ผบ.ตร.ยันบึ้มลีการ์เด้นคาร์บอมบ์ดับ5เจ็บ354โยงยะลา
เมื่อช่วงค่ำที่ผ่านมา พล.ต.อ.เพรียวพันธ์ ดามาพงศ์ ผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ ลงพื้นที่ติดตามเหตุระเบิดที่ห้างสรรพสินค้าและโรงแรม ลี การ์เด้นส์ พลาซ่า อ.หาดใหญ่ จ.สงขลา และดูสภาพความเสียหายของสถานที่เกิดเหตุ พร้อมกับเปิดเผยว่า เหตุระเบิดที่ อ.หาดใหญ่ เป็นคาร์บอมบ์บรรจุในถังแก๊ส และเชื่อมโยงกับเหตุระเบิดในพื้นที่ จ.ยะลา ซึ่งเจ้าหน้าที่พอทราบกลุ่มที่ก่อเหตุแล้ว และมีความเสียหายมาก จากนี้ไปจนถึงเทศกาลสงกรานต์ เจ้าหน้าที่ทุกฝ่ายจะต้องตั้งด่านตรวจให้ถี่ขึ้น เพื่อป้องกันเหตุร้าย แน่นอนว่า เหตุระเบิดหาดใหญ่จะส่งผลกระทบต่อการท่องเที่ยวทั้งนี้ สำหรับจุดที่เกิดเหตุระเบิดนั้น หลังจากที่หน่วยเก็บกู้วัตถุระเบิดได้เข้าตรวจสอบที่เกิดเหตุ พบว่า อยู่บริเวณลานจอดรถชั้นบี 3 ซึ่งเป็นชั้นใต้ดิน โดยรถที่ประกอบเป็นคาร์บอมบ์เป็นรถยนต์ฮอนด้าแจ๊ซ ยังไม่ทราบหมายเลขทะเบียน ใช้ระเบิดแสวงเครื่องบรรจุในถังแก๊สน้ำหนักราว15 กิโลกรัม แรงระเบิดทำให้รถขาด 2 ท่อน และพื้นลานจอดรถเป็นรูโหว่รัศมีเท่ากับตัวรถ แต่ขณะนี้เจ้าหน้าที่ยังไม่สามารถตรวจในรายละเอียดได้ เพราะยังมีกลุ่มควันและไอความร้อนอยู่ ขณะที่บริเวณจุดเกิดเหตุมีรถยนต์ที่ถูกไฟไหม้และถูกสะเก็ดระเบิดพังเสียหายกว่า 100 คัน ผู้ว่าฯสงขลา ระบุ มีผู้เสียชีวิต 5 คน บาดเจ็บ 354 คน นายกฤษฎา บุญราช ผู้ว่าราชการจังหวัดสงขลา เปิดเผยว่า จำนวนตัวเลขผู้บาดเจ็บขณะนี้ อยู่ที่ 354 คน รักษาตัวอยู่ที่โรงพยาบาล 144 คน อาการน่าเป็นห่วง อยู่ในห้องไอซียู 28 คน และเสียชีวิต 5 คน เป็นชาย 4 คน หญิง 1 คน ในจำนวนผู้เสียชีวิตมีนักท่องเที่ยวชาวมาเลเซีย รวมอยู่ด้วย 1 คน แต่ยังไม่ทราบชื่อ ส่วนการช่วยเหลือ ทางจังหวัดจะมอบเงินในกรณีผู้เสียชีวิต หากเป็นหัวหน้าครอบครัวจะจ่ายค่าเยียวยาให้ 50,000 บาท สมาชิกครอบครัว 25,000 บาท ผู้บาดเจ็บ หากรักษาตัวเกิน 1 เดือน จะจ่ายค่าเยี่ยวเบื้องต้นเดือนละ 3,000 บาท และจะเสนอไปยัง ศอ.บต. เพื่อให้การช่วยเหลือผู้บาดเจ็บและเสียชีวิตเป็นกรณีพิเศษรายละ 100,000 บาท ในวันพรุ่งนี้ทางเจ้าหน้าที่ ที่เกี่ยวทุกหน่วย จะตั้งศูนย์อำนวยการช่วยเหลือผู้ได้รับผลกระทบ โดยจะเปิดศูนย์รับแจ้งผู้สูญหาย รวมทั้งทรัพย์สินเสียหายขณะที่ในคืนนี้ ทางสำนักงานการท่องเที่ยวแห่งประเทศสำนักงานหาดใหญ่ และตำรวจท่องเที่ยว ได้เปิดศูนย์ช่วยเหลือนักท่องเที่ยวบริเวณหน้าห้างสรรพสินค้าลี การ์เด้นส์ พลาซ่า ทั้งในเรื่องการจัดหาที่พักตามโรงแรมต่างๆ การแจ้งคนหาย รวมทั้งช่วยประสานงานกรณีหากมีนักท่องเที่ยวได้รับบาดเจ็บ และชี้แจงข้อเท็จจริงเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นให้นักท่องเที่ยวต่างชาติ ได้รับทราบ ชาวยะลา ยังผวา! เหตุคาร์บอมบ์ จากเหตุระเบิดคาร์บอมบ์ย่านถนนรวมมิตร เขตเทศบาลนครยะลา จำนวน 3 จุด เมื่อวานนี้ ทำให้บรรยากาศทั่วไปในบริเวณย่านการค้าเช้าวันนี้ เงียบเหงา ผู้ประกอบการร้านค้าใกล้เคียงยังคงปิดร้าน เพราะยังคงหวาดกลัวกับเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น และประชาชนบางส่วนก็ยังคงไปดูสถานที่เกิดเหตุ พร้อมทั้งกล่าวเป็นเสียงเดียวกันว่า เป็นเหตุการณ์ที่รุนแรงมากที่สุดเท่าที่มีเหตุการณ์เกิดขึ้นในพื้นที่ จ.