ผบก.น.1แถลงรวบลูกจ้างพม่าฟันคอกุ๊กจีน

ผบก.น.1แถลงรวบลูกจ้างพม่าฟันคอกุ๊กจีน

ผบก.น.1แถลงรวบลูกจ้างพม่าฟันคอกุ๊กจีน
แชร์เรื่องนี้
แชร์เรื่องนี้LineTwitterFacebook

พล.ต.ต.พชร บุญญสิทธิ์ ผู้บังคับการตำรวจนครบาล 1 แถลงข่าวการจับกุม นายอาวิน สัญชาติพม่า อายุ 19 ปี ผู้ต้องหาก่อเหตุใช้อาวุธมีดฟันคอ นายหวัง ไห่ถัง อายุ 31 ปี สัญชาติจีน พ่อครัวร้านอาหารจีน ชื่อร้านปักกิ่ง เสียชีวิตภายในร้านอาหารดังกล่าว ซึ่งตั้งอยู่บริเวณชั้น 1 ด้านหน้าห้างสรรพสินค้าโรบินสัน สาขารัชดา เมื่อช่วงดึกของวันที่ 17 มี.ค.ที่ผ่านมา โดย พล.ต.ต.พชร กล่าวว่า ผู้ต้องหานั้นได้เข้ามาทำงานเป็นเด็กล้างจานที่ร้านอาหารดังกล่าว เป็นเวลา 1 เดือนเศษ และในวันก่อเหตุ ระหว่าง นายหวัง กำลังซ่อมหัวเตาแก๊สอยู่ ก็ได้ลงมือใช้มีดอีโต้ ฟันเข้าที่ท้ายทอย นายหวัง 2 แผลจน นายหวัง ล้มลงจากนั้นได้ใช้มีดปาดคอซ้ำจน นายหวัง เสียชีวิตและได้งัดลิ้นชักของร้านกวาดเงินสดจำนวนกว่า 60,000 บาทหลบหนี นำไปฝากญาติย่านเยาวราช ก่อนย้อนกลับมาเก็บของที่ห้องพัก ย่านห้วยขวาง จนกระทั่ง ถูกเจ้าหน้าที่จับกุมได้ดังกล่าวทั้งนี้ จากการสอบสวน นายอาวิน ให้การรับสารภาพว่า เป็นคนก่อเหตุฆ่า นายหวัง จริง เพราะโกรธที่ผู้ตายชอบดุด่าเป็นประจำ อีกทั้งขณะลงมือก่อเหตุ ก็ไม่มีสติ จึงไม่รู้สึกกลัวอะไร โดยภายหลังการแถลงข่าว เจ้าหน้าที่ตำรวจ ได้ควบคุมตัวผู้ต้องหาไปทำแผนประกอบคำรับสารภาพที่บริเวณจุดเกิดเหตุต่อไป คุมตัวลูกจ้างพม่า ชี้จุดฟันคอกุ๊กร้านปักกิ่ง พล.ต.ต.พชร บุญญสิทธิ์ ผบก.น.1 พร้อมด้วย พ.ต.อ.บุญส่ง นามกรณ์ ผกก.สน.ห้วยขวาง และเจ้าหน้าที่ตำรวจสืบสวน ได้ควบคุมตัว นายอาหริ่ง อายุ 19 ปี ผู้ต้องหาฆ่าปาดคอ นายหวัง ไหกั่ง อายุ 31 ปี ผู้จัดการร้าน "ปักกิ่ง" เป็นร้านอาหารจีน ที่ตั้งอยู่บริเวณด้านหน้าห้างสรรพสินค้าโรบินสัน รัชดาฯ เสียชีวิต เมื่อช่วงกลางดึกในวันที่ 17 มี.ค.ที่ผ่านมา ไปทำแผนประกอบคำรับสารภาพ ในจุดที่ 1 คือ บริเวณครัวด้านในร้านอาหารดังกล่าว ที่ผู้ต้องหาได้ลงมือใช้มีดอีโต้ฟันเข้าที่ท้ายทอยของ นายหวัง 2 แผล และปาดคอซ้ำ จน นายหวัง เสียชีวิตในที่เกิดเหตุ จากนั้นก็ได้ให้ผู้ต้องหา ชี้เส้นทางหลบหนี จากด้านหน้าร้าน ก่อนจะกลับไปเปลี่ยนเสื้อผ้าเปื้อนเลือด ที่ห้องพักย่านห้วยขวางอย่างไรก็ตาม บริเวณด้านหน้าร้านอาหาร "ปักกิ่ง" นั้น ก็ได้มีประชาชน และพนักงานร้านอาหารใกล้เคียง ให้ความสนใจ และมายืนดูพร้อมจับกลุ่มวิพากษ์วิจารณ์กันอย่างมาก 
แชร์เรื่องนี้
แชร์เรื่องนี้LineTwitterFacebook