วุฒิสารรับไร้หลักประ กันปรองดองสำเร็จยันถกทักษิณแล้ว

วุฒิสารรับไร้หลักประ กันปรองดองสำเร็จยันถกทักษิณแล้ว

วุฒิสารรับไร้หลักประ กันปรองดองสำเร็จยันถกทักษิณแล้ว
แชร์เรื่องนี้
แชร์เรื่องนี้LineTwitterFacebook

นายวุฒิสาร ตันไชย รองเลขาธิการสถาบันพระปกเกล้า กล่าวกับสำนักข่าว ไอ.เอ็น.เอ็น. ยืนยันว่า สถาบันจะไม่ถอย หรือ เดินหน้าเรื่องข้อเสนอปรองดอง โดยจะทำตามหน้าที่ที่กรรมาธิการมอบหมายให้ศึกษา พร้อมยังเห็นว่าเป็นเรื่องธรรมดา ที่ข้อเสนอของสถาบันอาจไม่ถูกนำมาใช้ ส่วนกรณีของ ร.ต.อ.เฉลิม อยู่บำรุง รองนายกรัฐมนตรี ที่มีความเห็นเรื่องพระราชบัญญัติปรองดองนั้น เป็นเรื่องของรัฐบาล ไม่เกี่ยวกับสถาบัน โดยเห็นว่า การออกกฎหมายเรื่องนี้ ขึ้นอยู่กับห้วงเวลาและเนื้อหาสาระที่เหมาะสม ซึ่งการที่ ร.ต.อ.เฉลิม ระบุว่า แนวทางของสถาบันไม่มีวันสร้างปรองดองสำเร็จได้นั้น ก็ยอมรับว่าไม่มีหลักประกัน เพราะสถาบันทำได้เพียงแต่เสนอเงื่อนไขเท่านั้น นอกจากนี้ รองเลขาธิการสถาบันพระปกเกล้า ยังกล่าวอีกว่า สถาบันได้ทำหน้าที่จบแล้ว โดยจะยื่นข้อเสนอให้กรรมาธิการพรุ่งนี้ และรอให้ข้อมูลเพิ่มเติม ทั้งนี้ ก่อนมีข้อเสนอปรองดองออกมา ได้คุยกับ พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี และ น.ส.ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร นายกรัฐมนตรีแล้ว รวมถึงได้คุยกับ นายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ ผู้นำฝ่ายค้านด้วย ซึ่งไม่สามารถบอกรายละเอียดได้ แต่ยืนยันได้ว่า ทุกคนเห็นด้วยในการสร้างความปรองดอง แต่เสนอวิธีที่ต่างกันเท่านั้น ทั้งนี้ ในเดือนพฤษภาคมนี้ ที่สมาชิกบ้านเลขที่ 111 จะกลับมานั้น เชื่อว่า น่าจะกลับมามีบทบาทโดยตรงต่อการเมือง และหวังว่าการเปลี่ยนแปลงจะทำให้ดีขึ้น แต่เชื่อว่าจะไม่มากระทบกับแนวทางปรองดองของสถาบันรองเลขาธิการสถาบันพระปกเกล้า ยังกล่าวอีกว่า แนวทางการเจรจาที่เสนอไป ไม่ใช่การเอาคู่ขัดแย้งมาเจรจา แต่เป็นแค่การมาหารือเพื่อหาข้อยุติ ซึ่งไม่มีรูปแบบ และไม่ใช่การต่อรอง ขณะที่ องค์ประกอบ และคุณสมบัติของ ส.ส.ร.ใหม่ ที่จะตั้งขึ้นมาแก้รัฐธรรมนูญฉบับปี 2550 นั้น ควรมีตัวแทนจากภาคประชาชนและภาควิชาการ ผู้ชำนาญการที่จะเขียน และมีความเชื่อมโยง มีหลักวิชาการ ต้องมีคนออกแบบ เปรียบเหมือนการสร้างบ้าน ที่คนอยู่อาศัยจะบอกว่าต้องการบ้านแบบใด แต่การสร้างต้องอาศัยสถาปนิก และวิศวกรทั้งนี้ นายวุฒิสาร กล่าวว่า เป็นเรื่องจริง ที่รัฐธรรมนูญฉบับ 50 เกิดจากการล้มอำนาจ พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี แต่บางเรื่องก็เป็นประโยชน์ บางเรื่องก็เป็นปัญหา ซึ่งเรื่องสำคัญคือ กระบวนการทำงาน และการยอมรับ 'ธีรยุทธ'บอกปรองดองต้องทำระยะยาวนายธีรยุทธ บุญมี ผู้อำนวยการสถาบันสัญญา ธรรมศักดิ์ เพื่อพัฒนาประชาธิปไตย มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ แถลงข่าวว่า ปัญหาความขัดแย้งวิกฤติการเมืองไทยที่รุนแรงที่ผ่านมาจนถึงขณะนี้ เนื่องมาจากการไม่ยอมรับความคิดเห็นของกลุ่มสีเสื้อที่ต่างกัน และการรวมศูนย์อำนาจมากเกินไป ซึ่งมองว่า พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี เป็นอีกหนึ่งนักการเมืองที่มีส่วนเกี่ยวข้องกับความแตกแยกดังกล่าว ขณะที่การจะเกิดความปรองดอง หรือสมานฉันท์กันได้นั้น ต้องมาจากการยอมรับซึ่งกันและกัน หากยังไม่สามารถยุติคู่อำนาจทางการเมืองนี้ได้ ก็มีโอกาสเกิดการชุมนุมประท้วงที่รุนแรงขึ้นได้อีก ซึ่งความขัดแย้งในปัจจุบัน ได้ลุกลามไปถึงการวิพากษ์วิจารณ์สถาบันพระมหากษัตริย์ ซึ่งมาตรา 112 ก็เป็นเพียงปลายทางของปัญหาเท่านั้นทั้งนี้ นายธีรยุทธ ยังกล่าวว่า พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี เป็นผู้นำการตลาดมากกว่าเป็นผู้นำประชาธิปไตย มุงหวังให้รากหญ้าเป็นลูกค้า ซื้อสินค้าของตังเอง มากกว่าสร้างรากหญ้าให้เป็นฐานที่มั่นคงของระบบเศรษฐกิจการเมืองไทย อีกทั้งมองว่า พ.ต.ท.ทักษิณ ไม่ได้เชื่อมั่นการสร้างประชาธิปไตยรากหญ้าอย่างแท้จริง จะสังเกตจากการอ้อนวอนขอกลับมาเมืองไทย โดยไม่มีการปราศรัยถึงประเด็นโครงสร้างที่ยั่งยืน จึงอยากให้ พ.ต.ท.ทักษิณ กลับมาสู้คดีเพื่อรักษาระบบยุติธรรม ยอมรับความผิดอย่างลูกผู้ชาย ซึ่งตนก็ยินดีช่วยเหลือ เพราะคิดว่าเงินบางส่วนที่เลี่ยงภาษีนั้น เป็นของ พ.ต.ท.ทักษิณ จริงนอกจากนี้  นายธีรยุทธ ยังกล่าวชื่นชม น.ส.ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร นายกรัฐมนตรี ว่า เป็นหนึ่งในผู้นำสตรีที่แต่งตัวดีที่สุดในโลก พร้อมกับทำนายว่า น.ส.ยิ่งลักษณ์ จะเป็นผู้นำที่มีประชาชนรักที่สุด พร้อมกันนี้ยังได้ตั้งฉายาให้กับ นายกรัฐมนตรี ว่า ยิ่งลักษณ์โฟโต้ เนื่องจากภาพข่าวที่เผยแพร่ออกมา นายกรัฐมนตรี มีภาพลักษณ์ที่สมาร์ท และดูดีตลอด ขณะที่ นายธีรยุทธ ยังได้ให้ฉายากับ นายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ หัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ และอดีตนายกรัฐมนตรี ว่า เมาอู้ หมายถึง การเมาคำพูดของตัวเอง ที่เป็นภาษาถิ่นทางภาคเหนือ พร้อมหับแนะนำ นายอภิสิทธิ์ ว่า ให้ไปเขียนบทความจะดีกว่าพูด เนื่องจากการเขียนบทความจะได้ประโยชน์เชิงลึกมากกว่า  ABACโพล ปชช. ยี้นัก การเมืองมุ่งผลประ โยชน์ยังเชื่อมั่น ปชต. สำนักวิจัยเอแบคโพล มหาวิทยาลัยอัสสัมชัญ เสนอผลวิจัยเชิงสำรวจ เรื่อง เสียงสะท้อนของสาธารณชน ต่อนักการเมือง กับภารกิจเฉียบพลัน ที่ชาวบ้านอยากให้ น.ส.ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร ทำเพื่อประชาชน โดยผลสำรวจพบว่า ประชาชนส่วนใหญ่ร้อยละ 86.1 ยังเชื่อมั่นต่อการปกครองระบอบประชาธิปไตย โดยร้อยละ 80.6 ยังต้องการให้มีนักการเมืองแบบอัศวิน หรือฮีโร่ มากอบกู้ความเชื่อมั่นศรัทธาของคนไทย ต่อระบอบประชาธิปไตย ขณะที่ร้อยละ 92.2 เห็นว่า ศาลปกครองและศาลรัฐธรรมนูญ ยังเป็นสถาบันหลักที่จำเป็น ทั้งนี้ ประชาชน ร้อยละ 62.8 ยังเห็นว่า นักการเมืองมุ่งแต่ประโยชน์ส่วนตัว และพวกพ้องอย่างไรก็ตาม ประชาชนส่วนใหญ่ ร้อยละ 77.7 อยากให้นายกรัฐมนตรี แก้ปัญหายาเสพติด รองลงมาร้อยละ 76.5 ต้องการให้ตรวจราชการเจ้าหน้าที่รัฐที่บริการประชาชน ทั้งรถเมล์ โรงพยาบาล และตำรวจ   
แชร์เรื่องนี้
แชร์เรื่องนี้LineTwitterFacebook