สธ.ชี้ต้องใช้เวลาสรุปยาซูโดฯหายนวมินทร์1

นายแพทย์สมชัย ภิญโญพรพาณิชย์ อธิบดีกรมสนับสนุนบริการสุขภาพ กระทรวงสาธารณสุข เปิดเผยภายหลังนำเจ้าหน้าที่กรมสนับสนุนบริการสุขภาพ สำนักคณะกรรมการอาหารและยา หรือ อย. และกรมสอบสวนคดีพิเศษ หรือ ดีเอสไอ เข้าตรวจสอบหาข้อเท็จจริง กรณีการสั่งซื้อยาแก้หวัด ที่มีส่วนผสมของซูโดอีเฟดรีน จำนวนกว่า 9 แสนเม็ด ของโรงพยาบาลนวมินทร์ 1 ว่า จากการเข้าตรวจสอบตั้งแต่ช่วงเช้าที่ผ่านมาจนถึงขณะนี้นั้น ยังไม่สามารถสรุปข้อเท็จจริงในเรื่องดังกล่าวได้ เนื่องจาก ต้องใช้เวลาในการรวบรวมพยานหลักฐาน พร้อมกับ เช็กยอดการสั่งซื้อ และการเบิกจ่ายยาของโรงพยาบาลดังกล่าวก่อน โดยคาดว่า จะต้องใช้เวลาในการตรวจสอบตลอดทั้งวัน และจะสามารถสรุปผลได้ในวันพรุ่งนี้ทั้งนี้ การเข้าตรวจสอบดังกล่าว สืบเนื่องมาจาก บริษัทจัดจำหน่ายยาจำนวน 4 บริษัท ประกอบด้วย บริษัทโอสถอินเตอร์ โพลีฟาร์ม วีแอนด์วี และ บีเอ็มฟาร์มาซี  ได้มีการรายงาน พร้อมยืนยันยอดการสั่งซื้อยาแก้หวัด ที่มีส่วนผสมของซูโดอีเฟดรีน ของโรงพยาบาลนวมินทร์ 1 ไปทาง  อย. ว่า โรงพยาบาลดังกล่าวมีการสั่งซื้อยา รวมทั้งสิ้น 922,500 เม็ด ซึ่งเป็นยอดที่สูง และเป็นไปได้ว่า จะมีการเบิกยาเกินจริง ทางเจ้าหน้าที่ จึงได้เข้าตรวจสอบ พร้อมให้ทางโรงพยาบาลนำเอกสารต่างๆ มาชี้แจง ขณะที่ในส่วนของโรงพยาบาลนวมินทร์ 9 นั้น จากการตรวจสอบแล้ว ก็ยืนยันได้ว่า ไม่พบความผิดปกติในการสั่งซื้อยาแต่อย่างใด ดีเอสไอร่วมสอบร.พ.นวมินทร์9หาเบาะแสยาซูโดฯหาย นายทวีวัฒน์ สุรสิทธิ์ รักษาการพนักงานสอบสวนคดีพิเศษ ฝ่ายชำนาญการพิเศษ กรมสอบสวนคดีพิเศษ หรือ ดีเอสไอ ปิดเผยถึงการลงพื้นที่ตรวจสอบ กรณียาแก้หวัดที่มีส่วนผสมซูโดอีเฟดดีน ของโรงพยาบาลนวมินทร์ 9 เป็นครั้งที่ 2 ในวันนี้ ว่า จะเป็นการเข้าตรวจสอบตามคำร้องขอของ กรมสนับสนุนบริการสุขภาพ กระทรวงสาธารณสุข ที่ต้องการให้พนักงานสอบสวนดีเอสไอ ซึ่งเป็นผู้รับผิดชอบในคดีดังกล่าว มาร่วมตรวจสอบในส่วนของข้อมูลสต๊อกยาแก้หวัดที่มีส่วนผสมซูโดอีเฟดดีน ในโรงพยาบาลนวมินทร์ 9โดยทางพนักงานสอบสวนดีเอสไอ ก็เห็นว่า การเข้าตรวจสอบในครั้งนี้นั้น น่าจะได้ข้อมูลที่เป็นประโยชน์ในทางคดี จึงเดินทางมาเข้าร่วมตรวจสอบในครั้งนี้ด้วย DSIพบทุจริตเบิกจ่ายยาออกนอกระบบ3ประเภท นายธาริต เพ็งดิษฐ์ อธิบดีกรมสอบสวนคดีพิเศษ หรือ ดีเอสไอ พร้อมด้วย น.