คำนูณ-กรณ์ฟังศาลชี้ชะตา2พ.ร.ก.กู้เงิน กิตติรัตน์ส่งตัวแทน

คำนูณ-กรณ์ฟังศาลชี้ชะตา2พ.ร.ก.กู้เงิน กิตติรัตน์ส่งตัวแทน

คำนูณ-กรณ์ฟังศาลชี้ชะตา2พ.ร.ก.กู้เงิน กิตติรัตน์ส่งตัวแทน
แชร์เรื่องนี้
แชร์เรื่องนี้LineTwitterFacebook

ศาลรัฐธรรมนูญ ได้มีคำวินิจฉัยเป็นเอกฉันท์ ให้ผ่านพระราชกำหนดให้อำนาจกระทรวงการคลัง กู้เงินเพื่อวางระบบบริหารจัดการน้ำและสร้างอนาคตประเทศ พ.ศ.2555 เนื่องจากเห็นว่า พระราชกำหนดดังกล่าวเป็นการออกที่ไม่ขัดรัฐธรรมนูญ 184 วรรค 1 และ วรรค 2 เนื่องจากมีความจำเป็นเร่งด่วนมิอาจหลีกเลี่ยงได้ เพราะเหตุการณ์อุทกภัย ในปีที่ผ่านมา สร้างความเดือดร้อนให้กับประชาชนเป็นอย่างมาก และการออกพระราชกำหนดดังกล่าว เพื่อเป็นการบรรเทา รวมถึงการสร้างความเชื่อมั่นให้กับนักลงทุน ขณะที่พระราชกำหนดปรับปรุงบริหารหนี้เงินกู้ ที่กระทรวงการคลัง กู้เพื่อช่วยเหลือกองทุนฟื้นฟูและพัฒนาระบบสถาบันการเงินปี พ.ศ. 2555 นั้น ศาลรัฐธรรมนูญมีมติ 7 ต่อ 2 เสียง วินิจฉัยว่า เป็นไปตามรัฐธรรมนูญ ซึ่งศาลเห็นว่าเป็นการออกตามรัฐธรรมนูญมาตรา 184 วรรค 1 และ วรรค 2 เช่นกัน เนื่องจากปัญหาวิกฤติทางการเงิน แม้จะเกิดมากว่า 15 ปีแล้ว แต่การแก้ไขปัญหายังไม่สัมฤทธิ์ผล ทำให้สถาบันการเงิน ต้องรับภาระเป็นจำนวนมาก ศาลรัฐธรรมนูญจึงวินิจฉัยให้พระราชกำหนดทั้ง 2 ฉบับ เป็นไปเพื่อประโยชน์แก่การรักษาความมั่นคง ทางเศรษฐกิจเร่งด่วน มิอาจหลีกเลี่ยงได้ และจากนี้จะมีการส่งคำวินิจฉัย ไปยังสภาผู้แทนราษฎรและวุฒิสภาต่อไป ตุลาการศาล รธน.อ่านคำตัดสิน 2 พ.ร.ก.แล้ว ศาลรัฐธรรมนูญ ได้เริ่มอ่านคำวินิจฉัยพระราชกำหนดให้อำนาจกระทรวงการคลัง กู้เงินเพื่อวางระบบบริหารจัดการน้ำและสร้างอนาคตประเทศปี พ.ศ.2555 และพระราชกำหนดปรับปรุงการบริหารหนี้เงินกู้ที่กระทรวงการคลัง กู้เพื่อช่วยเหลือกองทุนฟื้นฟู และพัฒนาระบบสถาบันการเงินของรัฐบาลแล้ว โดยมี นายกรณ์ จาติกวณิช รองหัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ และ นายคำนูณ สิทธิสมาน ส.ว.