ยะลา และหลังจากนี้ผู้ประกอบการบางรายอาจจะต้องย้ายไปประกอบอาชีพที่อื่นอย่างแน่นอน ส่วนที่ วัดพุทธภูมิ และ ฌาปนสถาน เทศบาลนครยะลา ญาติๆ ของผู้เสียชีวิตจากเหตุระเบิดคาร์บอมบ์ ได้ทยอยร่างของผู้เสียชีวิตจำนวน 10 ราย มาบำเพ็ญกุศลในที่ดังกล่าว ซึ่งผู้ที่พบเห็นต่างเศร้าใจ ที่ประชาชนต้องมาเสียชีวิตจำนวนมากเช่นนี้ ด้วยการกระทำของผู้ไม่หวังดี แต่ประชาชนต้องมารับเคราะห์กรรมแทน ด้าน พล.ท.อุดมชัย ธรรมสาโรรัชต์ แม่ทัพภาคที่ 4 กำชับให้กำลังพลดูแลรักษาความปลอดภัยให้รัดกุมมากยิ่งขึ้น เจ้าหน้าที่ชุดเก็บกู้วัตถุระเบิดเตรียมตรวจจุดเกิดเหตุคาร์บอมบ์หาดใหญ่ ความคืบหน้าเหตุลอบวางระเบิดคาร์บอมบ์ โรงแรมและห้างสรรพสินค้าลี การ์เด้นส์ พลาซ่า ใน อ.หาดใหญ่ จ.สงขลา เมื่อวานนี้ ล่าสุด แน่ชัดแล้วว่าเป็นคาร์บอมบ์จากรถเก๋งที่ประกอบระเบิดแสวงเครื่องโดยถังแก๊ส ซึ่งในช่วงเช้าวันนี้ เจ้าหน้าที่ชุดเก็บกู้วุตถุระเบิด จะเข้าตรวจสอบรายละเอียดบริเวณจุดเกิดเหตุอีกครั้งหนึ่ง ซึ่งอยู่ชั้นใต้ดินบริเวณ B1 และยังกั้นพื้นที่ห้ามผู้ไม่เกี่ยวข้องเข้าไปอย่างเด็ดขาด ส่วนตัวเลขของผู้เสียชีวิตขณะนี้อยู่ที่ 5 ราย เป็นชาย 4 ราย และหญิง 1 ราย ในจำนวนนี้เป็นชาวมาเลเซีย 1 ราย ขณะที่จากตัวเลขผู้บาดเจ็บทั้งหมด อยู่ที่ 440 คน ซึ่งยังคงอยู่ระหว่างการตรวจสอบรายชื่อของผู้เสียชีวิต และในช่วงเช้าของวันนี้ นายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ หัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ จะลงตรวจสอบพื้นที่เกิดเหตุ และร่วมเยี่ยมผู้บาดเจ็บที่โรงพยาบาลด้วย โฆษก มทภ. 4 เผย รู้แล้ว มือคาร์บอมบ์ ยะลา พ.อ.ปราโมช พลอินทร์ โฆษกแม่ทัพภาคที่ 4 กล่าวกับสำนักข่าว ไอ.เอ็น.เอ็น. ว่า จากเหตุคาร์บอมบ์ 3 จุด ที่ จ.ยะลา นั้น ค่อนข้างจะทราบอยู่แล้วว่าคนร้ายคือใคร แต่อยู่ที่ว่าจะขยายเครือข่ายได้มากน้อยแค่ไหน ทั้งนี้มีภาพข่าวก่อนหน้านี้ จากหลักฐานที่มีการประชุมโต๊ะข่าวมาตลอด โดยเฉพาะรถที่ใช้ในการก่อเหตุยิงจุดตรวจที่ ต.บารอ อ.รามัน ในช่วงต้นเดือนที่ผ่านมา จึงทราบได้ว่าผู้ลงมือก่อเหตุคือกลุ่มใด ขณะที่ขั้นต้นยังยืนยันไม่ได้ว่าเหตุ 2 แห่งเชื่อมโยงกัน แต่มีความเป็นไปได้ว่าเชื่อมโยงกัน ขณะเดียวกัน ยังน่าจะมีส่วนเชื่อมโยงกับการปราบปรามยาเสพติด เพราะแม่ทัพภาคที่ 4 ได้ใช้ยาแรง และกฎหมายพิเศษ ในการปราบยาเสพติด และพบหลักฐานชัดเจนว่ากลุ่มก่อการร้าย และกลุ่มยาเสพติดเชื่อมโยงกัน ทั้งนี้ จากเหตุคาร์บอมบ์ 3 จุด ที่ จ.ยะลา ได้มีการตั้งคณะทำงานพิเศษเพื่อดำเนินการติดตามคนร้าย เส้นทางระเบิด และหาแหล่งวัตถุระเบิด โดยร่วมกันทำงานทุกส่วน ทั้งนี้ทราบว่า เป็นลักษณะการดำเนินการแบบรวมการ แล้วนำไปกระจาย เพราะการประกอบนั้นใช้เทคนิคพอสมควร ซึ่งที่ผ่านมา ได้จับกุมคนร้ายมาแล้วหลายราย อย่างไรก็ตาม ผู้บัญชาการทหารบก สั่งกำชับว่า ต้องควบคุมสถานการณ์ให้ได้ และสร้างความมั่นใจให้ประชาชน ในการวางมาตรการรักษาความปลอดภัยให้เข้มงวด รวมถึงช่วงสงกรานต์และการตรวจเลือกทหารกองเกิน ซึ่งที่ผ่านมาได้ร่วมกับทางจังหวัด และตำรวจด้วย "อภิสิทธิ์" จี้ คลี่คลายคดีบึ้มหาดใหญ่ ผบ.ตร. เตรียมไปยะลา ความคืบหน้าเหตุลอบวางระเบิดคาร์บอมบ์ ภายในโรงแรมและห้างสรรพสินค้า ลี การ์เด้นส์ พลาซ่า ใน อ.หาดใหญ่ จ.สงขลา วานนี้ เมื่อช่วงเช้าที่ผ่านมา นายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ หัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ และผู้นำฝ่ายค้าน ได้ลงพื้นที่ดูจุดเกิดเหตุหน้าโรงแรมและห้างสรรพสินค้า ลี การ์เด้นส์ พลาซ่า ก่อนที่จะเดินทางไปเยี่ยมผู้บาดเจ็บตามโรงพยาบาลต่างๆ พร้อมเปิดเผยว่า เจ้าหน้าที่ทุกฝ่ายจะต้องเร่งสอบสวนคลี่คลายคดีให้เร็วที่สุด เพื่อสร้างความมั่นในให้กับนักท่องเที่ยว และหามาตรการป้องกันไม่ให้เกิดเหตุซ้ำ ขณะที่แนวทางการแก้ปัญหาความรุนแรง จะต้องสร้างความมั่นใจให้กับคนในพื้นที่ ด้าน พล.