebook