ธาริตคาดขรก.ระดับสูงสธ.ร่วมมือคนนอกเอี่ยวซูโดหาย

ธาริตคาดขรก.ระดับสูงสธ.ร่วมมือคนนอกเอี่ยวซูโดหาย

ธาริตคาดขรก.ระดับสูงสธ.ร่วมมือคนนอกเอี่ยวซูโดหาย
แชร์เรื่องนี้
แชร์เรื่องนี้LineTwitterFacebook

นายธาริต เพ็งดิษฐ์ อธิบดีดีเอสไอ กล่าวถึง กรณียาซูโดอีเฟดรีน ว่า เรื่องดังกล่าวต้องสืบสวนในทางลึก ซึ่งคาดว่า จะมี ข้าราชการระดับสูงของ สธ. และคนนอกกระทรวง ร่วมมือกัน ส่วนการตั้งสอบทางวินัยของ สธ. เป็นการแยกสอบ ซึ่งตนเห็นว่า ไม่ควรต้องแยกกัน มิฉะนั้น จะสาวไม่ถึงตัวการใหญ่ ทั้งนี้ ต้องแก้ไขที่ระบบ โดยเฉพาะด่านตรวจคนเข้าเมือง เนื่องจากตัวเลขการลักลอบ สูงถึง 83% และขณะนี้มีข้อมูลมากพอสมควร ที่ทำให้ทราบว่า มีการนำยามาแบ่งบัน และแบ่งผลกำไรกัน ทั้งโรงพยาบาลของรัฐ และเอกชน  ซึ่งทาง ดีเอสไอ กำลังเร่งตรวจสอบในทราบถึงการเชื่อมโยงของการกระทำผิด เบื้องต้น ทราบว่า มีกลุ่มเดียว แต่ส่งไปยัง ผู้ผลิตยาเสพติดหลายกลุ่มทั้งนี้ ในส่วนของตัวอักษรย่อ หลังสื่อมวลชน ออกมาเปิดเผยนั้น อยู่ระหว่างการตรวจสอบเชิงลึกถึงความเกี่ยวข้องในขบวนการ ซึ่งหากบุคคลดังกล่าว เข้ามาให้ข้อมูลกับเจ้าหน้าที่ ก็จะมีการกันไว้เป็นพยานในคดีและเปิดโอกาสให้ชี้แจงข้อกล่าวหาได้ ภ.5 สอบ ซูโดฯ ระบุ เอกสารเก่าสอบยาก พล.ต.ต.ชำนาญ รวดเร็ว รองผู้บัญชาการตำรวจภูธรภาค 5 เปิดเผยกับ สำนักข่าว ไอ.เอ็น.เอ็น. ถึงความคืบหน้า การสืบสวนติดตาม กรณีการเผาทำลายหลักฐานซองยาแก้หวัด ที่มีส่วนผสมของสาร "ซูโดอีเฟดรีน" ที่ริมป่าละเมาะ อ.สันกำแพง และ ริมแม่น้ำกก อ.แม่อาย ในพื้นที่ จ.เชียงใหม่ ว่า ขณะนี้ อยู่ระหว่างการติดตามสืบสวนสอบสวนจากหลักฐานที่พบ ทั้งนี้ในส่วนของพื้นที่ อ.แม่อาย เจ้าหน้าที่ อยู่ระหว่างการรวบรวมเอกสารต่าง ๆ ซึ่งเอกสารหลักฐานส่วนใหญ่ถูกทำลายไปหมด และเป็นเอกสารเก่า ซึ่งยากต่อการติดตาม ส่วนพื้นที่ อ.สันกำแพง หลักฐานค่อนข้างมีความสมบูรณ์ จึงง่ายต่อการสืบสวนขยายผล และคาดว่า จะมีความชัดเจนในอีกไม่นาน แต่จะต้องขอเวลาให้เจ้าหน้าที่ เพื่อตรวจสอบความถูกต้องก่อน พร้อมกันนี้ ระบุว่า ขณะนี้ เริ่มพบมีการทำลายหลักฐาน เพื่อตัดตอนการสาวตัวไปถึงขบวนการแล้ว แต่ตนไม่รู้สึกหนักใจ และไม่กังวลในการติดตามตรวจสอบหาตัวผู้กระทำผิดแต่อย่างใด ผอ.กองควบคุมวัตถุเสพติด อย. แนะ ควรมีระบบสกัดยาซูโดนายประพันธ์ อางตระกูล ผอ.