รอง ผบช.ภ.5เผยเร่งหาต้นตอซองยาแก้หวัด

รอง ผบช.ภ.5เผยเร่งหาต้นตอซองยาแก้หวัด

รอง ผบช.ภ.5เผยเร่งหาต้นตอซองยาแก้หวัด
แชร์เรื่องนี้
แชร์เรื่องนี้LineTwitterFacebook

รองผบช.ภ.7 เผย แกะรอย ซูโดฯ หายพล.ต.ต.โสภณ พิสุทธิวงษ์ รองผู้บัญชาการตำรวจภูธรภาค 7 นำเจ้าหน้าที่ตำรวจชุดปราบปรามยาเสพติดของกองบัญชาการตำรวจภูธรภาค 7  ศึกษาดูงานเกี่ยวกับการปราบปรามเสพติด โดยเฉพาะกรณีการลักลอบนำยาซูโดอีเฟดรีน ใช้เป็นสารตั้งต้นในการผลิตยาบ้า พร้อมกับกล่าวว่าขณะนี้ในพื้นที่ภาค 7 พบว่า มีข้อมูลการนำยาซูโดอีเฟดรีน ออกจำหน่ายในพื้นที่ อ.สังขบุรี จ.กาญจนบุรี เพื่อนำออกไปขายยังประเทศเพื่อนบ้านมากจนผิดสังเกต รวมทั้งในพื้นที่ จ.ราชบุรี และ จ.เพชรบุรีด้วยขณะที่ นายพสิษฐ์ ศักดาณรงค์ ที่ปรึกษารัฐมนตรีว่าการกระทรวงสาธารณสุข กล่าวว่า ขณะนี้ กระทรวงสาธารณสุข ได้มีการบูรณาการทำงานกับหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง ซึ่งได้มีการส่งข้อมูลให้ DSI บางส่วนแล้ว พร้อมกันนี้ คณะกรรมการกฤษฎีกา ได้ตอบรับการยกระดับ ยาซูโดอีเฟดรีน เป็นยาเสพติดออกฤทธิ์ต่อจิตและประสาท เป็นประเภท 2 แล้วเช่นกัน ปลัดสธ.เผยเจออีก 3 ร.พ. ยาแก้หวัดหายน.พ.ไพจิตร์ วราชิต ปลัดกระทรวงสาธารณสุข กล่าวถึงการตรวจสอบความผิดปกติการเบิกจ่ายยาแก้หวัด สูตรผสมซูโดอีเฟดรีน ว่า ล่าสุด พบความผิดปกติในโรงพยาบาลอีก 3 แห่ง คือ โรงพยาบาลสันทราย จ.เชียงใหม่ โรงพยาบาลเสริมงาม จ.ลำปาง และโรงพยาบาลหนองกี่ จ.บุรีรัมย์ โดยพบความผิดปกติในบัญชีเบิกจ่าย และสั่งซื้อยาของทางโรงพยาบาล กับรายงานของสำนักงานคณะกรรมการอาหารและยา (อย.) และบริษัทยาแจ้งข้อมูลเอาไว้ไม่ตรงกัน ซึ่งจะต้องรอรายงานเชิงลึกที่ขอไปทางจังหวัดอีกครั้ง คาดว่าจะได้รับในวันพรุ่งนี้ หากมีความผิดปกติส่อทุจริต ลักลอบนำยาไปขายให้ขบวนการยาเสพติดจริง จะสั่งย้ายผู้ที่อาจมีส่วนเกี่ยวข้อง ทั้งเภสัชกรประจำโรงพยาบาล และผู้อำนวยการโรงพยาบาล มาช่วยราชการกระทรวงสาธารณสุขก่อน จนกว่าการตรวจสอบข้อเท็จจริงทั้งหมดจะแล้วเสร็จ เช่นเดียวกับที่เคยสั่งย้ายผู้ที่มีข้อมูลบ่งชี้ว่าอาจเกี่ยวข้อง 9 ราย ในโรงพยาบาล 6 แห่ง ที่เคยสั่งย้ายมาแล้วก่อนหน้านี้ ซึ่งการตรวจสอบข้อเท็จจริงและและสอบวินัยโรงพยาบาลทั้ง 6 แห่ง ที่ชี้มูลความผิดไปนั้น ขณะนี้ยังอยู่ระหว่างการสอบสวนเรียกตัวผู้เกี่ยวข้องมาให้ข้อมูล ส่วนกรณีพบซองยากว่า 5 กิโลกรัม ที่ จ.