ธาริต พบ อย.จ่อออกกฎกระทรวงคุมยาแก้หวัดหาย
นายธาริต เพ็งดิษฐ์ อธิบดีกรมสอบสวนคดีพิเศษ (ดีเอสไอ) และชุดพนักงานสอบสวน เดินทางเข้าพบ น.พ.พิพัฒน์ ยิ่งเสรี เลขาธิการสำนักงานคณะกรรมการอาหารและยา (อย.) โดย นายธาริต กล่าวถึงเหตุผลในการเข้าพบครั้งนี้ เนื่องจากภายในเดือน เม.ย. นี้ คาดว่าจะมีการออกกฎกระทรวง กำหนดคดีพิเศษที่เป็นบัญชีแนบท้ายเพิ่มเติม ซึ่งจะมีกฎหมายที่ดีเอสไอ เข้าไปรับผิดชอบเพิ่มเติมคือ ยา อาหาร วัตถุออกฤทธิ์ต่อจิต ประสาท และเครื่องสำอาง ซึ่งหลังจากนี้ จะต้องมีการสนับสนุนและสนธิกำลังร่วมกัน และหากพบความผิดเกี่ยวกับกรณียาซูโดอีเฟดรีน ก็ไม่ต้องตั้งคณะกรรมการขึ้นมาพิจารณาว่าจะรับเป็นคดีพิเศษหรือไม่ เนื่องจากจะเข้าเป็นคดีพิเศษโดยอัตโนมัติ พร้อมกันนี้ ดีเอสไอ จะมีการประชุมร่วมกันเพื่อเดินหน้าทางคดีในวันจันทร์ที่ 2 เม.ย. นี้ เวลา 14.00 น. โดยจะมี น.พ.พงศ์พันธ์ วงศ์มณี รองเลขาธิการ อย. เข้าร่วมประชุมด้วย ส่วนความคืบหน้าในทางคดีล่าสุด นายธาริต ได้ขอร้องให้สื่อมวลชนอย่าถามในเชิงลึก เนื่องจากจะต้องให้เวลากับเจ้าหน้าที่ทำงาน ก่อนที่จะเข้าพบ น.พ.ไพจิตร์ วราชิต ปลัดกระทรวงสาธารณสุข เพื่อหารือต่อไป "ธาริต" เดินสายพบปลัด สธ. และ "พสิษฐ์" สางคดีแก้หวัดหายนายธาริต เพ็งดิษฐ์ อธิบดีกรมสอบสวนคดีพิเศษ หรือ ดีเอสไอ เดินทางเข้าพบ น.พ.ไพจิตร์ วราชิต ปลัดกระทรวงสาธารณสุข เพื่อหารือก่อนที่ ดีเอสไอ จะเข้ามาตรวจสอบคดีต่างๆ ที่เกี่ยวข้องกับยา อาหาร เครื่องสำอาง และ วัตถุออกฤทธิ์ต่อจิตประสาท ซึ่งเป็นการทำหน้าที่ตามพระราชบัญญัติสอบสวนคดีพิเศษ โดย น.พ.ไพจิตร์ กล่าวว่า ตามที่พระราชบัญญัติดังกล่าวจะต้องมีการสนธิกำลังร่วมกันของเจ้าหน้าที่ในการตรวจสอบ เนื่องจากคดีเหล่านี้นั้นมีความสลับซับซ้อน โดยขณะนี้ได้เชิญอธิบดีกรมสนับสนุนบริการสุขภาพ ซึ่งทำหน้าที่ดูแลโรงพยาบาลเอกชนและคลีนิกต่างๆ ทั่วประเทศ เข้าร่วมประชุม เพื่อให้การตรวจสอบและการปราบปรามการกระทำความผิดเกี่ยวกับสาธารณสุข รวมถึงกรณียาซูโดอีเฟดรีน เป็นไปด้วยความเข้มงวด โดยจากนั้น อธิบดีดีเอสไอ เดินทางเข้าพบ นายพสิษฐ์ ศักดาณรงค์ ที่ปรึกษารัฐมนตรีว่าการกระทรวงสาธารณสุข ซึ่ง นายพสิษฐ์ ได้มอบหลักฐาน ซึ่งเป็นเอกสารสำคัญที่มีรายละเอียดเกี่ยวกับการกระทำความผิดกรณียาซูโดอีเฟดรีน เพื่อนำไปให้กรมสอบสวนคดีพิเศษ ประกอบในสำนวนคดี และเพื่อให้กรมสอบสวนคดีพิเศษ นำไปขยายผลเชิงลึกหาผู้ที่เกี่ยวข้องต่อไป ธาริต เผย มี จนท.สธ. เอี่ยวยาหายหลายระดับนายธาริต เพ็งดิษฐ์ อธิบดีกรมสอบสวนคดีพิเศษ (ดีเอสไอ) กล่าวถึงความคืบหน้าในการตรวจสอบผู้ที่เกี่ยวข้องกับการกระทำความผิดกรณียาซูโดอีเฟดรีน ว่า เบื้องต้นจากการตรวจสอบ พบว่ามีเจ้าหน้าที่สังกัดกระทรวงสาธารณสุข เกี่ยวข้องหลายระดับ ซึ่งขณะนี้กล่าวได้ว่า สามารถต่อจิ๊กซอว์หาความเชื่อมโยงได้เป็นภาพใหญ่แล้ว เหลือเพียงออกไปดูรายละเอียดเรื่องต่างๆ ให้ชัดเจนขึ้นเท่านั้น ว่าเป็นขบวนการเดียวกันหรือไม่ ซึ่งในขณะนี้ยังคงติดตามเป้าหมาย เป็นผู้ช็อปปิ้งยา หรือตัวกลางในการซื้อยาตามแหล่งต่างๆ อย่างใกล้ชิด อาทิ เรื่องการใช้เงิน และโทรศัพท์ เชื่อมโยงไปยังตัวบุคคลอื่นๆ ซึ่งขณะนี้ ยังไม่สามารถเปิดเผยรายละเอียดได้มากกว่านี้ และขอให้สื่อมวลชน อย่าทำการคาดคั้นถามถึงกรณีดังกล่าว เนื่องจากจะต้องให้เวลากับเจ้าหน้าที่ในการทำงาน พร้อมยืนยันว่า จะตรวจสอบ และคุ้มครองผู้บริสุทธิ์ รวมถึงให้ความเป็นธรรมแก่ทุกฝ่าย โดยภายในเดือน เม.ย. นี้ จะได้ข้อมูลที่ชัดเจนขึ้นในระดับหนึ่ง ผู้ว่าฯศรีสะเกษเร่งสอบกรณีซูโดอีเฟดรีนหาย นายประทีป กีรติเรขา ผู้ว่าราชการจังหวัดศรีสะเกษ กล่าวถึงกรณียาแก้หวัดสูตรซูโดอีเฟดรีน หายไปจาก ร.พ.ภูสิงห์ จำนวน 250,000 เม็ด ว่า ขณะนี้ ตนได้แต่งตั้งคณะกรรมการตรวจสอบข้อเท็จจริง ตามที่ นายแพทย์สาธารณสุขจังหวัดศรีสะเกษ เสนอมา เรียบร้อยแล้ว และได้รับรายงานว่า คณะกรรมการตรวจสอบข้อเท็จจริงกำลังดำเนินการตรวจสอบอย่างเร่งด่วน ซึ่งตนได้เร่งรัดให้ นายแพทย์สาธารณสุข กำชับให้คณะกรรมการที่ได้รับแต่งตั้ง รายงานผลการตรวจสอบให้ทราบโดยด่วนที่สุด เพื่อที่จะได้รายงานผลการดำเนินการตรวจสอบให้กระทรวงมหาดไทย และกระทรวงสาธารณสุข ทราบต่อไป ทางด้าน พล.ต.ต.พงษ์วุฒิ พงษ์ศรี ผบก.ภ.จว.ศรีสะเกษ กล่าวว่า ตนได้รับรายงานเกี่ยวกับเรื่องนี้จาก สภ.