ส.สุภา ปิยะจิตติ รองปลัดกระทรวงการคลัง หัวหน้ากลุ่มภารกิจด้านรายจ่ายและหนี้สิน และเจ้าหน้าที่กรมบัญชีกลาง ร่วมกันแถลงข่าวในกรณีการตรวจสอบการทุจริตเบิกจ่ายยาออกจากระบบสาธารณสุข ซึ่งจากการตรวจสอบพบทำผิดในระบบสวัสดิการรักษาพยาบาลข้าราชการ และครอบครัว 3 ประเภท คือ การสวมสิทธิ์ โดยมีการแอบอ้างการใช้สิทธิ์ของข้าราชการ การยิงยา คือ เจ้าหน้าที่สั่งจ่ายยาที่ไม่เหมาะสมและไม่จำเป็นต่อผู้ป่วย หรือมีการจ่ายยาในลักษณะสิ้นเปลืองโดยไม่จำเป็น เน้นการจ่ายยานอกบัญชีหลักที่มีราคาแพง โดยมีผลประโยชน์ทับซ้อนกับบริษัทผู้ผลิตยา หรือ ตัวแทนจำหน่ายยา การช็อปปิ้งยา คือ ผู้มีสิทธิ์รักษาพยาบาลมาตระเวนเข้ารับการรักษาและเบิกยาตามโรงพยาบาลหลายแห่ง เพื่อนำไปจำหน่ายต่อ โดยพบว่ามีความเชื่อมโยงระหว่างผู้ป่วย บุคลากรทางการแพทย์ ร้านขายยา บริษัทยาด้าน นายธาริต เปิดเผยอีกว่า เบื้องต้นได้ส่งสำนวนการสอบสวนเกี่ยวกับการทุจริตยิงยา ที่พบว่ามีแพทย์ภายในโรงพยาบาลย่านปริมณฑล เข้าไปมีส่วนเกี่ยวข้อง ซึ่งการสอบสวนของสำนักคณะกรรมการการปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ หากพบว่าข้าราชการที่ใช้สิทธิ์การรักษาพยาบาล กระทำผิดจะดำเนินการเรียกเงินคืน ดำเนินคดีทางอาญาและวินัย และหากพบการกระทำผิดของคนในครอบครัว ก็จะดำเนินการเรียกเงินคืน ดำเนินคดีทางอาญา และถอนสิทธิ์การรักษาพยาบาล สอบ ร.พ.นวมินทร9 แจ้งยอดสั่งซื้อยาซูโด ผิดปกติ นายแพทย์สุขุม กาญจนพิมาย รองอธิบดีกรมสนับสนุนบริการสุขภาพ กระทรวงสาธารณสุข พร้อมด้วย นายทวีวัฒน์ สุรสิทธิ์ รักษาการพนักงานสอบสวนคดีพิเศษ ฝ่ายชำนาญการพิเศษ กรมสอบสวนคดีพิเศษ หรือ ดีเอสไอ และเจ้าหน้าที่เกี่ยวข้อง ได้เดินทางเข้าตรวจสอบข้อมูลสต๊อกยาแก้หวัด ที่มีส่วนผสมของซูโดอีเฟดรีน ที่โรงพยาบาลนวมินทร์ 9 ซึ่งเป็นโรงพยาบาลเอกชน ที่ตั้งอยู่ในเขตมีนบุรี ก่อนจะนำทีมเจ้าหน้าที่ทั้งหมด เข้าตรวจสอบโรงพยาบาลนวมินทร์ 1 ซึ่งเป็นโรงพยาบาลในเครือเดียวกันด้วยโดยการเข้าตรวจสอบในครั้งนี้นั้น ถือเป็นการเข้าตรวจสอบเป็นครั้งที่ 3 ภายหลังจาก สำนักคณะกรรมการอาหารและยา