เชียงใหม่ นั้น ปลัดกระทรวงสาธารณสุข กล่าวว่า ยังไม่ได้รับรายงานข้อเท็จจริง แต่ได้สั่งการไปยังจังหวัด ขอให้เร่งตรวจสอบที่ซองยาทั้งหมด โดยดูเลขทะเบียนยา ว่าตรงกับของเดิมได้ที่หายไปจากโรงพยาบาลที่ถูกชี้มูลส่อกระทำผิด หรือเป็นของใหม่ และให้รายงานโดยตรงทันทีที่ทราบผล สธ. ลั่น ฟันแน่ ขรก.เอี่ยวซูโดฯ หาย - รอชัดเจนอีกครั้งน.พ.สุรวิทย์ คนสมบูรณ์ รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงสาธารณสุข เปิดเผยกับสำนักข่าว INN เกี่ยวกับความคืบหน้าในการติดตรวจสอบ กรณีที่มีกระแสข่าว ข้าราชการระดับสูงของกระทรวง พัวพันการหายไปของยาซูโดอีเฟรีน ว่า กำลังติดตามอย่างใกล้ชิด โดยมี น.พ.ไพจิตร์ วราชิต ปลัดกระทรวง เป็นผู้ดำเนินการตรวจสอบ แต่ยังไม่สามารถที่จะเปิดเผยราละเอียดได้มาก ต้องรอความชัดเจนอีกครั้ง ยืนยันว่าจะดำเนินการทางวินัยขั้นเด็ดขาด กับผู้ที่เข้าไปเกี่ยวข้องอย่างแน่นอน ซึ่งในขณะนี้ ก็ได้มีการสั่งย้ายข้าราชการบางคนที่อาจเกี่ยวข้อง เพื่อให้การตรวจสอบทำได้ง่าย และรวดเร็วขึ้นด้วยพร้อมกันนี้ น.พ.สุรวิทย์ ยังได้เปิดเผยด้วยว่า กระทรวงมีคำสั่งห้ามใช้ จำหน่าย ยาซูโดอีเฟดรีน ในช่วงนี้ไปก่อน เพื่อป้องกันปัญหาที่จะตามมา แต่ยืนยันว่า จะไม่กระทบกับการให้บริการของโรงพยาบาลต่างๆ เพราะสามารถใช้ยาตัวอื่นๆ ทดแทนได้ รอง ผบช.ภ.5 เผย คืบหน้าพบซองยาแก้หวัด เร่งหาต้นตอแล้วด้าน พล.ต.ต.ชำนาญ รวดเร็ว รอง ผบช.ภ.5 เปิดเผย สำนักข่าว ไอ.เอ็น.เอ็น. ถึงความคืบหน้า กรณีพบซองยาแก้หวัด ที่มีส่วนผสมของสาร "ซูโดอีเฟดรีน" จำนวนมาก ถูกเผา และย่อยสลาย นำมาทิ้งในป่าละเมาะข้างทาง หมู่ 11-14 บ้านน้อย ต.สันกำแพง อ.สันกำแพง จ.เชียงใหม่ เมื่อวานนี้ว่า  ทั้งหมดถูกส่งไปยัง สภ.ท้องที่ เพื่อขยายผลหาแหล่งที่มาของซองยา ดังกล่าวแล้ว โดยตำรวจขอเวลาในการตรวจสอบ ซึ่งยังไม่ทราบว่า ต้องใช้เวลานานเท่าใด เพราะเรื่องนี้เป็นเรื่องระดับชาติ  หลายหน่วยงานเข้ามาเกี่ยวข้อง ซึ่งทางตำรวจก็มีคณะกรรมการ ที่มี พล.ต.ท.จรัมพร สุระมณี ผช.ผบ.ตร. เป็นหัวหน้าชุด ซึ่งได้รายงานเบื้องต้นไปแล้ว ส่วนสำนวนคดียาแก้หวัดหาย หลังจาก ดีเอสไอ รับเป็นคดีพิเศษแล้วนั้น ทางตำรวจ พร้อมจะร่วมมือ และส่งมอบสำนวนให้ดำเนินการต่อ DSI เร่งสอบ "ซูโดอีเฟดรีน" ร.พ.