ภูสิงห์ แล้ว ซึ่งเบื้องต้น ทางพนักงานสอบสวน สภ.ภูสิงห์ รับแจ้งความไว้เป็นหลักฐานเท่านั้น ยังไม่มีการแจ้งความร้องทุกข์แต่อย่างใด หากทราบผลการตรวจสอบแล้ว จึงจะเป็นขั้นตอนของการแจ้งความ ซึ่งขึ้นอยู่กับการพิจารณาของทาง ผู้ว่าราชการจังหวัด ร่วมกับนายแพทย์สาธารณสุข ว่าจะพิจารณาอย่างไร และขณะนี้ กรมสอบสวนคดีพิเศษ ยังไม่ได้มีการประสานงานลงมาเกี่ยวกับเรื่องนี้แต่อย่างใด DSI ชี้พบการทำลายซูโดฯทางเหนือ5กก.นายธาริต เพ็งดิษฐ์ อธิบดีกรมสอบสวนคดีพิเศษ หรือ ดีเอสไอ เปิดเผยถึงความคืบหน้าในคดียาแก้หวัดที่มีส่วนผสมของซูโดอีเฟดรีน ที่เป็นสารตั้งต้นในการผลิตยาเสพติด หายออกไปจากระบบของโรงพยาบาลเป็นจำนวนมาก ว่าเมื่อช่วงเช้าที่ผ่านมาทางเจ้าหน้าที่ตำรวจ สภ.แม่อาย จ.เชียงราย ได้ประสานมาว่า เจ้าหน้าที่ตำรวจได้มีการตรวจพบซองยาซูโดอีเฟดรีน จำนวน 8 ยี่ห้อ น้ำหนักรวม 5 กิโลกรัม ถูกเผาทำลายอยู่ที่บริเวณริมแม่น้ำแม่กก จ.เชียงราย ทั้งนี้ เบื้องต้น นายธาริต คาดว่า คนร้ายนั้นได้นำยาซูโดอีเฟดรีน ออกไปจากสต๊อกแล้ว และตั้งใจนำซองยาจำนวนมาก มาเผาเพื่อเป็นการทำลายหลักฐาน พร้อมกันนี้ ยังเชื่อด้วยว่า การตรวจพบดังกล่าวนั้น มีความเชื่อมโยงกับคดีลักลอบนำซูโดอีเฟดรีน ออกไปจากระบบของโรงพยาบาล ที่ทางดีเอสไอ กำลังดำเนินการอยู่ DSI เดินสายขอข้อมูลยาซูโดหายรพ.อุดรฯ วันนี้ทางเจ้าหน้าที่ดีเอสไอ ได้เดินทางมาที่สถานีตำรวจภูธรอำเภอเมืองอุดรธานี นำโดย นายอังศุเกติ์ วิสุทธิ์วัฒนศักดิ์ พนักงานรวบรวมคดีพิเศษ สำนักคดีความมั่นคง ดีเอสไอ พร้อมด้วยเจ้าหน้าที่ 2 นาย ได้เดินทางเข้าพบ พ.ต.ท.มนัส อัดโดดดร เพื่อขอสำนวนการสืบสวนสอบสวนคดียา ซึ่งโรงพยาบาลอุดรธานี พร้อมด้วยเภสัชกรที่เกี่ยวข้องในกรณีเกี่ยวกับยา ซึ่งขณะนี้ทางเจ้าหน้าที่ได้ขอสำนวนจำนวน 4 แฟ้มใหญ่ พร้อมด้วยเอกสารต่างๆ เพื่อที่จะไปรวบรวมและประชุมกับทาง ป.ป.ส. และศูนย์วิทยาศาสตร์การแพทย์ หน่วยงานที่เกี่ยวข้อง โดยในวันนี้ทางเจ้าหน้าที่ ก็ได้แจ้งว่า จะเดินทางไปที่ จ.ศรีสะเกษ จ.กาฬสินธุ์ จ.