ต.อ.เพรียวพันธ์ ดามาพงศ์ ผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ ได้เดินทางมาตรวจสอบในพื้นที่เกิดเหตุอีกครั้ง ก่อนที่จะเดินทางไปพื้นที่ จ.ยะลา โดยย้ำให้เจ้าหน้าที่ชุดเก็บกู้วัตถุระเบิด (EOD) ตรวจสอบเก็บหลักฐานบริเวณจุดเกิดเหตุคาร์บอมบ์อย่างละเอียด และเร่งตรวจสอบหลักฐานเกี่ยวกับรถยนต์ที่ใช้วางระเบิด ทั้งผู้ครอบครองและรายละเอียดต่างๆ ซึ่งช่วงเช้าของวันนี้ เจ้าหน้าที่ชุดเก็บกู้วัตถุระเบิดจะลงไปตรวจสอบบริเวณชั้นลานจอดรถ B1, B3 ซึ่งเป็นจุดระเบิดอีกครั้ง พร้อมกับกันพื้นที่บริเวณโรงแรม ห้ามผู้ที่ไม่เกี่ยวข้องเข้าไปเด็ดขาด ผบช.ภ.9 สั่งจับตา 3 แก๊งคาร์บอมบ์หาดใหญ่พล.ต.ท.จักรทิพย์ ชัยจินดา ผู้บัญชาการตำรวจภูธรภาค 9 เปิดเผยถึงความคืบหน้ากรณีเกิดเหตุคาร์บอมบ์ ขึ้นที่โรงแรมและห้างสรพสินค้า ลี การ์เด้นส์ อ.หาดใหญ่ จ.สงขลา ว่า การเข้าตรวจสอบบริเวณจุดเกิดเหตุ เมื่อช่วงค่ำวานนี้นั้น เป็นไปด้วยความยากลำบาก เนื่องจากเป็นการทำงานใต้ตึกที่มืด และไม่มีไฟส่องสว่าง แต่ทั้งนี้ เจ้าหน้าที่ก็ได้พยานหลักฐาน ที่เป็นส่วนประกอบของระเบิดมาบางส่วน และพบด้วยว่า ชิ้นส่วนเหล่านั้นมีความเชื่อมโยงกับบางเหตุการณ์ ที่ศูนย์ปฏิบัติการตำรวจจังหวัดชายแดนภาคใต้ (ศชต.) ขณะที่ในวันนี้ ภายหลังจาก ผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ ประชุมติดตามความคืบหน้าทางคดีเป็นครั้งที่ 2 ทางเจ้าหน้าที่จะลงพื้นที่ในจุดเกิดเหตุอีกครั้ง โดยจะทำการเคลียร์รถที่ค้างอยู่ในชั้น B1, B2 และ B3 ออกจากโรงแรมให้หมด รวมไปถึงฝ่ายสืบสวน จะลงพื้นที่เพื่อตรวจหาพยานหลักฐานเพิ่มเติม นำไปสู่การติดตามจับกุมกลุ่มคนร้าย ที่ขณะนี้เจ้าหน้าที่ได้เฝ้าจับตาอยู่ประมาณ 2- 3 กลุ่ม แต่ยังไม่สามารถเปิดเผยได้ว่าเป็นกลุ่มใด สำหรับประเด็นในการก่อเหตุครั้งนี้นั้น พล.ต.ท.จักรทิพย์ เปิดเผยว่า มีเพียงประเด็นเดียวเท่านั้น คือ ต้องการสร้างความตื่นตระหนกตกใจให้กับประชาชนในพื้นที่ หรืออาจเรียกว่า เป็นการก่อการร้ายก็ได้ เนื่องจากลักษณะในการก่อเหตุเข้าข่ายอย่างไรก็ตาม ในส่วนของการดูแลความปลอดภัยจากนี้ไป เจ้าหน้าที่ก็จะเน้นหนักไปในเส้นทางธุรกิจเป็นหลัก เนื่องจากเป็นเมืองท่องเที่ยว และนักท่องเที่ยวต่างชาติเข้ามาไม่ต่ำกว่า 2 ล้านคนต่อปี จึงต้องรักษาพื้นที่ให้เกิดความปลอดภัยเป็นอย่างดี ผบ.ตร. ตรวจจุดเกิดเหตุบึ้มยะลา บอก นายกฯ ห่วงที่บริเวณถนนรวมมิตร เขตเทศบาลนครยะลา พล.ต.อ.เพรียวพันธ์ ดามาพงศ์ ผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ พร้อมด้วยคณะ ได้ลงพื้นที่ดูสถานที่เกิดเหตุ ก่อนเข้าประชุม ที่ห้องประชุมศูนย์ปฏิบัติการตำรวจจังหวัดชายแดนภาคใต้ เพื่อติดตามความคืบหน้าของคดี และหลังการประชุม เดินทางไปเยี่ยมผู้ที่ได้รับบาดเจ็บจากเหตุระเบิดคาร์บอมบ์ ที่โรงพยาบาลยะลา จำนวนกว่า 30 ราย ส่วนที่เหลือ แพทย์ได้อนุญาตให้กลับบ้านได้ตั้งแต่เมื่อเย็นวานนี้ ผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ กล่าวว่า การเดินทางลงพื้นที่ครั้งนี้ เนื่องจาก นายกรัฐมนตรี มีความห่วงใยสถานการณ์ และความปลอดภัยของประชาชนในพื้นที่ จึงได้มอบหมายให้ตนเอง เดินทางลงพื้นที่เพื่อติดตามความคืบหน้าของคดี ซึ่งขณะนี้ เจ้าหน้าที่รู้ตัวคนร้ายแล้วอยู่ระหว่างการสืบสวนสอบสวน รวบรวมพยานหลักฐาน พร้อมได้สั่งกำชับเจ้าหน้าที่ตำรวจเฝ้าระวัง และติดตามสถานการณ์อย่างใกล้ชิด ขอให้พี่น้องประชาชนมีความมั่นใจเจ้าหน้าที่ทุกฝ่าย ที่จะร่วมกันดูแลความปลอดภัยให้กับประชาชนอย่างดีที่สุด นายกฯ เสียใจบึ้มใต้ยันรู้กลุ่มแล้วสั่งเพิ่มกำลังน.