ภูสิงห์ ความคืบหน้ากรณียาแก้หวัดสูตรซูโดอีเฟดรีน หายไปจาก ร.พ.ภูสิงห์ จ.ศรีสะเกษ จำนวน 250,000 เม็ด และขณะนี้ จ.ศรีสะเกษ กำลังตั้งคณะกรรมการตรวจสอบข้อเท็จจริง ซึ่ง นายประทีป กีรติเลขา ผู้ว่าราชการจังหวัดศรีสะเกษ ได้เร่งรัดการตรวจสอบข้อเท็จจริง และให้รายงานผลให้ทราบโดยด่วน พ.ต.อ.ดนัย รัตนประเสริฐ ผกก.สภ.ภูสิงห์ กล่าวว่า ขณะนี้ตนได้รับหนังสือจากกรมสอบสวนคดีพิเศษ แจ้งว่า ให้ส่งพนักงานสอบสวน สภ.ภูสิงห์ จำนวน 2 นาย ไปเข้าร่วมประชุมกับเจ้าหน้าที่ของกรมสอบสวนคดีพิเศษ ที่กรุงเทพมหานคร ในวันที่ 2 เม.ย. 55 เวลา 09.00 น. ณ กรมสอบสวนคดีพิเศษ ซึ่งตนสั่งการให้ พ.ต.ท.ชมภู สมสุไทย รอง ผกก.สส.สภ.ภูสิงห์ และ ร.ต.อ.พิชิต เฉียบแหลม พงส. (สบ 1) ไปเข้าร่วมประชุมตามวัน เวลาดังกล่าวแล้วผกก.สภ.ภูสิงห์ กล่าวต่อไปว่า ในส่วนของพนักงานสอบสวน สภ.ภูสิงห์ ขณะนี้ ได้ทำการรวบรวมหลักฐานว่า ยาหายไปจำนวนเท่าใด เมื่อไหร่ และได้ลงประจำวันไว้เป็นหลักฐาน ส่วนที่จะมีการแจ้งความร้องทุกข์ในขั้นตอนต่อไปนั้น ก็จะต้องรอผลการตรวจสอบของคณะกรรมการตรวจสอบข้อเท็จจริงของ จ.ศรีสะเกษ หลักฐานขณะนี้ มีเพียงบันทึกประจำวันเท่านั้น ซึ่งตนจะได้ส่งรายละเอียดไปให้กรมสอบสวนคดีพิเศษ ต่อไป ตร.แม่อายเผยเก็บหลักฐานซองยาหวัดหมดแล้วพร้อมส่งDSIพ.ต.อ.สุรสิทธิ์ อุตบุรี ผู้กำกับการสถานีตำรวจภูธรแม่อาย จ.เชียงใหม่ เปิดเผยว่า จากกรณีเมื่อวานที่ผ่านมา ชาวบ้านได้แจ้งเข้ามายัง เจ้าหน้าที่ตำรวจ ว่า พบซองยาแก้หวัดที่มีส่วนผสมของซูโดอีเฟดรีน ที่เป็นสารตั้งต้นผลิตยาเสพติด จำนวน 5 กิโลกรัม ถูกเผาทิ้งที่บริเวณริมแม่น้ำแม่กก  ต.ท่าตอน อ.แม่อาย จ.เชียงใหม่ นั้น ภายหลังรับแจ้ง เจ้าหน้าที่ตำรวจ ก็ได้เดินทางเข้าไปทำการตรวจสอบ บริเวณจุดเกิดเหตุ พร้อมกับ ดำเนินการเก็บรวบรวมพยานหลักฐานต่างๆ ไว้ทั้งหมดแล้ว ขณะเดียวกัน พนักงานสอบสวน กรมสอบสวนคดีพิเศษ ในฐานะ ผู้ดูแลรับผิดชอบคดีต่าง ๆ ที่เกี่ยวข้องกับเรื่องของยาแก้หวัด ที่มีส่วนผสมของซูโดอีเฟดรีน ก็ได้มีการทำหนังสือประสานมายัง สถานีตำรวจภูธรแม่อาย เพื่อขอนำพยานหลักฐานต่างๆ ที่เก็บรวบรวมได้ ไปดำเนินการสืบสวนสอบสวนต่อแล้ว  ดีเอสไอ รับสำนวนคดี "ซูโดอีเฟดรีน" ร.พ.กมลาไสย แล้วที่ สภ.กมลาไสย จ.กาฬสินธุ์ นายอังศุเกติ์ วิสุทธิ์วัฒนศักดิ์ พนักงานสอบสวนคดีพิเศษ ชำนาญการ สำนักคดีความมั่นคง กรมสอบสวนคดีพิเศษ (ดีเอสไอ) ได้เข้าพบ พ.