หรือ อย. ได้ตรวจพบความผิดปกติ ในการแจ้งยอดการสั่งซื้อยาแก้หวัดที่มีส่วนผสมของซูโดอีกเฟดรีน ระหว่าง บริษัทโอสถอินเตอร์แลบบอราทอรีส์ จำกัด และ โรงพยาบาลนวมินทร์ 9 ไม่ตรงกัน โดยทางบริษัทตัวแทนจำหน่าย มีการแจ้งยอด สั่งซื้อยาดังกล่าวของโรงพยาบาลนวมินทร์ 9 จำนวน 650,000 เม็ด  แต่โรงพยาบาลนั้นได้มีการแจ้งยอดสั่งซื้อไปเพียง 350,000 เม็ด โดยระบุว่า เป็นการแจ้งยอดในส่วนเฉพาะของโรงพยาบาลนวมินทร์ 9 เท่านั้น อธิบดีกรมสนับสนุนฯชี้สรุปยาซูโดหายจาก รพ.นวมินทร์1ต้องใช้เวลา นายแพทย์สมชัย ภิญโญพรพาณิชย์ อธิบดีกรมสนับสนุนบริการสุขภาพ กระทรวงสาธารณสุข เปิดเผยภายหลังนำเจ้าหน้าที่กรมสนับสนุนบริการสุขภาพ สำนักคณะกรรมการอาหารและยา หรือ อย. และกรมสอบสวนคดีพิเศษ หรือ ดีเอสไอ เข้าตรวจสอบหาข้อเท็จจริง กรณีการสั่งซื้อยาแก้หวัด ที่มีส่วนผสมของซูโดอีเฟดรีน จำนวนกว่า 9 แสนเม็ด ของโรงพยาบาลนวมินทร์ 1 ว่า จากการเข้าตรวจสอบตั้งแต่ช่วงเช้าที่ผ่านมาจนถึงขณะนี้นั้น ยังไม่สามารถสรุปข้อเท็จจริงในเรื่องดังกล่าวได้ เนื่องจาก ต้องใช้เวลาในการรวบรวมพยานหลักฐาน พร้อมกับ เช็กยอดการสั่งซื้อ และการเบิกจ่ายยาของโรงพยาบาลดังกล่าวก่อน โดยคาดว่า จะต้องใช้เวลาในการตรวจสอบตลอดทั้งวัน และจะสามารถสรุปผลได้ในวันพรุ่งนี้ทั้งนี้ การเข้าตรวจสอบดังกล่าว สืบเนื่องมาจาก บริษัทจัดจำหน่ายยาจำนวน 4 บริษัท ประกอบด้วย บริษัทโอสถอินเตอร์ โพลีฟาร์ม วีแอนด์วี และ บีเอ็มฟาร์มาซี  ได้มีการรายงาน พร้อมยืนยันยอดการสั่งซื้อยาแก้หวัด ที่มีส่วนผสมของซูโดอีเฟดรีน ของโรงพยาบาลนวมินทร์ 1 ไปทาง  อย. ว่า โรงพยาบาลดังกล่าวมีการสั่งซื้อยา รวมทั้งสิ้น 922,500 เม็ด ซึ่งเป็นยอดที่สูง และเป็นไปได้ว่า จะมีการเบิกยาเกินจริง ทางเจ้าหน้าที่ จึงได้เข้าตรวจสอบ พร้อมให้ทางโรงพยาบาลนำเอกสารต่างๆ มาชี้แจง ขณะที่ในส่วนของโรงพยาบาลนวมินทร์ 9 นั้น จากการตรวจสอบแล้ว ก็ยืนยันได้ว่า ไม่พบความผิดปกติในการสั่งซื้อยาแต่อย่างใด สธ. สอบ ร.