เชียงใหม่ และจังหวัดที่เกี่ยวข้อง เพื่อรวบรวมพยานหลักฐาน และจะกลับมาสืบสวนสอบสวนที่โรงพยาบาลศูนย์อุดรธานี อีกครั้ง สสจ.ลำปางแจงยาซูโดอีเฟดรีนหาย4หมื่นเม็ด นายแพทย์ประเสริฐ กิจสุวรรณรัตน์ รองนายแพทย์สาธารณสุขจังหวัดลำปาง เปิดเผยถึงการพบความผิดปกติยาซูโดอีเฟดรีนหายไปจากโรงพยาบาลเสริมงาม อ.เสริมงาม จ.ลำปาง ว่า เบื้องต้นพบความผิดปกติจากยอดสั่งซื้อยาในเดือนกรกฎาคม 2554 ที่ผ่านมา ถือว่าเป็นเรื่องที่เกิดขึ้นมานานแล้ว ก่อนที่ทาง อย. จะได้แจ้งความผิดปกติไปยัง DSI ว่า ที่โรงพยาบาลเสริมงาม ก็พบมีปัญหานี้ เรื่องที่เกิดขึ้นทางสำนักงานสาธารณสุขจังหวัด และทางโรงพยาบาลเสริมงาม พร้อมให้ทาง DSI เข้ามาตรวจสอบ เรื่องที่เกิดขึ้น ทั้งนี้ หลังจากมีการตั้งคณะกรรมการสอบสวนข้อเท็จจริง เภสัชกรคนดังกล่าว ชี้แจงว่า ได้นำยาทั้งหมด ที่สั่งซื้อเกินจริง นำไปจำหน่ายในร้านขายยาของตนเอง สาเหตุที่ใช้ชื่อของโรงพยาบาลซื้อ เนื่องจากต้องการได้ยาดังกล่าวมาขาย เพราะตัวเองสามารถสั่งซื้อได้ในจำนวนจำกัด และทางเภสัชกรได้แสดงความรับผิดชอบด้วยการลาออกจากราชการไป ก่อนที่เรื่องดังกล่าว จะแดงขึ้นมา ตร.เชียงใหม่พบซองยาซูโดฯ กว่า 5 ล้านเม็ด เจ้าหน้าที่ตำรวจ พบซองยาแก้หวัดที่มีส่วนผสมของสารซูโดอีเฟดรีน ในพื้นที่ อ.สันกำแพง จ.เชียงใหม่ อีกครั้ง โดย พ.ต.อ.เอกชัย พิมลศรี ผู้กำกับการ สภ.สันกำแพง จ.เชียงใหม่ รับแจ้งว่าพบซองยาแก้หวัดจำนวนมาก ถูกทิ้งไว้ในที่ดินร้าง ข้างหมู่บ้านศิวาลัย หมู่ 11 ต.สันกำแพง อ.สันกำแพง จึงได้แจ้งให้ พล.ต.ต.ชำนาญ รวดเร็ว รองผู้บัญชาการตำรวจภูธรภาค 5 พ.ต.อ.ภาณุเดช บุญเรือง รองผู้บังคับการตำรวจภูธรจังหวัดเชียงใหม่ ซึ่งพร้อมด้วย ป.ป.ส.ภาค 5 ผู้อำนวยการโรงพยาบาลสันกำแพง เข้าตรวจสอบ เพราะว่าจุดที่พบ ห่างจากจุดที่พบซองยาแก้หวัดกว่า 7 ล้านเม็ด เมื่อเดือนที่ผ่านมาประมาณ 3 กิโลเมตร ซึ่งซองยาที่พบครั้งนี้มีไม่ต่ำกว่า 10 ยี่ห้อ มีจำนวน 2 กอง ห่างกันประมาณ 100 เมตร มีทั้งกองที่ซองยาถูกตัดทำลายแล้ว และยังมีกองที่ซองยายังไม่ถูกตัดทำลาย รวมทั้งอุปกรณ์แกะเม็ดยา คาดว่าปริมาณของยาที่พบครั้งนี้ มีไม่ต่ำกว่า 5 ล้านเม็ด ซึ่ง ทางตำรวจ จะสืบสวนขยายผลต่อไป