กองควบคุมวัตถุเสพติด อย. เข้าร่วม  จัดเสวนา "ชำแหละยาซูโดล่องหน ใครต้องรับผิดชอบ" ที่ สมาคมนักข่าวแห่งประเทศไทย โดยมีตัวแทนจากหลายหน่วยงานที่เกี่ยวข้องเข้าร่วมงานเป็นจำนวนมาก อาทิ  สำนักงานอาหารและยา หรือ อย. กรมสอบสวนคดีพิเศษ หรือ ดีเอสไอ และกระทรวงสาธารณสุข  โดย นายประพันธ์ กล่าวว่า ยาซูโด มีการลักลอบนำเข้ามาหลายทาง ทั้งชายแดน และที่สนามบิน มากถึง 83%  ด้วยวิธีการต่าง ๆ เช่น สวมยา คือส่งยามาชนิดไม่ตรงกับที่แจ้งไว้  จึงต้องช่วยกันในหลายประเทศ โดยผ่านทางองค์การสหประชาชาติ และควรมีระบบการควบคุมยาดังกล่าวอย่างใกล้ชิด เช่น สถานที่ ที่มียาดังกล่าว ต้องรายงานการซื้อ ขาย การใช้ ให้กับ อย. ทุกเดือน แต่ในอนาคต ยาซูโด อาจยกเลิก ไม่ได้นำมาใช้ในประเทศ โดยจะให้ใช้ยาสูตรอื่นแทน ตร.กาฬสินธุ์ ประชุมวางแนวทางสอบสวนคดีซูโดฯที่สำนักงานตำรวจภูธร จ.กาฬสินธุ์ พล.ต.ต.คณิสร น้อยนารถ ผู้บังคับการตำรวจภูธรจังหวัดกาฬสินธุ์ พ.ต.อ.วิเชียร พินดวง รองผู้บังคับการ ได้ประชุมนายตำรวจ ทั้ง 23 สถานี เพื่อกำหนดทิศทางการทำงานคดีซูโดอีเฟดรีน สารตั้งต้นยาเสพติด ซึ่งหายจากโรงพยาบาลกมลาไสย กว่า 350,000 เม็ด หลังจา DSI รับเป็นคดีพิเศษ ผู้บังคับการตำรวจภูธร จ.กาฬสินธุ์ ว่า นับจากนี้เชื่อว่าจะมีการประสานงานจาก DSI ซึ่ง DSI จะต้องใช้ตำรวจพื้นที่ ร่วมสืบสวนจากผลทางการคดีได้เชื่อมโยงไปถึงเครือข่ายผลิตยาเสพติด ที่โยงใยไปในหลายจังหวัด อีกทั้งพบว่า มีการนำยาออกไปตามตะเข็บชายแดน การทำงานตำรวจจะอำนวยความสะดวกทุกเรื่อง พร้อมกับเพิ่มความรัดกุมในการสืบหายา และซองยา ซึ่งอาจจะถูกนำไปทำลายในพื้นที่  อีกทั้ง ยังจะให้ความคุ้มครองเภสัชกรรม โรงพยาบาลกมลาไสย ผู้ต้องหายักยอกยา นอกจากนี้ จากความเชื่อของ ป.ป.ส. สำหรับ เจ้าหน้าที่ผู้มีส่วนเกี่ยวข้องทั้งหมด จะต้องสืบประวัติ ฐานะทางการเงิน โดยไม่มีข้อยกเว้น ทั้งนี้ หากได้รับผลสรุปแนวทางการทำงานของ DSI ตำรวจ ก็พร้อมที่จะทำงานร่วมกันทันที             ผู้การกาฬสินธุ์ สั่ง ลุยสางคดี "ซูโดฯ" พัวพันยาบ้าพล.ต.ต.คณิสร น้อยนารถ ผู้บังคับการตำรวจภูธรจังหวัดกาฬสินธุ์ เรียกประชุมนายตำรวจทั้ง 23 สถานี เพื่อกำหนดทิศทางการทำงานคดีซูโดอีเฟดรีน หายจากโรงพยาบาลกมลาไสย กว่า 3.5 แสนเม็ด หลัง ดีเอสไอ รับเป็นคดีพิเศษ พล.