สรรหา ผู้ร้องที่ 1 และ 2 เข้าร่วมฟังคำวินิจฉัย ขณะที่ฝ่ายรัฐบาลได้มอบหมายให้ นายอารีพงศ์ ภู่ชอุ่ม ปลัดกระทรวงการคลัง เข้าร่วมรับฟังคำวินิจฉัย โดยคำวินิจฉัยจะวินิจฉัยใน 2 ประเด็นคือพระราชกำหนดทั้ง 2 เป็นไปตามรัฐธรรมนูญมาตรา 184 วรรค 1 และ 2 หรือไม่ โดย นายวสันต์ สร้อยพิสุทธิ์ ประธานศาลรัฐธรรมนูญ ได้มอบหมายให้ นายอุดมศักดิ์ นิติมนตรี นายจรัญ ภักดีธนากุล และ นายจรูญ อินทจาร ตุลาการศาลรัฐธรรมนูญ เป็นผู้อ่านคำวินิจฉัย ซึ่งขณะนี้อยู่ระหว่างการอ่านคำวินิจฉัยอยู่ "คำนูณ-กรณ์" ฟังชี้ชะตา 2 พ.ร.ก. "กิตติรัตน์" ส่งตัวแทนบรรยากาศล่าสุดที่ ศาลรัฐธรรมนูญ ก่อนที่ ตุลาการศาลรัฐธรรมนูญ จะอ่านคำวินิจฉัย พระราชกำหนดกู้เงิน 2 ฉบับของรัฐบาล ในขณะนี้ นายคำนูณ สิทธิสมาน ส.ว.สรรหา ในฐานะผู้ร้อง รวมถึง สมาชิกกลุ่ม 40 ส.ว. ได้เดินทางมาถึงศาลรัฐธรรมนูญแล้ว นอกจากนี้ นายกรณ์ จาติกวณิช รองหัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ ในฐานะผู้ร้อง จะเดินทางมารับฟังคำวินิจฉัยด้วยตนเองด้วย ขณะที่ ฝ่ายผู้ถูกร้อง นายกิตติรัตน์ ณ ระนอง รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลัง ได้มอบหมายให้ นายอารีพงศ์ ภู่ชอุ่ม ปลัดกระทรวงการคลัง เดินทางมารับฟังคำวินิจฉัยของศาลรัฐธรรมนูญแทน เนื่องจาก นายกิตติรัตน์ ติดภารกิจในต่างจังหวัด ซึ่งบรรยากาศที่ ศาลรัฐธรรมนูญ ขณะนี้มีสื่อมวลชนเดินทางมาติดตามความเคลื่อนไหวเป็นจำนวนมาก พท.จี้อภิสิทธิ์-กรณ์รับผิดชอบหลัง พ.ร.ก.ไม่ขัด รธน. นายพร้อมพงศ์ นพฤทธิ์ โฆษกพรรคเพื่อไทย เรียกร้องให้พรรคประชาธิปัตย์ ออกมาแสดงความรับผิดชอบต่อกรณีที่ศาลรัฐธรรมนูญ วินิจฉัยว่า พระราชกำหนดกู้เงิน ทั้ง 2 ฉบับ ไม่ขัดกับรัฐธรรมนูญ และขอขอบคุณคณะตุลาการ ที่ตัดสินเรื่องนี้อย่างตรงไปตรงมา ทั้งนี้ นายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ หัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ และ นายกรณ์ จาติกวณิช รองหัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ และบุคคลอื่นๆ ที่เกี่ยวข้อง ควรออกมาแสดงความรับผิดชอบ และขอโทษต่อกรณีนี้  ปชป. พร้อมตรวจสอบรัฐบาลใช้งบนายกรณ์ จาติกวณิช รองหัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ กล่าวภายหลังศาลรัฐธรรมนูญ มีคำวินิจฉัยว่า พระราชกำหนดการเงิน 2 ฉบับของรัฐบาล ไม่ขัดต่อรัฐธรรมนูญมาตรา 184 ว่า พรรคประชาธิปัตย์เคารพผลคำวินิจฉัยของศาล ซึ่งถือว่ากระบวนการยื่นศาลรัฐธรรมนูญตีความ การออกพระราชกำหนดการเงิน 2 ฉบับ จบลงแล้ว ซึ่งจากนี้ต่อไป