ธอส.เตรียมหารือคลังถกโครงการบ้านหลังแรก

ธอส.เตรียมหารือคลังถกโครงการบ้านหลังแรก

ธอส.เตรียมหารือคลังถกโครงการบ้านหลังแรก
แชร์เรื่องนี้
แชร์เรื่องนี้LineTwitterFacebook

นายวรวิทย์ ชัยลิมปมนตรี กรรมการผู้จัดการธนาคารอาคารสงเคราะห์ (ธอส.) กล่าวว่า ความคืบหน้าโครงการสินเชื่อที่อยู่อาศัยแห่งแรก หลังละไม่เกิน 1,000,000 บาท อัตราดอกเบี้ย 0 % จำนวน 3 ปีนั้น หลังจากผ่านไป 2 - 3 เดือน ปรากฏว่า มียอดขอสินเชื่อโครงการดังกล่าวเพียง 2,000 ล้านบาท เท่านั้น อาจเป็นผลมาจากปัญหาอุทกภัยที่เกิดขึ้น รวมไปถึงเงื่อนไขของการขอสินเชื่อ ที่จะต้องมีการติดตามความคืบหน้าต่อไปอีกสักระยะ ว่าโครงการจะขยายตัวเพิ่มมากขึ้นกว่านี้หรือไม่ อย่างไรก็ตาม คาดว่าภายในเดือน มี.ค. ทางธนาคารจะมีการพิจารณาร่วมกับทางกระทรวงการคลัง เพื่อลดเงื่อนไขต่างๆ ลง เพื่อเป็นแรงจูงใจให้ประชาชนเข้ามาซื้อบ้านเพิ่มขึ้น ส่วนการกำหนดราคาบ้าน คงเป็นนโยบายของรัฐบาล อสังหาฯ ปี 2555 จะเติบโตได้ร้อยละ 5แนวโน้มอัตราดอกเบี้ยนโยบายในปีนี้นั้น เชื่อว่า จะเป็นทิศทางขาลง โดยคาดว่าจะลดลงประมาณ ร้อยละ 0.5 จากปัจจุบันที่อยู่ในระดับ ร้อยละ 3 ทำให้ทางธนาคารต่างๆ น่าจะมีการปรับลดอัตราดอกเบี้ยลง ทั้งด้านดอกเบี้ยเงินกู้ และอัตราดอกเบี้ยเงินฝาก ในระดับเดียวกัน ส่วนแนวโน้มอสังหาริมทรัพย์ในปีนี้นั้น คาดว่าน่าจะเติบโตได้ประมาณ ร้อยละ 5 ตามการประมาณการเศรษฐกิจที่ขยายตัว อยู่ในกรอบร้อยละ 5 - 6 รวมทั้งจากนโยบายการปรับขึ้นค่าแรง รวมไปถึงเงินเดือนของรัฐบาลที่จะทำให้กำลังซื้อของประชาชนเพิ่มขึ้นอีกด้วย ตั้งเป้าสินเชื่อปี 55 ไว้ที่ 99,000 ล้านบาทผลการประกอบการของทางธนาคาร ประจำปี 2554 ที่ผ่านมา ทางธนาคารสามารถปล่อยสินเชื่อใหม่ ได้ทั้งสิ้นกว่า 100,000 ล้านบาท หรือ เพิ่มขึ้นร้อยละ 3.72 ขณะที่หนี้ที่ไม่ก่อให้เกิดรายได้ (NPL) นั้น อยู่ที่ระดับ 47,000 ล้านบาท หรือคิดเป็นร้อยละ 7.12 ซึ่งปรับลดลงกว่าปี 2553 ลงมาก หากเทียบกับยอดสินเชื่อรวม ขณะที่ทั้งปีนี้ ทางธนาคารตั้งเป้าไว้ว่า จะมีการปล่อยสินเชื่อใหม่ อยู่ที่ 99,000 ล้านบาท ตามนโยบายที่ได้รับ เชื่อว่าจะขยายตัวอยู่ที่ประมาณร้อยละ 5 ธอส. เตรียมส่งเงินเข้ากองทุนฟื้นฟูฯฃในขณะนี้ ทางกระทรวงการคลัง กำลังพิจารณารายละเอียดในการบังคับใช้การส่งเงิน ร้อยละ 0.47 ของฐานเงินฝาก เข้ายังกองทุนพัฒนาประเทศของทางธนาคารของรัฐ ที่มีฐานเงินฝากเป็นลูกค้ารายย่อยอยู่ ว่าจะต้องมีการออกกฎหมายใหม่หรือไม่ โดยทางธนาคาร ต้องนำส่งเงินดังกล่าวประมาณ 2,700 ล้านบาท ขณะเงินฝากนั้น มีฐานรายได้อยู่ที่ประมาณ 5.7 แสนล้านบาท ซึ่งคาดว่าอาจจะกระทบต้นทุนการดำเนินการบ้าง แต่ไม่มาก เนื่องจากปีที่ผ่านมา ทางธนาคารมีกำไรกว่า 6,900 ล้านบาท อย่างไรก็ตามยืนยันว่า จะไม่มีการผลักภาระให้กับประชาชน
แชร์เรื่องนี้
แชร์เรื่องนี้LineTwitterFacebook