เรือด่วนฯหยุดวิ่งหลังดีเซลทะลุ32บ./ลิตรเริ่ม17มี.ค.

เรือด่วนฯหยุดวิ่งหลังดีเซลทะลุ32บ./ลิตรเริ่ม17มี.ค.

เรือด่วนฯหยุดวิ่งหลังดีเซลทะลุ32บ./ลิตรเริ่ม17มี.ค.
แชร์เรื่องนี้
แชร์เรื่องนี้LineTwitterFacebook

นาวาโท ปริญญา รักวาทิน กรรมการผู้จัดการใหญ่ บริษัท เรือด่วนเจ้าพระยา จำกัด กล่าวกับ สำนักข่าว INN ว่า บริษัทได้ยกเลิกการให้บริการเรือด่วนเจ้าพระยา ในเส้นทางส่วนต่อขยายจากท่าน้ำสาทร ไปถึง ท่าน้ำราษฎร์บูรณะ ตั้งแต่วันที่ 17 มีนาคม 2555 เป็นต้นไป  เนื่องจาก บริษัทได้รับผลกระทบจากราคาน้ำมันดีเซล ที่มีการปรับราคาขึ้น ทะลุ 32 บาท/ลิตร อีกทั้ง จำนวนผู้โดยสารเรือด่วนในเส้นทางดังกล่าว ก็มีจำนวนลดลงจากเดิม 2,000 คนต่อวัน ก็ลดลงมาอยู่ที่วันละไม่ถึง 600 คน เนื่องจากประชาชนหันไปโดยสารรถเมล์ ขสมก. และรถเมล์เอกชนแทนอย่างไรก็ตาม ในส่วนของเรือด่วนเจ้าพระยา ประเภทไม่มีธง จอดทุกท่าเรือ, เรือด่วนพิเศษธงส้ม, เรือด่วนพิเศษธงเขียว และเรือด่วนพิเศษธงเหลือง ยังคงให้บริการแก่ประชาชนตามปกตินอกจากนี้ นาวาโทปริญญา ยังได้กล่าวถึงความคืบหน้าในการขอปรับขึ้นค่าโดยสารเรือด่วนเจ้าพระยา 2 บาท ต่อระยะทางว่า ในวันช่วงบ่ายของวันพรุ่งนี้ จะนำเสนอรายงานต้นทุนการประกอบธุรกิจต่อกรมเจ้าท่า เพื่อขอปรับขึ้นค่าโดยสารเรือทั้งนี้ หากกรมเจ้าท่าและกระทรวงคมนาคม มีมติให้ชะลอการขึ้นค่าโดยสารเรือออกไป ก็จะต้องมีเหตุผลเพียงพอที่ไม่ให้ขึ้นค่าโดยสาร เพราะทุกวันนี้ ผู้ประกอบการต้องแบกรับภาระต้นทุนในการประกอบธุรกิจที่สูงมาก จากราคาน้ำมันที่ปรับตัวสูงขึ้น ซึ่งการขอปรับขึ้นค่าโดยสาร 2 บาทต่อระยะทางนั้น อยู่ภายใต้ที่ราคาน้ำมันดีเซล ยังไม่ทะลุ 35 บาท แต่หากราคาน้ำมันดีเซลทะลุ 35 บาทต่อลิตร ทางเรือด่วนเจ้าพระยา ก็จะต้องของปรับขึ้นค่าโดยสารอีกครั้ง 'บุญทรง'ยันตรึงน้ำมันปาล์ม42บ./ขวดนายบุญทรง เตริยาภิรมย์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงพาณิชย์เปิดเผยว่าจากการหารือร่วมกับสมาคมผู้ผลิตน้ำมันปาล์ม และสมาคมค้าปลีกถึงการแก้ไขปัญหาน้ำมันปาล์มว่า ผู้ประกอบการมีต้นทุนการผลิตที่เพิ่มขึ้นจริงจากราคาน้ำมันปาล์มดิบ เดิมกิโลกรัมละ 29 บาท เป็น 34 - 35 บาท สะท้อนมาเป็นต้นทุนจำหน่ายที่ 50 บาท แต่รัฐบาลจะมีมาตรการระยะสั้น เป็นการดูแลให้เป็นเวลา 1 เดือน อาทิ การหาแหล่งวัตถุดิบ โดยไม่ต้องใช้งบประมาณในการอุดหนุน ซึ่งมาตรการดังกล่าวจะเสนอที่ประชุมคณะรัฐมนตรีในสัปดาห์หน้า โดยจะไม่มีการปรับราคาจำหน่ายปลีกเพิ่มขึ้นจากขวดละ 42 บาท โดยเด็ดขาด และทางห้างค้าปลีกรวมถึงสมาคมค้าปลีก จะต้องมีการจัดจำหน่ายสินค้าโดยไม่ให้ขาดจากชั้นวาง และที่มีการปรับราคาจำหน่ายไปก่อนหน้านี้ ทางกรมการค้าภายใน จะต้องส่งเจ้าหน้าที่ลงไปตรวจสอบอย่างเข้มงวด คค.