รัฐบาลสามารถนำพระราชกำหนดเข้าสู่กระบวนการพิจารณาของสภาผู้แทนราษฎร และจะต้องนำเสนอกรอบการใช้งบประมาณให้ชัดเจน โดยพรรคประชาธิปัตย์ จะทำหน้าที่ในสภาผู้แทนราษฎร ตรวจสอบการทำงานของรัฐบาล ซึ่งรัฐบาลจะต้องใช้ความระมัดระวัง และทำทุกอย่างให้โปร่งใส เพราะนอกจากพรรคฝ่ายค้านแล้ว ยังมีวุฒิสภาที่จะทำหน้าที่ตรวจสอบการทำงานของรัฐบาล ทั้งนี้ พรรคประชาธิปัตย์ไม่ติดใจคำวินิจฉัยของศาล และจะยุติกระบวนการทางกฎหมาย อภิสิทธิ์ยอมรับคำตัดสินศาล-พร้อมสอบใช้เงิน นายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ หัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ กล่าวถึงกรณีที่ศาลรัฐธรรมนูญ วินิจฉัยว่า พระราชกำหนดเงินกู้ 2 ฉบับ ของรัฐบาล ไม่ขัดต่อรัฐธรรมนูญ ว่า ทางพรรคประชาธิปัตย์ เคารพคำตัดสินของศาล แต่หลังจากนี้ ทางพรรคจะตรวจสอบการบังคับใช้พระราชกำหนดดังกล่าว ว่ามีประสิทธิภาพและโปร่งใสหรือไม่ โดยเฉพาะการแก้ไขปัญหาน้ำท่วม ที่ศาลเห็นว่ามีความจำเป็นเร่งด่วน แต่หากรัฐบาลดำเนินการล่าช้า ทางพรรคก็จะดำเนินการต่อไป พร้อมทั้งฝากไปยังรัฐบาลว่า การออกกฎหมายใดๆ ควรให้เป็นไปตามกระบวนการของฝ่ายนิติบัญญัติอย่างถูกต้อง เพื่อไม่ให้เกิดปัญหา แต่หากยึดหลักเสียงข้างมาก และไม่ฟังเสียงจากคนอื่น ก็จะทำให้เกิดความเคลือบแคลงใจสงสัยในสังคม และทำให้เกิดปัญหาตามมาได้ นายกฯขอบคุณผ่าน2พรก.ย้ำเร่งแก้ปัญหา น.ส.ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร นายกรัฐมนตรี กล่าวภายหลังเดินทางกลับจากการประชุมคณะรัฐมนตรีสัญจร ที่ จ.อุดรธานี ถึงกรณีที่ศาลรัฐธรรมนูญ มีคำวินิจฉัยว่า พระราชกำหนดให้อำนาจกระทรวงการคลัง กู้เงินเพื่อวางระบบบริหารจัดการน้ำและสร้างอนาคตประเทศ พ.ศ. 2555 และพระราชกำหนดบริหารหนี้เงินกู้ ที่กระทรวงการคลังกู้เพื่อช่วยเหลือกองทุนฟื้นฟูและพัฒนาระบบสถาบันการเงิน พ.ศ. 2555 เป็นไปตามรัฐธรรมนูญมาตรา 184 ว่า ขอบคุณศาลรัฐธรรมนูญ ที่เข้าใจรัฐบาลในการแก้ไขปัญหาเร่งด่วน ในการฟื้นฟูประเทศ หลังอุทกภัยที่ผ่านมา อย่างยั่งยืน และหลังจากนี้ จะเป็นหน้าที่ของประธานสภาผู้แทนราษฎร ที่จะต้องดำเนินการนำพระราชกำหนดทั้ง 2 ผ่านสภาผู้แทนราษฎร และในส่วนของรัฐบาลนั้น จะเร่งแก้ไขปัญหาเร่งด่วนต่อไป
แชร์เรื่องนี้
แชร์เรื่องนี้LineTwitterFacebook