พณ.ชี้ขึ้นค่าแรง300บ.กระทบธุรกิจSME-ส่งออกโต15%

พณ.ชี้ขึ้นค่าแรง300บ.กระทบธุรกิจSME-ส่งออกโต15%

พณ.ชี้ขึ้นค่าแรง300บ.กระทบธุรกิจSME-ส่งออกโต15%
แชร์เรื่องนี้
แชร์เรื่องนี้LineTwitterFacebook

นางนันทวัลย์ ศกุนตนาค อธิบดีกรมส่งเสริมการส่งออก กระทรวงพาณิชย์ กล่าวในการสัมมนา กระแสโลกพันธมิตร จุดยืนและทิศทางส่งออก ที่โรงแรมฮอลิเดย์ อินน์ หัวหิน ว่า การส่งออกของประเทศในปีนี้ มั่นใจจะสามารถขยายตัวได้ร้อยละ 15 หรือคิดเป็นมูลค่า 263,149 ล้านเหรียญสหรัฐ ซึ่งในช่วงไตรมาสแรก การส่งออกจะยังคงขยายตัวอยู่ในระดับต่ำ เพราะได้รับผลกระทบจากปัญหาน้ำท่วม ทำให้ยังไม่สามารถผลิตได้ แต่ในช่วงไตรมาสที่ 2 มั่นใจว่า การส่งออกจะมีแนวโน้มที่ดีขึ้น และกลับมาขยายตัวได้ในระดับปกติ หลังจากภาคอุตสาหกรรมสามารถดำเนินการผลิตได้อย่างเต็มที่ในช่วงไตรมาสที่ 3 และ 4 ของปี ในขณะที่ปัจจัยเสี่ยงจากเศรษฐกิจโลกในสหภาพยุโรป ยังคงต้องจับตาอย่างใกล้ชิด รวมทั้งความผันผวนของราคาน้ำมันซึ่ง ถือเป็นตัวแปรสำคัญของการส่งออกนอกจากนี้ อธิบดีกรมส่งเสริมการส่งออก กระทรวงพาณิชย์ เปิดเผยว่า การปรับอัตราค่าจ้างขั้นต่ำ 300 บาทต่อวัน ซึ่งมีผลตั้งแต่วันนี้เป็นวันแรกนั้น ยอมรับว่าส่งผลกระทบต่อต้นทุนของผู้ประกอบการขนาดกลางและขนาดย่อม หรือ SME อย่างไม่สามารถหลีกเลี่ยงได้ ภาครัฐโดยเฉพาะทางกรม ทำได้แค่เพียงหาแนวทางในการลดต้นทุนในส่วนอื่นๆ ให้ และหาตลาดรองรับ ทำให้การกระจายสินค้าทำได้ดีขึ้น และการวางแผนในการให้คำปรึกษาการประกอบธุรกิจให้มีศักยภาพมากยิ่งขึ้น ด้วยการเปิดศูนย์บ่มเพาะให้คำปรึกษากับผู้ที่ประกอบธุรกิจ SME เป็นการเฉพาะ ซึ่งดำเนินการมาได้ระยะหนึ่งแล้ว และการลดต้นทุนด้วยการสนับสนุนให้มีการค้าผ่านทางเว็บไซต์ Thaitrade.com ให้มากขึ้น จากปัจจุบันมีร้านค้าบนเว็บไซต์กว่า 3,190 ร้านค้า อธิบดีกรมส่งเสริมการส่งออก กระทรวงพาณิชย์ ยังเปิดเผยว่า นโยบายทำให้อัตราแลกเปลี่ยนอ่อนค่าลง มองในแง่ของผู้ส่งออก บางสินค้าถือว่าส่งผลดี เพราะจะทำให้การคำนวณกลับมาในรูปของเงินบาทมีมูลค่ามากยิ่งขึ้น แต่อย่างไรก็ตาม เมื่อมองในภาพรวมแล้ว อัตราแลกเปลี่ยนที่อ่อนค่า จะทำให้ต้นทุนการนำเข้าสินค้า โดยเฉพาะน้ำมันเชื้อเพลิง สูงขึ้น ในสภาวะที่เศรษฐกิจของประเทศยังต้องการมาตรการกระตุ้น เพื่อทำให้การฟื้นตัวทำได้รวดเร็ว หลังจากประสบปัญหาน้ำท่วมใหญ่ ในช่วงปลายปี 2554 ที่ผ่านมา รัฐบาลจะต้องดำเนินการอย่างรอบคอบ เพื่อให้เกิดประโยชน์ที่สุด ซึ่งขณะนี้ ภาคอุตสาหกรรมบางชนิด ยังไม่สามารถดำเนินการผลิตได้อย่างเต็มที่ โดยเฉพาะอุตสาหกรรมอิเล็กทรอนิกส์ 
แชร์เรื่องนี้
แชร์เรื่องนี้LineTwitterFacebook