ส.ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร นายกรัฐมนตรี แสดงความเสียใจกับผู้ที่สูญเสียจากเหตุการณ์ระเบิดคาร์บอมบ์ในพื้นที่ จ.สงขลา จ.ปัตตานี จ.ยะลา และขณะนี้ทราบกลุ่มที่ก่อเหตุ รวมถึงสาเหตุบ้างแล้ว แต่ไม่ขอเปิดเผยลายละเอียด เนื่องจากต้องการให้เจ้าหน้าที่ตำรวจ และสำนักข่าวกรองแห่งชาติ ทำงานเต็มที่ เพื่อเข้าถึงตัวผู้ก่อเหตุ สำหรับแนวทางหลังจากนี้ จะเป็นไปในรูปแบบการหาสาเหตุ หาตัวผู้ก่อเหตุ และการดูแลความปลอดภัยให้กับประชาชน โดยสั่งการให้สำนักงานตำรวจแห่งชาติ ร่วมกับ ศอ.บต. และกองทัพ ซึ่งรองผู้บัญชาการทหารบก จะลงพื้นที่ในวันนี้ เพื่อเสริมกำลังดูแลพื้นที่สาธารณะ และป้องกันการก่อเหตุซ้ำซ้อนด้วย นายกรัฐมนตรี ยังกล่าวอีกว่า ขณะนี้ ยังไม่ถึงขั้นที่จะมีชาวต่างชาติเข้ามาเกี่ยวข้องกับเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น และข้อมูลยังไม่ลงลึกในรายละเอียดนอกจากนี้ นายกรัฐมนตรี กล่าวว่า ขณะนี้ ยังไม่อยากลงพื้นที่เกิดเหตุคาร์บอมบ์ เนื่องจากเจ้าหน้าที่มีจำนวนกัด หากลงไปในพื้นที่ เจ้าหน้าที่ต้องแบ่งกำลังรักษาความปลอดภัย ซึ่งจะกระทบการทำงาน จึงขอบัญชาการและประสานงานอยู่ที่กรุงเทพมหานคร ดีกว่า โดยในช่วงบ่ายของวันนี้ พล.อ.ยุทธศักดิ์ ศศิประภา รองนายกรัฐมนตรี จะประชุมหน่วยงานความมั่นคงที่เกี่ยวข้อง เพื่อติดตามสถานการณ์อย่างใกล้ชิด ขณะที่ นายยงยุทธ วิชัยดิษฐ รองนายกรัฐมนตรี และรัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทย และ นายสันติ พร้อมพัฒน์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์ จะลงพื้นที่เรื่องการเยียวยาผู้ได้รับผลกระทบ ขณะเดียวกัน นายกรัฐมนตรี ยังกล่าวถึงกรณีที่รัฐบาลถูกมองว่าแทรกแซงสื่อ โดยไม่อนุญาตให้ผู้สื่อข่าวบางสำนักไปทำข่าวที่ต่างประเทศนั้น นายกรัฐมนตรี ระบุว่า ยังไม่ทราบรายละเอียด แต่ยืนยัน ไม่ได้แทรกแซง ที่ผ่านมายินดีตอบทุกคำถาม สธ.เผยคาร์บอมบ์ยะลาตาย11ราย-เจ็บ127รายนายวิทยา บุรณศิริ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงสาธารณสุข กล่าวถึงความคืบหน้าการดูแลผู้บาดเจ็บจากเหตุระเบิดที่ จ.ยะลา ว่า นายกรัฐมนตรี ได้กำชับให้กระทรวงสาธารณสุข ดูแลผู้บาดเจ็บอย่างเต็มที่ และให้สำนักงานหลักประกันสุขภาพแห่งชาติ (สปสช.) ดูแลค่าใช้จ่ายทั้งหมด โดยใช้ 3 กองทุนฉุกเฉินร่วมได้ทันที ไม่ต้องรอถึงวันที่ 1 เมษายน 2555 ทั้งนี้ นายวิทยา ได้กล่าวด้วยว่า เหตุระเบิดที่เกิดขึ้นนั้น ถือเป็นครั้งใหญ่ที่สุดในประวัติการณ์ของจังหวัดยะลา โดยสรุปรายงานผู้เสียชีวิตล่าสุด ณ เวลา 08.00 น. วันนี้ มีจำนวนทั้งสิ้น 11 ราย เป็นชาย 6 ราย หญิง 5 ราย และมีผู้ได้บาดเจ็บจำนวน 127 ราย โดยส่วนใหญ่ได้รับบาดเจ็บเล็กน้อย และแพทย์ได้อนญาตให้กลับบ้านแล้ว ส่วนผู้บาดเจ็บที่ต้องนอนพักรักษาอาการอยู่ที่โรงพยาบาลนั้น มีจำนวน 31 ราย ซึ่ง 10 ราย อาการสาหัส ถูกเปลวไฟลวก และสะเก็ดระเบิด และในจำนวนนี้นี้มี 5 ราย ที่ถูกไฟลวกตามร่างกายรุนแรงกว่า 50% แพทย์ต้องใช้เครื่องช่วยหายใจ และให้พักรักษาอาการอยู่ในห้องไอซียู ขณะที่ผู้ได้รับบาดเจ็บสาหัสอีก 5 ราย นั้น อาการโดยทั่วไปปลอดภัยแล้ว แต่มี 2 ราย ที่เสี่ยงตาบอด เนื่องจากถูกสะเก็ดระเบิดเข้าที่ลูกตาทำให้ตาแตก โฆษกพท.