ตชด.ปราบยาเสพติด กระหน่ำยิงผิดตัว สาวใหญ่ดับคารถ

สลดสาวใหญ่วัย 60 ถูกยิงดับคารถ หลังชุดปราบยาเสพติดเข้าใจผิด คิดว่าเป็นพ่อค้ายารายใหญ่ ด้านสามีโวยเจ้าหน้าที่สุดชุ่ย จี้ออกมารับผิดชอบ

(31 มี.ค.) มื่อเวลา 00.30 น. สภ.ร่อนพิบูลย์ จ.นครศรีธรรมราช รับแจ้งเหตุยิงกันที่ถนนบริเวณ ม.14 ต.ร่อนพิบูลย์ อ.ร่อนพิบูลย์ จึงรุดไปตรวจสอบ ที่เกิดเหตุพบรถเก๋งฮอนด้าซีวิค สีขาว จอดอยู่บนถนนในหมู่บ้าน กระจกด้านหลังเป็นรอยพรุนทั้งแผ่น และยางล้อรถยนต์เสียหายจากการถูกยิง และพบรอยเลือดจำนวนมากในรถ ส่วนคนเจ็บมีการนำส่งโรงพยาบาล ก่อนเสียชีวิตในเวลาต่อมา ทราบชื่อคือนางโสภา พิบูลย์ อายุ 60 ปี

จากการสอบสวนนายสุจินต์ พิบูลย์ อายุ 58 ปี เจ้าหน้าที่ฝ่ายซ่อมบริษัทปูนซิเมนต์ไทย อ.ทุ่งสง จ.นครศรีฯ สามีของผู้เสียชีวิต ทราบว่าขณะขับรถกลับจากส่งญาติพร้อมนางโสภา มีรถยนต์กระบะสองคันขับสวนทาง โดยมีชายฉกรรณ์หลายคนนั่งอยู่กระบะหลัง และคนในรถกระบะได้ลดกระจกรถลงเรียกให้ตนจอดรถ แต่ตนไม่ทราบว่าเป็นใครจึงไม่กล้าจอด สักพักรถกระบะคันเดิมได้เลี้ยวกลับมาและขับไล่ตนเพื่อจะให้จอด ตนยิ่งตกใจนึกว่าโดนปล้นก็รีบเหยียบคันเร่งหนี แต่ทันใดนั้นได้มีเสียงปืนดังขึ้นหลายนัด ตนจึงเร่งขับรถเพื่อจะหนีไปจากจุดดังกล่าว แต่ก็ยังมีเสียงปืนดังขึ้นมาอีกหลายนัด จนกระสุนถูกภรรยาล้มฟุบ ขณะที่ล้อยางรถของตนโดนกระสุนจนระเบิด จึงไม่สามารถขับต่อได้

จากนั้นชายฉกรรจ์กลุ่มดังกล่าวจึงกรูกันเข้ามาล้อมรถเก๋งของตน จนเมื่อตรวจสอบพบว่านางโสภา ภรรยาของตนถูกยิงแน่นิ่งจมกองเลือดอยู่ในรถ ชายฉกรรจ์ทั้งหมดแสดงอาการตกใจและพูดกันว่า "ไม่ใช่ ยิงผิดตัว" ในขณะเดียวกันได้มีเจ้าหน้าที่ตำรวจสายตรวจ สภ.จุฬาภรณ์ ซึ่งมีพื้นที่ติดกันขับรถมายังที่เกิดเหตุ ช่วยนำภรรยาส่งโรงพยาบาล พร้อมแจ้งว่าชายฉกรรจ์ที่ยิงถล่มรถของตน เป็นเจ้าหน้าที่ตำรวจชุดปราบปรามยาเสพติดของ ตชด.42 ที่ออกปฏิบัติการไล่ล่าจับกุมแก๊งค้ายาเสพติด โดยได้วิทยุให้ตำรวจสายตรวจช่วยสกัดจับคนร้ายที่ขับรถเก๋งหลบหนี ซึ่งตนเชื่อว่าชุดปราบปรามยาเสพติด เข้าใจผิดคิดว่ารถเก๋งของตนเป็นรถของคนร้าย จึงใช้อาวุธปืนระดมยิงใส่ทำให้ภรรยาตนเสียชีวิต

นายสุจินต์ กล่าวต่อว่าตนเสียใจมากที่ได้เกิดเหตุการณ์เช่นนี้ เราเป็นชาวบ้านที่ทำมาหากินสุจริต เจ้าหน้าที่ทำงานทำไมถึงไม่ตรวจสอบข้อมูลให้ดีก่อน การยิงใส่รถชาวบ้านโดยคิดว่าเป็นผู้ค้ายา มันยุติธรรมกับครอบครัวตนหรือไม่ ตนอยากจะเรียกร้องให้ทุกส่วนที่รับผิดชอบได้หันมาใส่ใจเรื่องนี้ ตนอยากให้กรณีของภรรยาตนเป็นอุทาหรณ์ และเป็นรายสุดท้ายที่สังเวยให้กับความชุ่ยของเจ้าหน้าที่

ด้าน พล.ต.ต.รณพงษ์ ทรายแก้ว ผบก.ภ.นครฯ ซึ่งเดินทางไปตรวจสอบที่เกิดเหตุ เผยว่าตนรู้สึกเสียใจกับเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น เนื่องจากเจ้าหน้าที่ซึ่งก่อเหตุยิงใส่รถของนายสุจินต์ เป็นชุดปราบปรามยาเสพติดของ ตชด.42 ซึ่งทราบว่าเข้าใจผิดคิดว่ารถนายสุจิน เป็นผู้ต้องหายาเสพติด เนื่องจากสายรายงานให้ทราบว่าผู้ต้องหาใช้รถสีขาว เนื่องจากช่วงกลางวันทางเจ้าหน้าที่ชุดดังกล่าว ได้จับกุมยาบ้า 4 พันเม็ด และยาไอซ์ 1 กก.ได้ที่ อ.จุฬาภรณ์ ก่อนจะขยายผลมาตรวจค้นที่เพิ่มเติมที่ ม.6 ต.ร่อนพิบูลย์ อ.ร่อนพิบูลย์ เมื่อค้นบ้านผู้ต้องสงสัยไม่พบอะไรก็ได้ขับรถกลับออกมา และมาสวนทางกับรถผู้เสียชีวิต จึงเข้าใจผิดคิดว่าเป็นรถผู้ต้องหาตามที่สายแจ้งมา ถือเป็นความบกพร่องของเจ้าหน้าที่อย่างรุนแรง