พ. 4 แห่ง กทม. เบิก - จ่าย "ซูโดฯ" ผิดปกติ นายแพทย์สมชัย ภิญโญพรพาณิชย์ อธิบดีกรมสนับสนุนบริการสุขภาพ กระทรวงสาธารณสุข เปิดเผยถึงกรณีที่ นายพสิษฐ์ ศักดาณรงค์ ที่ปรึกษารัฐมนตรีว่าการกระทรวงสาธารณสุข ในฐานะประธานคณะทำงานป้องกันปราบปรามฟื้นฟูและเยียวยาด้านยาเสพติด กระทรวงสาธารณสุข นำข้อมูลเรื่องการตรวจพบความผิดปกติของการเบิก-จ่าย ยาแก้หวัด ที่มีส่วนผสมของซูโดอีเฟดรีน ของโรงพยาบาลในพื้นที่กรุงเทพฯ และปริมณฑล จำนวน 4 แห่ง ออกมาเปิดเผยต่อสื่อมวลชนว่า ในเบื้องต้นได้มีการสั่งการให้เจ้าหน้าที่ ที่เกี่ยวข้องไปดำเนินการตรวจสอบแล้ว และในวันนี้ก็ได้มีการส่งข้อมูลหลักฐานเพิ่มเติมไปให้ทางพนักงานสอบสวนดีเอสไอ เพื่อนำไปทำการสืบสวนขยายผล หาข้อเท็จจริงในเรื่องของทางเข้า - ออก ของยาชนิดดังกล่าว ของทั้ง 4 โรงพยาบาลแล้ว ซึ่งหากพบว่าเข้าข่ายความผิดทางอาญา พนักงานสอบสวนดีเอสไอ ก็จะเป็นผู้ดำเนินคดีกับผู้ที่มีส่วนร่วมในการกระทำผิดต่อไป DSIงัดกม.6ฉบับฟันคนเอี่ยวซูโดฯหายนายธาริต เพ็งดิษฐ์ อธิบดีกรมสอบสวนคดีพิเศษ (DSI) ประชุมร่วมกับผู้บริหารกระทรวงสาธารณสุข สำนักงานคณะกรรมการอาหารและยา (อย.) สำนักงานตำรวจแห่งชาติ สำนักงานคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามยาเสพติด (ป.ป.ส.) สำนักงานการป้องกันและปราบปรามการฟอกเงิน (ปปง.) สำนักงานพิสูจน์หลักฐาน สถาบันนิติวิทยาศาสตร์ และสำนักงานอัยการคดีพิเศษ เพื่อวางแนวทางการปฏิบัติงานร่วมกัน ในการสืบสวนสอบสวน กรณีการทุจริตในการเบิกจ่ายยาแก้หวัดที่มีส่วนผสมของซูโดอีเฟดรีน จากโรงพยาบาลของรัฐ และการจำหน่ายยาดังกล่าวโดยมิชอบของสถานจำหน่ายเอกชน เพื่อนำไปสกัดสารตั้งต้นผลิตยาเสพติด โดย นายธาริต กล่าวว่า ที่ประชุมได้มีมติให้นำกฎหมาย 6 ฉบับ เข้ามาดำเนินการเอาผิดกับผู้ที่มีส่วนเกี่ยวข้องกับการสูญหายของซูโดอีเฟดรีน ประกอบด้วย พ.ร.บ.ยา ปี 2510 พ.ร.บ.วัตถุที่ออกฤทธิ์ต่อจิตประสาท ประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 83 มาตรา 147 และมาตรา 149 พ.ร.บ.ยาเสพติดให้โทษ ปี 2522 พ.ร.บ.ป้องกันและปราบปรามการฟอกเงิน ปี 2542 และ พ.ร.บ.ในการปราบปรามผู้กระทำผิดเกี่ยวกับยาเสพติด ปี 2554 รวมไปถึงจะมีการแต่งตั้งชุดปฏิบัติการลงพื้นที่ตรวจสอบโรงพยาบาลรัฐและเอกชน ตามที่พบว่ามีข้อมูลความผิดปกติทั้งหมด โดยจะแบ่งงานกันทำอย่างชัดเจน และเน้นการบูรณาการร่วมกันของ 9 หน่วยงาน ซึ่งจะเริ่มลงพื้นที่ตรวจสอบตั้งแต่วันพรุ่งนี้ เป็นต้นไป