แสดงความเสียใจเหยื่อบระเบิดภาคใต้ นายพร้อมพงศ์ นพฤทธิ์ โฆษกพรรคเพื่อไทย แถลงข่าวที่พรรคเพื่อไทย แสดงความเสียใจกับญาติผู้เสียชีวิต ผู้ได้รับบาดเจ็บ และผู้ที่ได้รับผลกระทบ จากเหตุการณ์ระเบิดในพื้นที่ภาคใต้ เมื่อวานที่ผ่านมา ซึ่ง นายกรัฐมนตรี ได้สั่งการให้เจ้าหน้าที่ ที่เกี่ยวข้อง ลงพื้นที่สำรวจความเสียหาย และเร่งจับกุมผู้กระทำผิดมาดำเนินคดี และขอเรียกร้องไปยังฝ่ายค้าน ควรให้กำลังใจผู้ที่ได้รับผลกระทบ และอย่านำเรื่องดังกล่าวมาเป็นประเด็นทางการเมือง เพราะฝ่ายค้าน ซึ่งเป็นเจ้าของพื้นที่ หากมีข้อมูลควรส่งให้กับรัฐบาล เพื่อบูรณาการร่วมกันแก้ไขปัญหาดังกล่าว นายกเล็กสงขลาประสานม.สงขลาฯตรวจลี การ์เด้นส์พรุ่งนี้ นายไพร พัฒโน นายกเทศมนตรีนครหาดใหญ่ เปิดเผยว่า สำหรับโครงสร้างของโรงแรมและห้างสรรพสินค้าลี การ์เด้นส์ พลาซ่า นั้น ทางเทศบาลได้ประสานกับคณะวิศวกรรมศาสตร์ มหาวิทยาลัยสงขลานครินทร์ และเทศบาล เข้าไปตรวจสอบในวันที่ 2 เม.ย. หลังจากทางเจ้าหน้าที่กองพิสูจน์หลักฐาน เข้าไปเก็บหลักฐานแล้ว แต่คาดว่าโครงสร้างโรงแรมไม่น่าจะมีปัญหา ส่วนความเสียหายที่เกิดขึ้นกับมืองหาดใหญ่ และ จ.สงขลา โดยภาพรวมประมาณ 500 ล้านบาท จากค่าเสียโอกาสของการลงทุนและการท่องเที่ยว เนื่องจากนักลงทุนและนักท่องเที่ยวจะลดลงในช่วง 3 เดือน เป็นอย่างน้อยนายไพร เปิดเผยว่า ส่วนผลกระทบในระยะยาว คือ การเปิดการค้าเสรีในปี 2558 หากฝ่ายความมั่นคง ยังไม่มีมาตรการแก้ปัญหาเหตุการณ์ไม่สงบใน 3 จังหวัดชายแดนภาคใต้ ลงได้ ที่ส่งผลกระทบมายัง อ.หาดใหญ่ พื้นที่เศรษฐกิจของภาคใต้ ทั้งทางตรงและทางอ้อมด้วย ทอท. เข้มมาตรการรักษาความปลอดภัย ป้องกันการก่อวินาศกรรม ว่าที่ เรืออากาศโท อนิรุทธิ์ ถนอมกุลบุตร กรรมการผู้อำนวยการใหญ่ บริษัท ท่าอากาศยานไทย จำกัด (มหาชน) หรือ ทอท. กล่าวกับสำนักข่าว ไอ.เอ็น.เอ็น. ถึงมาตรการรักษาความปลอดภัยของท่าอากาศยาน ในความดูแลของ ทอท. หลังจากวานนี้ได้เกิดเหตุระเบิดที่โรงแรมและห้างสรรพสินค้า ลี การ์เด้นส์ พลาซ่า อ.หาดใหญ่ จ.สงขลา และเหตุระเบิดในพื้นที่ จ.ยะลา ว่า ได้สั่งการให้ทุกท่าอากาศยานเข้มงวดในเรื่องมาตรการรักษาความปลอดภัย เพื่อป้องกันการก่อวินาศกรรม โดยท่าอากาศยานหาดใหญ่ ยังคงมาตรการรักษาความปลอดภัยไว้ที่ระดับ 3 จากทั้งหมด 4 ระดับ ซึ่งถือเป็นระดับที่มีความเข้มงวดในการรักษาปลอดภัยมากขึ้นกว่าปกติ เพื่อให้สอดคล้องกับสถานการณ์ปัจจุบัน แต่จะเพิ่มความเข้มงวดเป็นระดับ 4 หรือไม่นั้น ขึ้นอยู่กับการข่าวที่จะประเมินทั้งนี้ ว่าที่เรืออากาศโทอนิรุทธิ์ ยืนยันว่า หลังจากเกิดเหตุระเบิดเกิดขึ้นที่ อ.หาดใหญ่ จ.สงขลา ยังไม่มีสายการบินใดยกเลิกเที่ยวบินมาลงจอดที่สนามบินหาดใหญ่ ปธ.อุตฯท่องเที่ยวหาดใหญ่รับคาร์บอมบ์กระทบท่องเที่ยว นายสมชาติ พิมพ์ธนพูนพร ประธานสภาอุตสาหกรรมธุรกิจการท่องเที่ยวจังหวัดสงขลา ระบุว่า ระเบิดคาร์บอมบ์ที่ลานจอดรถโรงแรมและห้างสรรพสินค้าลี การ์เด้นส์ พลาซ่า จนทำให้มีผู้บาดเจ็บและเสียชีวิตเกือบ 500 คน ที่ส่งผลกระทบแน่นอน คือ เทศกาลสงกรานต์จะมีนักท่องเที่ยวยกเลิกจองห้องพัก ไม่น้อยกว่าร้อยละ 60 ของการจองห้องพักทั้งหมด 12,500 ห้อง และในระยะยาวนักท่องเที่ยวและนักลงทุนไม่เชื่อมั่นไม่น้อยกว่า 3 เดือน ซึ่งตนเองประมาณความเสียหายแล้วไม่ต่ำกว่า 1,000 ล้านบาท และอาจจะเสียโอกาสการท่องเที่ยวให้กับจังหวัดอื่นๆ ไปด้วย 'ยุทธศักดิ์' เผย เตือน จนท. เข้มความปลอดภัยแล้ว พล.