รอบด้านตลาดหุ้น - บล.บัวหลวง
สรุปภาพตลาด ตลาดหุ้นไทยปรับตัวขึ้นตามตลาดหุ้นในภูมิภาค หาก SET ปรับขึ้นเข้าใกล้แนวต้านเดิมที่เคยทำไว้ที่ 1214 จุด นักลงทุนควรเพิ่มความระมัดระวังในการลงทุน เนื่องจากเหตุผล 4 ข้อคือ 1.ความคาดหวังให้มีเม็ดเงินต่างประเทศหนุนดัชนีตลาดหุ้นไทยให้ขึ้นไปที่ซื้อขายที่มูลค่าสูงสุดที่ PER 14 เท่าหรือใกล้กับค่าเบี่ยงเบนมาตรฐานจากค่าเฉลี่ยระยะยาว 1 เท่าอาจเป็นสิ่งที่เกิดขึ้นได้ยาก มูลค่าของหุ้นที่เกี่ยวข้องการบริโภคในประเทศประเมินจากค่าพีอี (PER) เริ่มสูงกว่าค่าเฉลี่ยระยะยาว เช่นเดียวกับตลาดหุ้นไทยที่ซื้อขายที่มูลค่าสูงกว่าค่าเฉลี่ยระยะยาวที่ PER 13 เท่า (สูงกว่าค่าเฉลี่ยที่ 11.5 เท่าอยู่ 13%) 2.ความกังวลเกี่ยวกับภาวะเงินเฟ้อที่จะเพิ่มขึ้นสูงกว่าที่ ธปท.ตั้งเป้าหมายไว้ที่ 3.5% 3. การขึ้นเครื่องหมาย XD บริษัทจดทะเบียนของไทยโดยส่วนใหญ่จะขึ้นเครื่องหมาย XD ในเดือน มี.ค-เม.ย. ซึ่งหลักฐานบ่งชี้ว่านักลงทุนมักจะขายหุ้นหลังหมดฤดูการจ่ายเงินปันผล 4.ภาวะอ่อนค่าของค่าเงินบาทเมื่อเทียบกับค่าเงินดอลลาร์สหรัฐ จากเหตุผลทั้ง 4 ข้อจึงมีความเสี่ยงหากตลาดปรับตัวขึ้นต่อเนื่อง แนวทางการลงทุน: เราเน้นเลือกลงทุนหุ้นเป็นรายตัว หุ้นแนะนำซื้อได้แก่ KTB STA และ THAI หุ้นแนะนำขายได้แก่ ESSO TOP และ PF ธนรัตน์ อิศรกุล Tel. (662) 618-1334 ปัจจัยที่มีผลกระทบต่อตลาด ประชุมเฟดล่าสุดไม่ส่งสัญญาณกระตุ้นเศรษฐกิจสหรัฐเพิ่ม เจ้าหน้าที่ธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) มีความเห็นตรงกันในการประชุมครั้งล่าสุดว่า การฟื้นตัวของเศรษฐกิจสหรัฐแข็งแกร่งขึ้นปานกลาง แต่ยังคงมีความระมัดระวังเกี่ยวกับอัตราการปรับตัวดีขึ้นในตลาดแรงงาน รายงานการประชุมเมื่อวันที่ 13 มี.ค.ของคณะกรรมการกำหนดนโยบายของเฟดที่มีการเปิดเผยเมื่อวานนี้ แทบไม่ได้แสดงความกระตือรือร้นสำหรับการซื้อพันธบัตรเพิ่มใดๆในเร็วๆนี้หรือแผนใหม่อื่นๆในการหนุนเศรษฐกิจ นอกจากนี้ รายงานยังแสถงถึงการหารือครั้งใหม่ในกลุ่มเจ้าหน้าที่เฟดในประเด็นที่ว่า ยังมีภาวะซบเซาในเศรษฐกิจอย่างมากหรือไม่ที่จะทำให้เงินเฟ้อชะลอตัว ดูเหมือนว่ารายงานการประชุมดังกล่าวจะแสดงถึงการสนับสนุนที่ลดลงต่อการซื้อพันธบัตรรอบ 3 ของเฟดในเร็วๆนี้ ซึ่งขณะที่เจ้าหน้าที่เฟดพร้อมที่จะซื้อหรือขายสินทรัพย์"ตามความเหมาะสม เพื่อหนุนการฟื้นตัวของเศรษฐกิจที่แข็งแกร่งขึ้น" แต่รายงานไม่ได้แสดงถึงความกระตือรือร้นในวงกว้างที่จะดำเนินการดังกล่าวในเร็วๆนี้ โดย"สมาชิก 2 รายบ่งชี้ว่า แผนกระตุ้นเพ่มเติมอาจจะจำเป็น ถ้าเศรษฐกิจสูญเสียแรงผลักดัน หรือถ้าดูเหมือนว่าเงินเฟ้อยังคงต่ำกว่าอัตรา 2% ในระยะกลาง" รายงานระบุ (สำนักข่าวดาวน์โจนส์) บีโอไอล่อใจนักลงทุนรับเออีซี ต่างชาติถือหุ้นใหญ่ปลูกป่าขาย นางอรรชกา สีบุญเรือง เลขาธิการสำนักงานคณะกรรมการส่งเสริมการลงทุน (บีโอไอ) เปิดเผยในงานสัมมนาเรื่อง โอกาสและผลกระทบต่อการเข้าร่วมประชาคมเศรษฐกิจอาเซียน (เออีซี) ในภาพรวมและรายสาขา ว่า เพื่อรองรับการเปิดเสรีประชาคมเศรษฐกิจอาเซียน หรือเออีซีในปี 2558 ทำให้ในปีนี้ประเทศไทยจะมีการยื่นข้อเสนอเปิดเสรีในกลุ่มอุตสาหกรรมการทำป่าไม้จากป่าปลูก หลังจากที่ได้ชะลอการเปิดมาตั้งแต่ปี 2553 โดยอยู่ระหว่างการศึกษาว่า จะเปิดเสรีในพันธุ์ไม้ประเภทใดที่จะเป็นประโยชน์ต่อไทยมากที่สุด เบื้องต้นคาดว่าจะเป็นพันธุ์ไม้เศรษฐกิจ ซึ่งจะเปิดให้ต่างชาติเข้ามาลงทุนได้ในสัดส่วน 51% แต่จะมีเงื่อนไขการลงทุน เช่น แหล่งน้ำและพื้นที่การเข้าไปลงทุน เป็นต้น (หนังสือพิมพ์ไทยรัฐ) "เอ้กบอร์ด" ดิ้นแก้ไข่ไก่ล้นตลาด! นายยุคล ลิ้มแหลมทอง ที่ปรึกษา รมว.เกษตรและสหกรณ์ เปิดเผยภายหลังการประชุมคณะกรรมการนโยบายพัฒนาไก่ไข่และผลิตภัณฑ์ (เอ้กบอร์ด) ที่มีนายธีระ วงศ์สมุทร รมว.เกษตรฯ เป็นประธาน เมื่อวันที่ 3 เม.ย.ว่า ที่ประชุมได้พิจารณาหามาตรการแก้ปัญหาราคาไข่ไก่ที่กำลังตกต่ำ จากปริมาณไข่ไก่ที่ล้นตลาดประมาณวันละ 3 ล้านฟอง เนื่องจากขณะนี้มีปริมาณไข่ไก่ออกสู่ตลาดวันละ 31-32 ล้านฟอง มากกว่าปริมาณการบริโภควันละ 28-29ล้านฟอง ส่งผลให้ราคาไข่ไก่ลดลงมาอยู่ที่ฟองละ 2.10 บาท ต่ำกว่าต้นทุนการผลิตที่ฟองละ 2.60 บาท ซึ่งปริมาณไข่ไก่ที่เพิ่มมากขึ้นขณะนี้ เป็นผลจากการเปิดให้มีการนำเข้าพ่อแม่พันธุ์ไก่ไข่เสรีตั้งแต่ปี 53 (หนังสือพิมพ์ไทยรัฐ) น้ำมันแพงดันเงินเฟ้อพุ่งกระฉูด นายยรรยง พวงราช ปลัดกระทรวงพาณิชย์ เปิดเผยว่า ดัชนีราคาผู้บริโภคทั่วไปของประเทศ (เงินเฟ้อ) มี.ค.55 เท่ากับ 114.30 สูงขึ้น 3.45% เทียบกับ มี.ค.ปีก่อน ซึ่งเป็นอัตราสูงสุดในรอบปีนี้ เมื่อเทียบกับก.