เตรียมขึ้นค่าแท็กซี่ปรับเพิ่มตามระยะทาง นายชัชชาติ สิทธิพันธุ์ รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงคมนาคม เปิดเผยว่า กระทรวงคมนาคมได้คำนวณแนวทางการปรับขึ้นมิเตอร์ของรถแท็กซี่ตามราคาก๊าซเอ็นจีวีที่จะปรับขึ้นถึงสิ้นปี 2 บาท ซึ่งจะส่งผลให้ราคาก๊าซมีราคาสูงขึ้น ถึง10.50 บาท โดยแนวทางการปรับขึ้นมิเตอร์ของรถแท็กซี่นั้น ส่วนตัวเห็นว่าการปรับขึ้นตามระยะทางเพิ่มจากเดิมระยะละ 50 สตางค์ มีความเหมาะสม แทนการปรับขึ้นเฉพาะ กม.แรก จาก 35 บาทเป็น 40 หรือ 50 บาท ตามที่กลุ่มแท็กซี่ร้องขอเนื่องจากการปรับขึ้นค่าโดยสาร กม.แรก อาจส่งผลกระทบให้ผู้โดยสารไม่ใช้บริการ และจะกระทบกับกลุ่มแท็กซี่เอง โดยในสัปดาห์หน้าจะนำแนวทางนี้ ไปหารือกับกรมการขนส่งทางบก กระทรวงพลังงาน รวมทั้งกลุ่มแท็กซี่ เพื่อสรุปแนวทางการขึ้นค่าโดยสารอีกครั้ง ก่อนที่จะมีการปรับขึ้นราคาก๊าซเอ็นจีวีรอบใหม่ ในวันที่ 16 เมษายนนี้ เจ๊เกียวขึ้นค่ารถ6สต./กม.1เมย.ยอมถูกปรับนางสุจินดา เชิดชัย หรือ เจ๊เกียว นายกสมาคมผู้ประกอบการรถยนต์โดยสาร กล่าวกับ สำนักข่าว INN ว่า ในวันนี้ได้เดินทางมาพบ นายจารุพงศ์ เรืองสุวรรณ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงคมนาคม เพื่อสอบถามถึงการปรับขึ้นค่าโดยสารรถ อีก 6 สตางค์ต่อกิโลเมตร หลังจากราคาน้ำมันดีเซล ซึ่งเป็นต้นทุนในการประกอบธุรกิจ ได้พุ่งสูงขึ้นอย่างต่อเนื่อง แต่เนื่องจาก นายจารุพงศ์ ติดภารกิจ จึงไม่ได้เข้าพบ แต่ที่ปรึกษาของ นายจารุพงศ์ ระบุว่า รัฐมนตรีว่าการกระทรวงคมนาคม รับปากที่จะพิจารณาตามข้อเรียกร้องให้ทั้งนี้ นางสุจินดา ยืนยันว่า หากทางสมาคมฯ ไม่ได้รับคำตอบจากกระทรวงคมนาคม เรื่องการปรับขึ้นค่าโดยสาร ดังนั้นภายใน วันที่ 1 เม.ย.นี้ ทางสมาคมฯ ก็มีความจำเป็นอย่างยิ่ง ที่จะปรับขึ้นราคาค่าโดยสาร ในอัตรา 6 สตางค์ต่อกิโลเมตร ทันที โดยจะไม่รอการพิจารณาปรับขึ้น ของคณะกรรมการควบคุมการขนส่งทางบกกลาง โดยยอมที่จะจ่ายค่าปรับจากการขึ้นค่าโดยสารโดยไม่ได้รับการอนุมัติ เนื่องจาก สมาคมฯ ขอปรับขึ้นค่าโดยสารมาแล้ว ตั้งแต่เดือน ก.พ.ที่ผ่านมา แต่ก็ไม่ได้รับคำตอบ และผู้ประกอบการเองก็ไม่สามารถแบกรับภาระต้นทุนได้อีกต่อไป
แชร์เรื่องนี้
แชร์เรื่องนี้LineTwitterFacebook