ต.อ.วันชัย รณชาติชัย ผกก.สภ.กมลาไสย จ.กาฬสินธุ์ พร้อมพนักงานสอบสวนชุดคลี่คลายคดีสารซูโดอีเฟดรีน ซึ่งหายจากโรงพยาบาลกมลาไสยกว่า 350,000 เม็ด ซึ่ง ผกก.สภ.กมลาไสย ได้อธิบายแนวทางการสืบสวนให้กับเจ้าหน้าที่ดีเอสไอ กว่า 1 ชั่วโมง จากนั้นจึงมอบสำนวนให้กับดีเอสไอ เบื้องต้นสำนวนมีเจ้าหน้าที่ผู้มีส่วนเกี่ยวข้อง รวมถึงเจ้าหน้าที่ห้องยาโรงพยาบาลกมลาไสย กว่า 20 ปาก เจ้าหน้าที่คดีความมั่นคง ดีเอสไอ กล่าวว่า กรณียาหาย ทุกพื้นที่มีความเชื่อมโยงกับขบวนการผลิตยาเสพติด กรณีโรงพยาบาลกมลาไสย จะมีการเชิญตัวผู้อำนวยการโรงพยาบาล และผู้มีส่วนเกี่ยวข้องเข้าให้ปากคำ โดยในวันที่ 2 เมษายนนี้ ที่กรมสืบสวนคดีพิเศษ จะมีการประชุมเพื่อสรุปแนวทางการทำงาน นอกจากนี้มีรายงานว่า บ่ายวันเดียวกัน ที่สำนักงานสาธารณสุขจังหวัดกาฬสินธุ์ มีคณะกรรมการสอบสวนวินัยกับ ผู้บริหาร และเจ้าหน้าที่ห้องยาโรงพยาบาลกมลาไสย รวม 7 คน เพื่อสรุปผลไปยังกระทรวงฯ และคาดว่าหลังทำการสอบสวน จะมีการลงโทษกับเจ้าหน้าที่ทุจริตยาครั้งนี้ DSIบุกหาซูโดลาดพร้าว48หลังพบโยงซองยาริมแม่น้ำกก พ.ต.ท.บรรณฑูรย์ ฉิมกรา ผู้อำนวยการส่วนคดีความมั่นคง 1 สำนักคดีความมั่นคง กรมสอบสวนคดีพิเศษ และ นายสมบัติ หิรัญศุภโชติ เภสัชกรชำนาญการ สำนักงานคณะกรรมการอาหารและยา หรือ อย. พร้อมกับเจ้าหน้าที่ได้เข้าตรวจสอบห้างหุ้นส่วนจำกัด บี.เอม.ฟาร์มาซี ผลิตยาแผนปัจจุบัน ภายใน ซ.ลาดพร้าว 48 แยก 3-4 เพื่อขอดูเอกสารในการผลิตยา และการจ่ายยาที่มีส่วนผสมซูโดอีเฟดรีนโดย พ.ต.ท.บรรณฑูรย์ ระบุว่า ในการเข้าตรวจสอบครั้งนี้ สืบเนื่องจากการพบซองยาที่มีส่วนผสมของสารซูโดอีเฟดรีน จำนวนมาก ริมแม่น้ำกก ในพื้นที่ สภ.แม่อาย จ.เชียงใหม่ จึงเข้าขอประสานกับทางผู้ผลิตยา เกี่ยวกับการผลิตยาในแต่ละวัน ว่ามีจำนวนเท่าใด และมีการส่งขายไปยังสถานที่ใดบ้าง โดยวันนี้ยังไม่ได้อะไรมาก เนื่องจากต้องรอเอกสารการผลิตยา ย้อนหลังตั้งแต่ปี 2009 แม้ว่าจะมีการเตรียมเอกสารการผลิตให้แล้ว แต่ยังไม่ครบถ้วนนอกจากนี้ พ.ต.ท.บรรณฑูรย์ ยังระบุด้วยว่า ดีเอสไอ และ อย. จะยังไม่มีการสั่งให้หยุดผลิตยาที่มีสารซูโดอีเฟดรีน แต่อย่างใด เนื่องจากไม่มีอำนาจในการสั่งการ ส่วนโรงงานต่างๆ ที่มีการผลิตสารซูโดอีเฟดรีนนั้น ทาง ดีเอสไอ และ อย. จะไม่เข้าไปตรวจสอบทั้งหมด แต่จะมีการตรวจสอบเพียงบริษัทที่เป็นข่าวเท่านั้น สธ.