พ.ปีเดียวกันเงินเฟ้อสูงขึ้น 0.59% ส่งผลให้เงินเฟ้อ 3 เดือน (ม.ค.-มี.ค.55) สูงขึ้นแล้ว 3.39% เทียบกับช่วงเดียวกันปีก่อน โดยสาเหตุที่ทำให้เงินเฟ้อสูงขึ้นเป็นผลจากดัชนีหมวดอาหารและเครื่องดื่มสูงขึ้น 7.07% สินค้าสำคัญราคาแพงขึ้น เช่น ผักสดและผลไม้ เพิ่มขึ้น 10.41% เครื่องประกอบอาหาร 9.38% อาหารบริโภคในบ้าน 11.59% อาหารบริโภคนอกบ้าน 6.54% เนื้อสัตว์ เป็ดไก่และสัตว์น้ำ 3.75% ส่วนดัชนีหมวดไม่ใช่อาหารและเครื่องดื่มสูงขึ้น 1.23% เป็นผลมาจากราคาน้ำมันแพงขึ้น 2.63% (หนังสือพิมพ์บ้านเมือง) จีบธุรกิจภูธรเข้าตลาดหุ้น นายวรพล โสคติยานุรักษ์ เลขาธิการคณะกรรมการกำกับหลักทรัพย์และตลาดหลักทรัพย์ (ก.ล.ต.) เปิดเผยว่า ก.ล.ต.ได้ร่วมมือกับ 7 หน่วยงานที่เกี่ยวข้อง เช่น กระทรวงมหาดไทย ตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย (ตลท.) สภาอุตสาหกรรมแห่งประเทศไทย (สอท.) หอการค้าไทย ชมรมวาณิชธนกิจ และผู้สอบบัญชีที่เข้าร่วมโครงการ เปิดตัว "โครงการหุ้นใหม่ ความภูมิใจของจังหวัด" เพื่อสร้างความตื่นตัวเรื่องการลงทุน และทำให้ตลาดทุนเป็นแหล่งเงินทุนของภาคธุรกิจทั่วประเทศ พร้อมทั้งรองรับการเข้าสู่ประชาคมเศรษฐกิจอาเซียน (เออีซี) ในปี 58 โดย ก.ล.ต.และหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง จะคัดเลือกกิจการที่ดีและมีศักยภาพของแต่ละจังหวัดให้มาระดมทุน พร้อมทั้งจดทะเบียนใน ตลท. หรือตลาดเอ็ม เอ ไอ ตั้งเป้าหมายดึงบริษัทในต่างจังหวัดเข้าร่วมโครงการ และได้รับการอนุมัติให้เป็นบริษัทจดทะเบียนภายในปี 56 ไม่ต่ำกว่า 25 บริษัท (หนังสือพิมพ์เดลินิวส์) ชัยพร น้อมพิทักษ์เจริญ Tel. (662) 618-1330-1 รายงานวันนี้ หุ้น: INTUCH คำแนะนำ: ซื้อ ราคาเป้าหมาย (บาท): 78.50 เราคาดว่ากำไรสุทธิไตรมาส 1/55 แข็งแกร่ง เราคาดว่ากำไรหลักปี2555จะโตแข็งแกร่ง 26% รูปแบบสื่อใหม่ (Digital TV) จะหนุนการเติบโตในอนาคต เราปรับเพิ่มราคาเป้าหมายปี 2555 ขึ้น 23% นักวิเคราะห์: ประสิทธ์ สุจิรวรกุล Tel. (662) 618-1342 กลุ่ม: พัฒนาอสังหาริมทรัพย์ (ที่อยู่อาศัย) คำแนะนำ: เพิ่มน้ำหนักการลงทุน ราคาเป้าหมาย (บาท): - เราได้ปรับเพิ่มคำแนะนำสำหรับกลุ่มพัฒนาอสังหาริมทรัพย์(ที่อยู่อาศัย)จาก Neutral เป็นเพิ่มน้ำหนักการลงทุน ยอดจองซื้อ ไตรมาส 1/55 