นายกบินเกาหลีบอกหากล้มคดีคตส.ต้องยึดยธ.

น.ส.ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร นายกรัฐมนตรี วันนี้ เวลา 07.20 น. จะเดินทางออกจากท่าอากาศยานสุวรรณภูมิ จ.สมุทรปราการ ไปยังท่าอากาศยานนานาชาติอินชอน กรุงโซล สาธารณรัฐเกาหลี ในโอกาสเยือนอย่างเป็นทางการ และเข้าร่วมประชุมระดับผู้นำว่าด้วยความมั่นคงทางนิวเคลียร์ ประจำปี 2555 ระหว่างวันที่ 24 - 27 มีนาคม นี้ทั้งนี้  นายกรัฐมนตรี กล่าวก่อนเดินทาง ถึงกรณีที่ ร.ต.อ.เฉลิม อยู่บำรุง รองนายกรัฐมนตรี ระบุว่า แนวทางการสร้างความปรองดองจะไม่เกิดขึ้น หากไม่ออกเป็นพระราชบัญญัติปรองดองนั้น ตนเองอยากให้คุยกันในหลักการ ซึ่งเวทีหารือที่ดีที่สุด คือ รัฐสภา เพราะจะได้รับฟังความคิดเห็นและหาทางออกร่วมกัน ส่วนข้อเสนอของสถาบันพระปกเกล้า ควรนำไปหารือในสภาเช่นกัน เพื่อให้ได้ข้อสรุป ขณะที่กรณียกเลิกคดีทั้งหมดของคณะกรรมการตรวจสอบการกระทำที่ก่อให้เกิดความเสียหายแก่รัฐ (คตส.) นั้น กระบวนการทุกอย่างต้องเป็นไปอย่างยุติธรรม ทั้งนี้ เห็นด้วยกับเวทีแลกเปลี่ยนความคิดเห็นต่างๆ รัฐบาลพร้อมสนับสนุนและรับฟัง ส่วนกลุ่มต่างๆ ที่ออกมาเคลื่อนไหวนั้น อยากให้แสดงออกในทางประชาธิปไตย และเป็นไปอย่างสันติ สำหรับโผการโยกย้ายทหารกลางปี 2555 ขณะนี้อยู่ในกระบวนการของเลขาธิการคณะรัฐมนตรี  นายกจัดTVย้ำสภาถกปรองดองยึดเสมอภาค รายการรัฐบาลยิ่งลักษณ์ พบประชาชน ประจำวันเสาร์ที่ 24 มีนาคม 2555 ซึ่งเป็นการอัดเทปไว้ล่วงหน้า โดยมี น.ส.ตวงพร อัศววิไล ผู้ประกาศข่าวโทรทัศน์เอ็นบีที (ช่อง 11) รับหน้ที่เป็นผู้ดำเนินรายการ โดยในช่วงแรก น.ส.ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร นายกรัฐมนตรี ได้มีการพูดคุย แจกแจงเกี่ยวกับปัญหาทางการเมือง เรื่องแนวทางการปรองดอง ที่กำลังเป็นประเด็นร้อนในช่วงนี้ ส่วนอีกช่วง เป็นเรื่องของการแก้ปัญหา สินค้าราคาแพง โดยมี นายบุญทรง เตริยาภิรมย์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงพาณิชย์ และ ม.ร.ว.พงษ์สวัสดิ์ สวัสดิวัตน์ เป็นผู้ชี้แจงทั้งนี้ น.ส.ยิ่งลักษณ์ กล่าวว่า ในเรื่องของการปรองดอง นั้น ต้องการให้สภา ให้ฝ่ายนิติบัญญัติ เป็นผู้หาทางออกร่วมกัน โดยฝ่ายบริหาร ไม่ก้าวก่าย อยากให้รับฟังความเห็นของทุกภาคส่วนในการหาทางออก แต่ก็อยากจะแนะนำว่า อย่าพยายามหาคำตอบเพียงอย่างเดียว เพราะมักจะไม่ได้อะไร แต่ต้องพยายามใช้ความเสมอภาคในการก้าวไปข้างหน้า อยากให้ 47 คน ที่เป็นตัวละคร ที่เป็นปมสร้างความขัดแย้ง เปลี่ยนทัศนคิ ให้อภัยกัน แต่คดีทางอาญาต้องยังคงอยู่ และดำเนินการตามกฎหมาย ภายใต้การปกครองที่เป็นประชาธิปไตยอย่างแท้จริง ยงยุทธระบุจ่ายเงินเยียวยาส่วนหนึ่งปรองดอง  นายยงยุทธ วิชัยดิษฐ รองนายกรัฐมนตรี และรัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทย กล่าวว่า การจ่ายเงินเยียวยาให้กับผู้ได้รับผลกระทบในเหตุการณ์กรือเซะ และตากใบ เป็นอีกวิธีหนึ่งที่จะช่วยสร้างความปรองดองให้เกิดขึ้น ส่วนงบประมาณที่จะจ่ายให้กับผู้ได้รับผลกระทบ ขณะนี้อยู่ในขั้นตอนการรวบรวมเอกสารหลักฐาน ซึ่งต้องทำอย่างละเอียดรอบคอบ ส่วนข้าราชการทหารที่เสียชีวิตในขณะปฏิบัติหน้าที่นั้น ทาง พล.