อ.ยุทธศักดิ์ ศศิประภา รองนายกรัฐมนตรี กล่าวก่อนเดินทางประชุมร่วมกับหน่วยงานความมั่นคง เพื่อติดตามสถานการณ์เหตุคาร์บอมบ์ ว่ าในช่วงที่ผ่านมา มีการแจ้งเตือนให้เจ้าหน้าที่ เข้มงวดในการตรวจค้น และรักษาความปลอดภัยแล้ว เนื่องจากช่วงสิ้นสุดเดือนมีนาคม ในช่วงเริ่มต้นเดือนเมษายน ของทุกปี จะเกิดเหตุการณ์ในลักษณะเช่นนี้ เบื้องต้น ได้กำชับเจ้าหน้าที่รักษาความปลอดภัยตรวจค้นสถานที่สาธารณะ แหล่งชุมนุมของประชาชนแล้ว เชื่อว่าเหตุที่เกิด น่าจะเชื่อมโยงกัน ทั้งนี้เห็นว่า ยังไม่ใช่การก่อการร้าย นอกจากนี้ พล.อ.ยุทธศักดิ์ กล่าวโดยเชื่อว่า กลุ่มผู้ก่อความไม่สงบ น่าจะตอบโต้เจ้าหน้าที่ ที่ปราบปรามจับกุมอย่างหนัก แต่การกระทำเช่นนี้ ถือว่าไม่มีมนุษยธรรม ที่โจมตีประชาชนผู้บริสุทธิ์ ทราบที่มารถคาร์บอมบ์ รร.ลี การ์เด้นส์ แล้วความคืบหน้าการตรวจสอบรถเก่งที่ถูกใช้เป็นระเบิดคาร์บอมบ์ที่โรงแรมและห้างสรรพสินค้าลี การ์เด้นส์ พลาซ่า ล่าสุด เจ้าหน้าที่ทราบที่มาของรถคันดังกล่าวแล้ว โดยเป็นรถยนต์ยี่ห้อฮอนด้า ซีวิค สีดำ ทะเบียน กค 6734 พัทลุง ของ นายธนสร เกื้อสุข อดีต ปลัด อบต.เชิงคีรี อ.ศรีสาคร จ.นราธิวาส ซึ่งถูกคนร้ายลอบยิงเสียชีวิต และชิงรถ เหตุเกิดเมื่อวันที่ 23 ตุลาคม 54 และล่าสุดศูนย์วิทยุ สภ.หาดใหญ่ วิทยุประสานกำลังเจ้าหน้าที่ทุกฝ่าย ให้ตรวจสอบและตรวจค้นรถต้องสงสัยอีก 4 คัน อย่างละเอียด ประกอบด้วย รถกระบะอีซูซุสีฟ้า รถกระบะอีซูซุสีบรอนซ์ กระบะโตโยต้า ไฮลักซ์ ไทเกอร์ สีขาว และรถยนต์ฮอนด้า ซีวิค สีดำ ซึ่งเป็นรถต้องสงสัยว่าอาจจะเข้ามาก่อเหตุในพื้นที่ อ.หาดใหญ่ จนท.เคลียร์พื้นที่รร.ลี การ์เด้นส์ แล้ว 3 ชั้นความคืบหน้าการเข้าเคลียร์พื้นที่บริเวณชั้นใต้ดินของโรงแรมลี การ์เด้นส์ พลาซ่า ซึ่งเป็นบริเวณที่เกิดระเบิดคาร์บอมบ์ ขณะนี้เจ้าหน้าที่ชุดเก็บกู้วัตถุระเบิด หรือ อีโอดี สามารถเข้าเคลียร์พื้นที่ได้เพียง3 ชั้น คือ ชั้น บี1, บี2 และบี3 เท่านั้น ยังเหลือชั้นบี4 และบี5 ซึ่งอยู่ใต้สุด ยังไม่สามารถลงไปเคลียร์พื้นที่ได้ เนื่องจากบริเวณชั้นใต้ดินยังมีกลุ่มควันพิษ และไอความร้อน รวมทั้งสภาพอากาศที่มืด และมีซากรถยนต์ที่ถูกไฟไหม้เป็นจำนวนมาก อย่างไรก็ตาม จากการเข้าเคลียร์พื้นที่จุดที่วางคาร์บอมบริเวณชั้น บี3 เจ้าหน้าที่สามารถเก็บวัตถุพยานซึ่งเป็นชิ้นส่วนสะเก็ดระเบิดได้บางส่วนแล้ว แต่มีการยืนยันว่าบริเวณชั้นใต้ดินไม่มีคาร์บอมบ์ลูกที่ 2 ตามที่ได้มีการตั้งข้อสงสัยแต่อย่างใด ทางด้านประชาชนซึ่งเป็นเจ้าของรถทั้งรถยนต์ และรถจักรยานยนต์ที่จอดอยู่ในชั้นใต้ดินของโรงแรมลี การ์เด้นส์ พลาซ่า ยังคงทยอยนำเอกสารการครอบครองรถมาแสดงต่อเจ้าหน้าที่ ซึ่งขณะนี้มีกว่า 200 คันแล้ว "ธนวรรธน์"ชี้ระเบิดหาดใหญ่กระทบท่องเที่ยว1ด.พันล้าน,3ด.หมื่นล้านนายธนวรรธน์ พลวิชัย ผู้อำนวยการศูนย์พยากรณ์เศรษฐกิจและธุรกิจ มหาวิทยาลัยหอการค้าไทย กล่าวกับสำนักข่าว ไอ.เอ็น.เอ็น. ถึงผลกระทบจากเหตุการณ์ระเบิดที่โรงแรมและห้างสรรพสินค้า ลี การ์เด้นส์ พลาซ่า อ.หาดใหญ่ จ.สงขลา และเหตุระเบิดในพื้นที่ จ.