ต.ต.คณิสรน้อยนารถ กล่าวว่า ขณะนี้ ดีเอสไอ ได้รับสำนวนคดียาแก้หวัดหายไปแล้ว ซึ่งพนักงานสอบสวนพื้นที่จะต้องเป็นคณะกรรมการสอบสวนร่วมด้วย บางเรื่องที่เร่งด่วนจะต้องสอบพยานบุคคล หรือต้องการพยานเอกสารบางเรื่อง จะมอบหมายให้พนักงานสอบสวนท้องที่ เป็นคนดำเนินการและจัดส่งให้ดีเอสไอเป็นคนรวบรวม ทั้งนี้ผลทางคดีนี้ได้มีความเชื่อมโยงถึงเครือข่ายผลิตยาเสพติดในหลายจังหวัด อีกทั้งพบว่า มีการนำยาออกไปตามตะเข็บชายแดน ดังนั้น จึงได้สั่งการให้ตำรวจพื้นที่คอยอำนวยความสะดวกกับดีเอสไอทุกเรื่อง พร้อมเพิ่มความรัดกุมในการสืบหายาและซองยา อีกทั้ง ยังจะให้ความคุ้มครองเภสัชกรรมโรงพยาบาลกมลาไสย ผู้ต้องหายักยอกยา นอกจากนี้ ป.ป.ส. จะสืบประวัติและฐานะทางการเงิน เจ้าหน้าที่ผู้มีส่วนเกี่ยวข้องทั้งหมด หากได้รับผลสรุปแนวทางการทำงานของดีเอสไอ ในวันที่ 2 เม.ย.นี้ ตำรวจในพื้นที่ พร้อมที่จะทำงานทันที เพื่อร่วมกันนำคนกระทำผิดมาลงโทษและทำลายเครือข่ายยาเสพติด ให้หมดสิ้นไป 2 จนท.รพ.ภูสิงห์เตรียมแจงเบิกจ่ายยาซูโดกว่า2.5แสนเม็ดที่ ร.พ.ภูสิงห์ อ.ภูสิงห์ จ.ศรีสะเกษ ขณะนี้มีความคืบหน้าจากคณะกรรมการตรวจสอบข้อเท็จจริง ซึ่งมี น.พ.วันชัย เหล่าเสถียรกิจรองนายแพทย์สาธารณสุขจังหวัดศรีสะเกษ เป็นประธาน โดยรับการเปิดเผยจาก นายอังศุเกติ์ วิสุทธิ์วัฒนศักดิ์ พนักงานสอบสวนคดีพิเศษ หรือ ดีเอสไอ ว่า ขณะนี้คณะกรรมการตรวจสอบข้อเท็จจริง ได้ส่งผลการการสอบสวน มาถึงปลัดกระทรวงสาธารณสุขแล้ว โดยในรายละเอียดของการสรุปผลการสอบสวนนั้น มีชื่อบุคคลที่ตกเป็นผู้ต้องสงสัย จำนวน 2 คน ซึ่ง กระทรวง อยู่ระหว่างการพิจารณาสั่งการที่จะสอบสวนเอาผิดทางวินัยอย่างร้ายแรง โดยทาง ดีเอสไอ ได้ติดตามขอสรุปผลรายงานการตรวจสอบของสำนักงานสาธารณสุขจังหวัดศรีสะเกษ เพื่อไปประกอบการสอบสวนต่อไป นายอังศุเกติ์ ยังเปิดเผยอีกว่า ขณะนี้เจ้าหน้าที่ของทาง ร.พ.ภูสิงห์ ทั้ง 2 คน ได้เตรียมเอกสารเพื่อเข้าชี้แจงต่อคณะกรรมการตรวจสอบข้อเท็จจริงระดับกระทรวง โดยในเบื้องต้นได้ให้เหตุผลว่า มีการเบิกจ่ายยาแบบเร่งด่วน ในช่วง 1 ปีที่ผ่านมา และไม่มีการลงบันทึกการเบิกจ่ายยาในระบบคอมพิวเตอร์ มีเพียงแค่เอกสารจ่ายยาที่เป็นกระดาษเท่านั้น ซึ่งคาดว่าจะเข้าชี้แจงภายในสัปดาห์หน้านี้ 
แชร์เรื่องนี้
แชร์เรื่องนี้LineTwitterFacebook