เด็กประถมพกปืนไปโรงเรียน ยิงใส่เพื่อนสาหัส!

สำนักข่าวต่างประเทศรายงานว่า เกิดเหตุระทึกขวัญขึ้นกลางโรงเรียนประถมเล็ก ๆ แห่งหนึ่ง ห่างจากนครซีแอตเติล รัฐวอชิงตัน สหรัฐอเมริกา ไปประมาณ 30 กิโลเมตร เมื่อเด็กชายวัยเพียง 9 ขวบ พกอาวุธปืนมาที่โรงเรียน ก่อนจะก่อเหตุยิงเพื่อนร่วมชั้นเรียนกระสุนฝังเข้าท้องเด็กหญิงวัย 8 ขวบ อาการสาหัส

ตามรายงานระบุว่า เหตุดังกล่าวเกิดขึ้นช่วงบ่ายของวันที่ 22 กุมภาพันธ์ที่ผ่านมา ตามเวลาท้องถิ่น เจ้าหน้าที่ตำรวจได้รับแจ้งเหตุว่ามีเด็กนักเรียนถูกยิงได้รับบาดเจ็บสาหัส ถูกนำตัวส่งโรงพยาบาลแล้ว ที่โรงเรียนอาร์มิน จาฮ์ ทราบชื่อคือ ด.ญ.เอมีนา โคเชอร์-โบลแมน วัย 8 ปี เรียนอยู่ชั้นเกรด 3 (ป.3) ขณะที่ทางโรงเรียนได้ทำการกักตัว เด็กชายวัย 9 ขวบ ผู้ที่ครอบครองปืนเอาไว้ ก่อนจะส่งตัวให้เจ้าหน้าที่ตำรวจจับกุมตัวไป

แหล่งข่าวยังระบุอีกว่า เด็กชายมีอาวุธปืนชนิด .45 แคลิเบอร์ ที่นำมาจากบ้านแม่ของเขา และนำใส่กระเป๋าเป้มาที่โรงเรียน ก่อนจะเกิดเหตุปืนลั่นและกระสุนฝังท้องเด็กหญิงเพื่อนร่วมชั้นดังกล่าว

สำหรับกรณีดังกล่าวกลายเป็นที่วิพากษ์วิจารณ์ในสังคมอเมริกา อีกทั้งยังเกิดคำถามขึ้นมาว่า เหตุใดนักเรียนจึงนำเอาอาวุธปืนเข้าไปในห้องเรียนได้ ทั้งที่โรงเรียนรัฐฯ ทั่วประเทศมีมาตราการตรวจจับอาวุธก่อนเข้าชั้นเรียน และจะเกิดอะไรขึ้นกับเด็กชายวัย 9 ขวบที่ก่อเหตุในครั้งนี้

เบื้องต้นมีรายงานว่า เด็กชายยังคงต้องถูกควบคุมตัวเพื่อสอบปากคำ อย่างน้อยอีกประมาณ 2 สัปดาห์ เนื่องจากยังไม่ทราบสาเหตุที่แน่ชัดว่า เป็นอุบัติเหตุปืนลั่นหรือตั้งใจก่อเหตุ หากพบว่าผิดจริงเด็กชายอาจจะได้รับโทษตามกฎหมายความผิดสำหรับเยาวชนอายุ 8 ถึง 12 ปี ถึงแม้ว่าครอบครัวของเด็กชายจะออกมขอรับผิดชอบทั้งหมด พร้อมกับแก้ต่างให้วลูกชายว่าเป็นเด็กดี และกล่าวขอโทษครอบครัวของเด็กหญิงที่ได้รับบาดเจ็บด้วย ทั้งนี้ทางเจ้าหน้าที่ได้ตั้งวงเงินประกันตัวเด็กชายไว้ที่ 50,000 ดอลลาร์สหรัฐ หรือราว 1.5 ล้านบาท

สำหรับอาการของ ด.ญ.เอมีนา ที่ถูกกระสุนพลาดเข้าบริเวณท้อง แพทย์ระบุว่า การผ่าตัดนำกระสุนออกดำเนินไปอย่างเรียบร้อย แต่ยังคงต้องเฝ้าดูอาการของเด็กหญิงอย่างใกล้ชิดต่อไป เนื่องจากเด็กหญิงยังจำเป็นต้องใช่เครื่องช่วยหายใจและยังไม่รู้สึกตัว รวมทั้งอาจจะมีการผ่าตัดเพิ่มเติมอีกด้วย

ทั้งนี้เหตุการณ์ดังกล่าว ได้สร้างความตื่นตกใจและสะเทือนขวัญแก่คนทั่วประเทศ โดยเฉพาะเด็กนักเรียนประถมกว่า 400 คนของโรงเรียนดังกล่าว