ยะลา ว่า เหตุการณ์ดังกล่าว จะทำให้ภาคการท่องเที่ยวได้รับผลกระทบอย่างน้อย 1-3 เดือน โดยหากเป็นผลกระทบระยะสั้น 1 เดือน จะมีมูลค่าความเสียหายประมาณ 1,000 - 2,000 ล้านบาท แต่หากเหตุการณ์ยืดเยื้อบานปลายออกไปถึง 3 เดือน ก็จะมีมูลค่าความเสียหายประมาณ 5,000 - 10,000 ล้านบาท แต่อย่างไรก็ตาม เชื่อว่าภาครวมของการท่องเที่ยวทั้งประเทศ จะยังไม่ได้รับผลกระทบ เพราะเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นไม่ใช้การก่อการร้ายระหว่างประเทศ แต่เป็นเหตุการณ์ความไม่สงบของ 3 จังหวัดชายแดนภาคใต้ ทั้งนี้ ผู้อำนวยการศูนย์พยากรณ์เศรษฐกิจและธุรกิจ มหาวิทยาลัยหอการค้าไทย กล่าวด้วยว่า ดังนั้นหน้าที่ของรัฐบาลจากนี้ไป จะต้องพยายามไม่ให้เกิดเหตุการณ์ความไม่สงบเกิดขึ้น พร้อมกับเร่งฟื้นความเชื่อมั่นให้กับคืนมา โดยจะต้องมีการโรดโชว์ไปต่างประเทศ เพื่อทำความเข้าใจกับนักท่องเที่ยวต่อเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น เพื่อดึงดูดให้นักท่องเที่ยวเดินทางเข้ามาเที่ยวในประเทศไทย ยุทธศักดิ์เผยกลุ่มหัวรุนแรงคาร์บอมบ์ใต้พลเอกยุทธศักดิ์ ศศิประภา รองนายกรัฐมนตรี เปิดเผย ภายหลังการประชุมหน่วยงานความมั่นคงว่า สาเหตุการก่อความไม่สงบในพื้นที่ภาคใต้มาจากกลุ่มหัวรุนแรง แต่เบื้องต้นยังไม่ขอระบุว่า เป็นกลุ่มใดเชื่อว่าภายใน 1-2 วันนี้ จะมีความชัดเจน มาตรการเบื้องต้น คือ การเพิ่มกำลังรักษาความปลอดภัยในจุดที่ล่อแหลม ใน จ.นราธิวาส จ.ปัตตานี และ จ.สงขลา โดยทำงานบูรณาการร่วมกันระหว่าง ตำรวจ ทหาร และ ส.อบต. ขณะเดียวกัน พบมีรถต้องสงสัยที่จะใช้ก่อเหตุจอดอยู่บนชั้น 3B ของโรงแรมลีการ์เด้นส์ ซึ่งเจ้าหน้าที่อยู่ระหว่างตรวจสอบ อย่างไรก็ตาม คาดว่า กลุ่มผู้ก่อเหตุในเหตุการณ์ทั้ง 2 จุด เป็นกลุ่มเดียวกัน แต่ไม่ได้เป็นการรวมตัวกันของกลุ่มหัวรุนแรงในพื้นที่ ซึ่งเป็นกลุ่มที่อยู่ในประเทศ ก่อการโดยนำวัตถุระเบิดมาประกอบภายในรถยนต์ ซึ่งเจ้าหน้าที่ทราบชื่อ ในการประกอบวัตถุระเบิด แต่อยู่ระหว่างการติดตามตัว ทั้งนี้ เชื่อว่าสถานการณ์ในพื้นที่จะดีขึ้นตามลำดับ ภายใน 3 เดือน โดยไม่ต้องมีการยกระดับไปถึงขั้นเจรจากับกลุ่มต่างๆ ที่เคลื่อนไหวในพื้นที่ 2 ผู้เสียชีวิต ชายมาเลย์ - หญิงไทย เป็นสามีภรรยากัน ที่ห้องประชุมชั้นที่ 3 ของสถานีตำรวจภูธรหาดใหญ่ จ.สงขลา พ.ต.ท.เอกณรงค์ สวัสดิกานนท์ รอง ผกก.สส.สภ.หาดใหญ่ ได้เชิญญาติผู้เสียชีวิตจากเหตุการณ์ระเบิดคาร์บอมบ์ ที่ โรงแรมลีการ์เด้นส์ พลาซ่า มาทำการสอบปากคำไว้เป็นหลักฐาน เพื่อดำเนินการในส่วนของการให้การช่วยเหลือ โดยพบว่าผู้เสียชีวิตสองรายคือ นางยุพิน พุทธิมา อายุ38 ปี นาย LOW TSIAN HOCK ชาวมาเลเซียเป็นสามีภรรยากัน และ นางสาวสุภาภรณ์ จันชัยภูมิ อายุ 33 ปี ซึ่งเป็นญาติของ นางยุพิน ได้เดินทางมาติดต่อนำหลักฐานมารับศพพร้อมกับเตรียมรับศพทั้งสองคน นำไปตั้งบำเพ็ญกุศล ที่ บ้านไทยจังโหลน เขตเทศบาลตำบลสำนักขาม อ.สะเดา ขณะที่ในส่วนของทางพนักงานสอบสวน สภ.หาดใหญ่ ได้ทำการสอบปากคำพยานในที่เกิดเหตุและผู้เสียหายไปแล้ว จำนวน 10 กว่าราย เพื่อนำมาประกอบสำนวนคดี นักท่องเที่ยวมาเลย์แห่ขอเอกสารกลับปท.นักท่องเที่ยวชาวมาเลเซียที่เข้าพักภายในโรงแรมลีการ์เด้นส์ พลาซ่า ในวันเกิดเหตุระเบิดคาร์บอมบ์และไฟไหม้ ทยอยเข้าแจ้งความกับพนักงานสอบสวน สภ.หาดใหญ่ จ.สงขลา เพื่อลงบันทึกประจำวันไว้เป็นหลักฐาน และนำไปยื่นแสดงต่อสถานกงสุลมาเลเซียประจำ จ.