คมนาคมเบรก! มติขึ้นมิเตอร์แท็กซี่
นายจารุพงศ์ เรืองสุวรรณ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงคมนาคม เปิดเผยถึงการเรียกร้องขอปรับราคาค่าโดยสารของผู้ประกอบการ หลังจากราคาน้ำมันดีเซล เพิ่มขึ้นมาแตะ 32 บาทต่อลิตร ว่า จะต้องมีการหารือของกระทรวงที่เกี่ยวข้อง ทั้งกระทรวงคมนาคม และกระทรวงพลังงาน ก่อนที่จะดำเนินการใดๆ โดยจะต้องพิจารณาข้อมูลอย่างรอบคอบจึงจะวางแผนกำหนดราคาได้นอกจากนี้สถานการณ์ราคาน้ำมันจะต้องทรงตัวเป็นระยะเวลา 2-3 เดือน ทั้งนี้แม้ว่าขณะนี้กระทรวงพลังงานจะปรับราคาก๊าซเอ็นจีวีและแก๊สแอลพีจี ซึ่งการปรับรอบ 3 จะมีผลในวันที่ 16 มีนาคมนี้ แต่ไม่ได้ส่งผลกระทบกับกลุ่มแท็กซี่ เนื่องจากว่าขณะนี้กระทรวงพลังงานได้ชดเชยราคาก๊าซทั้ง 2 ประเภทให้กับผู้ขับแท็กซี่อยู่แล้ว
สำหรับกรณีข่าวว่า กรมการขนส่งทางบกมีมติให้ปรับขึ้นราคาค่าโดยสารแท็กซี่ได้ โดยเสนอรูปแบบในการปรับค่าโดยสาร 4 รูปแบบ โดยคงค่าบริการเริ่มต้นที่ 35 บาทแต่ปรับเพิ่มในส่วนระยะทาง หรือ ปรับค่าบริการเริ่มต้นที่ 40 บาท 45 บาท หรือ 50 บาท
ด้าน นายเกษมสันต์ ชมภูแดง ผู้จัดการสหกรณ์แท็กซี่ภูมิพลัง ระบุว่า ประมาณปลายเดือนมีนาคมถึงต้นเดือนเมษายน ผู้ประกอบการแท็กซี่และทุกหน่วยงานที่เกี่ยวข้องจะหารือร่วมกันอีกครั้ง เพื่อให้ได้ข้อสรุปว่า จะใช้วิธีไหนในการปรับค่าโดยสาร โดยสะท้อนต้นทุนการทำงานที่แท้จริง
ทั้งนี้ผู้ประกอบการขนส่ง กระทรวงพลังงานและกระทรวงคมนาคม ยังคงอยู่ในระหว่างหารือเพื่อหาข้อสรุปร่วมกันถึงการปรับค่าก๊าซเอ็นจีวี และแอลพีจี โดยเบื้องต้นผู้ประกอบการยอมรับเงื่อนไขทยอยขึ้นก๊าซทั้ง 2 ประเภท เดือนละ 50 สตางค์ รวมเป็น 2 เป็นเวลา 4 เดือน
ขณะที่ นายถวัลย์รัฐ อ่อนศิระ อธิบดีกรมเจ้าท่า กล่าวว่า เรือโดยสารได้ยื่นขอปรับราคาจากราคาน้ำมันมาจริง โดยทางกรมเจ้าท่าได้เจรจาว่า ขอพิจารณาการปรับราคา เมื่อ ดีเซล แตะ 33 บาทต่อลิตร และจนถึงขณะนี้ได้ให้นักวิชาการ ศึกษาโครงสร้างต้นทุนราคาและต้นทุนของผู้ประกอบการอยู่