เชียงใหม่ชี้แผงยาซูโดที่พบล็อตเดียวกับครั้งก่อนคณะกรรมการเริ่มสอบสวน นายไววิทย์ ศิริตัน เภสัชกร ร.พ.ดอยหล่อ ที่ได้สั่งซื้อยาแก้หวัดที่มีส่วนผสมสารซูโดอีเฟดรีนวันแรกแล้ว ทพ.ดร.สุรสิงห์ วิศรุตรัตน รองนายแพทย์สาธารณสุขจังหวัดเชียงใหม่ เปิดเผยว่า คณะกรรมการสอบสวนจะใช้เวลาประมาณ 1-2 สัปดาห์ สรุปเรื่องนี้ได้ โดยเฉพาะการเกี่ยวโยงว่า เกี่ยวข้องกับขบวนการยาเสพติดหรือไม่ แต่ในเบื้องต้นหลักฐานค่อนข้างชัด ที่เจ้าตัวสั่งยาโดยพลการ เพื่อนำมาจำหน่ายในร้านขายยาตนเอง และส่วนกลาง มีคำสั่งย้ายรอบ 2 ไปอยู่ที่กระทรวงสาธารณสุขแทน ส่วนกรณี ร.พ.ฮอด นั้น มีผู้เกี่ยวข้อง 3 ราย ที่อยู่ระหว่างการตรวจสอบ โดยคณะกรรมการส่วนกลาง ซึ่งก็ต้องให้ความเป็นธรรมทุกฝ่าย ส่วนกรณีที่พบแผงยาแก้หวัดเพิ่มที่ อ.สันกำแพง นั้น เชื่อว่าน่าจะเป็นล็อตเดียวกันกับที่ตรวจพบเมื่อกลางเดือน ก.พ. ที่อาจเกี่ยวข้องกับขบวนการยาเสพติดนำมาแยกทิ้งไว้ แต่เป็นเรื่องที่เจ้าหน้าที่จะทำการสืบสวนต่อไป สำหรับความผิดปกติในพื้นที่นั้น ยังยืนยัน ที่ 2 โรงพยาบาล ส่วนที่ ร.พ.สันทรายตรวจสอบแล้วไม่ผิดปกติ ขณะที่โรงพยาบาลเอกชน ทางส่วนกลางกำลังตรวจสอบอยู่  สธ. แจงข้อมูลผู้ว่าฯลำปางยาซูโดหายที่ศูนย์ราชการจังหวัดลำปาง นายแพทย์ศิริชัย ภัทรนุธาพร แพทย์สาธารณสุขจังหวัดลำปางได้เข้าพบ นายบุญเชิด คิดเห็น ผู้ว่าราชการจังหวัดลำปาง เพื่อรายงานข้อเท็จจริงกรณีพบความผิดปกติยาซูโดอีเฟดรีนหายไปจากโรงพยาบาลเสริมงาม อ.เสริมงาม จ.ลำปาง ซึ่งความผิดปกติเกิดขึ้นจากยอดการสั่งซื้อยาในเดือนกรกฎาคม 2554 ที่ผ่านมา โดยทางผู้ว่าราชการจังหวัดลำปางยังลงนามสั่งตั้งคณะกรรมการสอบสวน และเอาผิดทางวินัยกับข้าราชการของโรงพยาบาลเสริมงาม ซึ่งเป็นเภสัชกรหญิงที่ได้สั่งยาซูโดอีเฟดรีนเกินกว่าความเป็น โดยยอดสั่งซื้อยาซูโดอีเฟดรีนที่ไม่ตรงกันคือยอด 125,000 เม็ด ยาที่เกินไปจากยอดที่ทางโรงพยาบาลรับเข้ามา กว่า 40,000 เม็ด ทั้งนี้ถึงแม้จะมีการลาออกของเภสัชกรคนดังกล่าวไปแล้ว แต่ทางจังหวัดก็ได้สั่งการเอาผิดทางวินัยฐานปฎิบัติหน้าที่โดยมิชอบ ด้วยการทุจริตด้านพร้อม ทั้งดำเนินการตามคำสั่งของทางจังหวัดล่าสุด ที่มีการสอบสวนเอาผิดทางวินัยกับข้าราชการที่กระทำผิดดังกล่าวแล้ว 
แชร์เรื่องนี้
แชร์เรื่องนี้LineTwitterFacebook