สงขลา เพื่อขอหนังสือเดินทางชั่วคราวใช้ในการเดินทางกลับประเทศ เนื่องจากทั้งหนังสือเดินทาง และเอกสารต่างๆ ยังตกค้างอยู่ในห้องพักของโรงแรม ยังไม่สามารถเข้าไปเอาได้ เนื่องจากเจ้าหน้าที่ยังเคลียร์พื้นที่ไม่เสร็จ และทางเทศบาลมีการประกาศห้ามใช้โรงแรมชั่วคราว และบางรายรถยนต์ยังติดอยู่บริเวณชั้นใต้ดิน และนักท่องเที่ยวส่วนใหญ่มีกำหนดที่ต้องเดินทางกลับประเทศในวันนี้ หลังสิ้นสุดโปรแกรมการท่องเที่ยวในช่วงสุดสัปดาห์ ประกอบกับเกิดเหตุลอบวางระเบิดทำให้บางส่วนเกิดความตื่นกลัว จนท.ตรวจคนเข้าเมืองจับ2แม่ลูกชาวไลบีเรียหลังเกิดเหตุลอบวางระเบิดคาร์บอมบ์ในโรงแรมลีการ์เด้นส์ พลาซ่า เจ้าหน้าที่ทุกหน่วยเพิ่มความเข้มงวดในการตรวจสอบบุคคลต้องสงสัยที่เดินทางเข้ามาในเมืองหาดใหญ่ โดยล่าสุดเจ้าหน้าที่ตรวจคนเข้าเมือง 6 ได้ควบคุมตัว นาง johnson joyee mamic สัญชาติ ไลบีเรีย และ ด.ช.wilsom adel อายุ 14 ปี สัญชาติ เซียร์รา ลีโอน ซึ่งเป็นลูกชาย มาทำการสอบสวน หลังพบพิรุธขณะรอขึ้นรถโดยสารที่สถานีขนส่งหาดใหญ่ พบว่า นาง johnson มีหนังสือเดินเข้ามาในเมืองไทยถูกต้อง ด.ช.wilsom adel หลบหนีเข้าเมือง เจ้าหน้าที่จึงควบคุมตัวพร้อมแจ้งข้อหา ด.ช.wilson adel ในข้อหาเป็นคนต่างด้าว(สัญชาติเซียร์ร่า ลีโอน) เข้ามาในราชอาณาจักร ควบคุมตัวดำเนินคดี 'ยงยุทธ'เยี่ยมผู้ได้รับผลกระทบเหตุบึ้มยะลาที่บริเวณถนนรวมมิตร เขตเทศบาลนครยะลา นายยงยุทธ วิชัยดิษฐ รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทย พร้อมด้วยคณะ ได้เดินทางลงพื้นที่ เพื่อเยี่ยมให้กำลังใจผู้ประกอบการและประชาชน ที่ได้รับผลกระทบจากเหตุการณ์ความไม่สงบ ถูกคนร้ายลอบวางระเบิดคาร์บอมบ์ เมื่อวานนี้ หลังจากตรวจดูที่เกิดเหตุแล้ว รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทย ได้เดินทางไปที่วัดพุทธภูมิ พระอารามหลวง เพื่อมอบเงินช่วยเหลือเยียวยา ให้กับครอบครัวของผู้เสียชีวิตรายละ 100,000 บาท หลังจากนั้น ได้เดินทางไปเยี่ยมผู้ที่ได้รับบาดเจ็บ ที่ โรงพยาบาลยะลา และมอบเงินช่วยเหลือให้กับผู้บาดเจ็บที่สาหัส รายละ 50,000 บาท และบาดเจ็บไม่มากรายละ 30,000 บาท รวมเป็นเงินที่ต้องจ่ายในวันนี้ ถึง 2,910,000 บาท มทภ.4ตรวจพื้นที่ระเบิด รร.ลีการ์เด้นส์พล.ท.อุดมชัย ธรรมสาโรรัชต์ แม่ทัพภาค 4 เดินทางไปตรวจสอบที่เกิดเหตุ และรับทราบสถานการณ์ กรณีเหตุระเบิดโรงแรมลีการ์เด้นส์ พลาซ่า พร้อมกับเผยว่า ทุกฝ่ายจะต้องหามาตรการป้องกันอุดช่องโหว่ เพื่อไม่ให้ก่อเหตุซ้ำหากจำเป็นต้องหาเครื่องมือมาเพิ่มเติม เชื่อว่ารัฐบาลก็น่าจะสนับสนุน เพื่อให้เกิดความปลอดภัยมากยิ่งขึ้น แต่ขณะนี้จำเป็นที่จะต้องเร่งฟื้นฟูเมืองให้กลับมามีสภาพเดิมโดยเร็วสุด โดยเฉพาะสภาพจิตใจของชาวหาดใหญ่ รวมถึงในพื้นที่ จ.ยะลา ซึ่งมีสภาพไม่แตกต่างกัน ส่วนระเบิดที่คนร้ายใช้นั้นทางเจ้าหน้าที่ชุดเก็บกู้วัตถุระเบิด กำลังอยู่ระหว่างการรวบรวมพยานหลักฐานว่า เป็นระเบิดชนิดใด และจุดชนวนด้วยอะไร ทางด้าน นายวันชัย ลีละศิธร เจ้าของโรงแรมลีการ์เด้นส์ พลาซ่า เปิดเผยว่า ขณะนี้ยังไม่สามารถประเมินความเสียหายได้ เนื่องจากต้องรอให้เจ้าหน้าที่เคลียร์พื้นที่เสร็จเรียบร้อยก่อน แต่ยืนยันว่าในโซนที่เกิดระเบิดไม่มีการใช้ถังแก๊สตามที่มีข่าวปรากฏออกมาแต่อย่างใด ทั้งนี้ เหตุการณ์ที่เกิดขึ้นตนพร้อมที่จะลุกขึ้นสู้ต่อไป และเร่งปรับปรุงให้กลับมาเปิดบริการโดยเร็วที่สุด หลังสถานการณ์3คลี่คลาย อย่างไรก็ตาม ล่าสุดในวันนี้ ทางเทศบาลนครหาดใหญ่ได้นำประกาศมาติดห้ามใช้อาคารโรงแรมลีการ์เด้นส์ พล่าซ่า ชั่วคราวจนกว่าการเคลียร์พื้นที่จะแล้วเสร็จ และทางวิศวกรจะเข้าตรวจสอบโครงสร้างอาการที่ถูกไฟไหม้ให