ของหุ้น8ตัวที่เราให้คำ แนะนำมากกว่าที่เราคาดไว้ 10-20% มีแนวโน้มในการปรับเพิ่มประมาณการกำไรสุทธิ ได้ประโยชน์โดยตรงจากนโยบายภาครัฐ นักวิเคราะห์: นฤมล เอกสมุทร Tel. (662) 618-1345 หุ้น: BAY คำแนะนำ: ซื้อ ราคาเป้าหมาย (บาท): 30.50 กำไรสุทธิไตรมาส 1/55 เติบโตแข็งแกร่ง พอร์ทสินเชื่อใหญ่ขึ้นจากการซื้อพอร์ทสินเชื่อลูกค้ารายย่อยจาก HSBC ส่วนต่างอัตราดอกเบี้ยจะลดลงในไตรมาส 1/55 การตั้งสำรองหนี้ที่กลับมาเป็นปกติจะหนุนการเติบโต นักวิเคราะห์: สุวัฒน์ บำรุงชาติอุดม Tel. (662) 618-1341 หมายเหตุ: รายงานดังกล่าวเป็นเพียงเนื้อหาโดยสรุป สามารถอ่านรายละเอียดเพิ่มเติมได้ในรายงานฉบับเต็ม Technical Analysis Security: KTB Position: ซื้อ เป้าหมาย : 18.5/18.8 Stop loss < 17.5 Reason: เป็นหุ้นที่น่าสนใจ เนื่องจากราคาหุ้นยังไม่ได้ปรับขึ้นมากนัก ปัจจุบันราคาหุ้นกลับขึ้นมายืนเหนือเส้นค่าเฉลี่ยระยะสั้น 10 และ 25 วันได้อีกครั้ง เรามองเป็นโอกาสในการเข้าซื้อ Security: STA Position: ซื้อ เป้าหมาย : 22.4/23 Stop loss < 21 Reason: เป็นหุ้นที่น่าจับตามมอง เนื่องจากสร้างฐานกว่า 2 เดือน สัญญาณซื้อจะเกิดขึ้นเมื่อราคาทะลุเส้นค่าเฉลี่ย 200 วัน21.6 คาดว่าวอลุ่มจะเพิ่มสูงขึ้นตาม Security: THAI Position: ซื้อ เป้าหมาย : 29/30 Stop loss < 25 Reason: ใครที่หาหุ้นที่ราคาหุ้นยังไม่ได้ปรับขึ้นมากนัก เราแนะนำ THAI จุดซื้อคือเมื่อราคาหุ้นทะลุผ่านแนวต้านระยะสั้น 27 คาดว่าวอลุ่มจะสูงขึ้นตามราคาหุ้น โดยมองเป้าหมายทางเทคนิคที่ 29-30 Security: ESSO Position: ขายทำกำไร Reason: อยู่ในข่ายที่ต้องระวังเนื่องจากโมเมนตัมลดลงและเริ่มส่งสัญญาณอ่อนกว่าตลาด ขณะที่ราคาหุ้นหลุดเส้นค่าเฉลี่ย 25 วันและปิดต่ำทำจุดต่ำสุดในรอบสัปดาห์ Security: TOP Position: ขายทำกำไร Reason: ส่งสัญญาณอ่อนกว่าตลาดและกลุ่มอย่างเห็นได้ชัด ขณะที่ราคาหุ้นวกกลับลงมาต่ำกว่าเส้นค่าเฉลี่ย 25 วันและปิดต่ำ Security: PF Position: ขายทำกำไร Reason: ไม่ผ่านยอดเดิม 1.3-1.35 การสร้างรูปแบบเช่นนี้อาจต้องระวังเนื่องจากเป็นการเตือนว่าหุ้นอยู่ในช่วงปลายทางโดยมองเป็นรูปแบบกลับตัวเป็นลงหลังจากปิดต่ำและหลุดเส้นค่าเฉลี่ย 25 วันเป็นสัปดาห์แรก โดย บมจ.หลักทรัพย์ บัวหลวง ประจำวันที่ 4 เม.ย. 2555