นายกถกผู้นำอินโดฯ-มาเลเซียหนุนการเชื่อมโยงภูมิภาค
น.ส.ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร นายกรัฐมนตรี เข้าร่วมการประชุมระดับผู้นำ ครั้งที่ 6 เรื่องแผนงานพัฒนาเขตเศรษฐกิจสามฝ่าย อินโดนีเซีย-มาเลเซีย-ไทย (IMT-GT) โดยมีการทบทวนการดำเนินการใน 6 สาขาความร่วมมือหลัก ทั้ง ด้านการเสริมสร้างความเข้มแข็ง ด้านโครงสร้างพื้นฐานเพื่อเชื่อมโยงพื้นที่ภายในอนุภูมิภาค การอำนวยความสะดวกด้านการค้าการลงทุนภายในพื้นที่ IMT-GT และเชื่อมโยงกับพื้นที่ภายนอก การท่องเที่ยว การพัฒนาผลิตภัณฑ์และบริการฮาลาล และการส่งเสริมด้านทรัพยากรมนุษย์ รวมถึงการส่งเสริมความเติบโตทางภาคเกษตร อุตสาหกรรมการเกษตรโดน นายกรัฐมนตรี ยืนยันจะสนับสนุนกรอบความร่วมมือ IMT-GT ให้มีความก้าวหน้าต่อไป โดยเฉพาะผู้มีส่วนได้ส่วนเสียระดับท้องถิ่น ต้องผลักดันโครงการความร่วมมือ เช่น การพัฒนาเขตพื้นที่ชายแดนพิเศษที่ จ.นราธิวาส เพื่อให้มีการเชื่อมต่อรัฐกลันตัน และ จ.นครศรีธรรมราช ทั้งนี้ ไทยสนับสนุนการศึกษาและพัฒนาการเชื่อมโยงกันของ IMT-GT ซึ่งธนาคารพัฒนาแห่งเอเชียมีบทบาทสำคัญเรื่องนี้นายกรัฐมนตรี กล่าวว่า ไทยมีโครงการใหม่ เพื่อเชื่อมโยงกันในภูมิภาค เช่น การศึกษาความเป็นไปได้ของเส้นทางมอเตอร์เวย์ หาดใหญ่-สะเดา และการก่อสร้างสะพานสองแห่ง ที่เชื่อมระหว่าง นราธิวาส และรัฐกลันตัน นอกจากนี้ระบบซอฟต์แวร์ต่างๆ ก็มีความสำคัญ เช่น ระบบ CIQ รวมทั้งการดำเนินงานความตกลงการขนส่งข้ามแดนด้วย โดยหวังว่า กรอบการดำเนินงานความร่วมมือ IMT-GT และ CIQ จะสำเร็จโดยเร็วขณะที่ ในด้านการท่องเที่ยวจะต้องส่งเสริมนักท่องเที่ยวในพื้นที่ รวมทั้งการขยายการเชื่อมโยงระหว่างประชาชน ที่จะช่วยส่งเสริมความเข้าใจอันดีระหว่างกัน ทั้งนี้ความเป็นหุ้นส่วนการพัฒนาของญี่ปุ่น เป็นสิ่งที่น่าชื่มชมและส่งเสริมความร่วมมือโดยเฉพาะเรื่องความมั่นคงปลอดภัยทางอาหารและพลังงานทางเลือก ซึ่งขณะนี้การเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศและราคาพลังงานที่พุ่งสูงขึ้น การพัฒนาการเกษตรอย่างยั่งยืน และพลังงานชีวภาพ เป็นเรื่องจำเป็นต่อการพัฒนา ผู้นำเขตศก.3 ฝ่ายอินโดฯ-มาเลย์-ไทยแถลงร่วมมือพัฒนาผู้นำเขตเศรษฐกิจสามฝ่าย อินโดนีเซีย-มาเลเซีย-ไทย รวมถึง น.ส.ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร นายกรัฐมนตรี ออกแถลงการณ์ ร่วมอย่างเป็นทางการ โดยระบุว่า จะมุ่งมั่นร่วมมือในระดับภูมิภาคเพื่อเสริมสร้างขีดความสามารถในการแข่งขัน ลดช่องว่างการพัฒนาภายในและระหว่างประเทศในอนุภูมิภาค เพื่อให้ประชาชนพ้นจากความยากจน พร้อมกับชื่นชมสภาธุรกิจ (JBC) ที่ร่วมส่งเสริมโครงการธุรกิจและการลงทุน สำหรับแผนดำเนินการระยะห้าปี ระหว่างปี 2555-2559 จะเน้นโครงการเชื่อมโยงด้านคมนาคม ที่มีความสำคัญเร่งด่วน ทางกายภาพ ระบบสาธารณูปโภค การขนส่งทางอากาศเพื่ออำนวยความสะดวกในการเคลื่อนย้ายสินค้าและผู้คน และส่งเสริมการท่องเที่ยวภายในอนุภูมิภาค พร้อมส่งเสริมความมั่นคงด้านอาหาร ส่งเสริมการลงทุนของนักธุรกิจด้านอาหาร นอกจากนี้ยังมีความริเริ่มโครงการวิจัยเกี่ยวกับศักยภาพ ของตลาดเชื้อเพลิงชีวภาพในเอเชีย เพื่อปรับปรุงตลาดเชื้อเพลิงชีวภาพ พร้อมมอบหมาย รัฐมนตรี IMT-GT ติดตามความก้าวหน้า ความร่วมมือกับรัฐบาลญี่ปุ่น ด้วย