อ.ประยุทธ จันทร์โอชา ผู้บัญชาการทหารบก ระบุว่า จะเป็นผู้แก้ไขปรับปรุงระเบียบต่างๆ ซึ่งก็ขึ้นอยู่กับการพิจารณาของกองทัพ  ปชป.ปัดขวางปรองดองขอสนธิทบทวนข้อเสนอ นายองอาจ คล้ามไพบูลย์ ส.ส.พรรคประชาธิปัตย์ ในฐานะคณะกรรมาธิการวิสามัญพิจารณาศึกษาแนวทางการสร้างความปรองดองแห่งชาติ สภาผู้แทนราษฎร แถลงว่า ตนเองขอเรียกร้องไปยัง น.ส.ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร นายกรัฐมนตรี ให้แสดงเจตจำนงต่อแนวทางการสร้างความปรองดองให้ชัดเจน ไม่ควรอ้างว่าเป็นกระบวนการของรัฐสภา เนื่องจากรัฐบาลเป็นกลไกลสำคัญในการสร้างความปรองดองให้เกิดขึ้น ขณะเดียวกัน นายองอาจ ได้เรียกร้องไปยัง พล.อ.สนธิ บุญยรัตกลิน ประธานคณะกรรมาธิการวิสามัญพิจารณาศึกษาแนวทางการสร้างความปรองดองแห่งชาติ ให้ทบทวนร่างรายงานวิจัยการสร้างความปรองดองแห่งชาติ ของสถาบันพระปกเกล้า ก่อนนำเสนอต่อสภาผู้แทนราษฎร เนื่องจากเห็นว่ายังมีเวลาที่จะพิจารณาทบทวน และไม่ควรอ้างว่า การประชุมเสร็จสิ้นแล้ว"จิรายุ" แปลกใจ "อภิสิทธิ์" ขัดแย้ง ส.พระปกเกล้านายจิรายุ ห่วงทรัพย์ รองโฆษกพรรคเพื่อไทย แถลงข่าวว่า รู้สึกแปลกใจว่า สมัยที่ นายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ เป็นนายกรัฐมนตรี เคยยกย่องสถาบันพระปกเกล้า ว่ามีความเป็นกลาง เที่ยงธรรม เป็นที่พึ่งพาได้ในยามประเทศมีความขัดแย้ง แต่ปัจจุบัน เมื่อสถาบันพระปกเกล้า มีผลวิจัยเรื่องการปรองดอง และผลออกมาไม่ถูกใจ กลับผลักสถาบันพระปกเกล้า ไปอยู่ฝ่ายตรงข้าม อีกทั้งกลุ่มที่ออกมาวิพากวิจารณ์ผลงานวิจัยดังกล่าว ก็ล้วนแต่เป็นคนกลุ่มเดิมๆ ที่เคยต่อต้าน พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี แทบทั้งสิ้น พร้อมทั้งขอเรียกร้องไปยัง อาจารย์ผู้ทรงคุณวุฒิของสถาบันพระปกเกล้า ให้มีจุดยืนต่อผลการวิจัย ไม่โอนเอียงไปตามคำของ นายอภิสิทธิ์ อีกทั้งขอให้ทุกฝ่ายก้าวข้ามความขัดแย้ง และหันมาพัฒนาประเทศ ให้ประชาชนกินดีอยู่ดีจะดีกว่า นายกฯ ถก ผู้นำเกาหลี ร่วมลงนามบริหารจัดการน้ำน.ส.ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร นายกรัฐมนตรี พร้อมคณะได้หารือทวิภาคีกับ นายลี มยอง บัค ประธานาธิบดีสาธารณรัฐเกาหลี เกี่ยวกับการค้าการลงทุน การส่งเสริมความร่วมมือทวิภาคีด้านการเกษตร ความร่วมมือทางทหาร แรงงาน การท่องเที่ยว โดยทางประเทศเกาหลี ให้ความร่วมมือสนับสนุนการสร้างระบบการจัดการบริหารทรัพยากรน้ำของไทย และร่วมลงนามข้อตกลงว่าด้วยความร่วมมือด้านเทคโนโลยีการจัดการบริหารทรัพยากรน้ำ ขององค์กรที่เกี่ยวข้องจาก 2 ประเทศ  นอกจากนี้ ทั้ง 2 ประเทศ ตกลงร่วมกันที่จะแลกเปลี่ยนประสบการณ์และความรู้ ในการแก้ปัญหา และการบริหารจัดการน้ำ หลีกเลี่ยงภัยธรรมชาติที่เกิดจากการเปลี่ยนแปลงของสภาพอากาศโลก ส่วนความร่วมมือด้านการค้า การลงทุน ไทยและสาธารณรัฐเกาหลี จะเดินหน้าการค้าระหว่างกัน ให้มีการขยายปริมาณการค้า เพิ่มขึ้นเป็น 30,000 ล้านเหรียญสหรัฐภายใน 5 ปี ระหว่างปี 2555-2559