แท็บเล็ตยังฝันค้าง! ไอซีทีแจกไม่ทัน พ.ค.นี้

แท็บเล็ตยังฝันค้าง! ไอซีทีแจกไม่ทัน พ.ค.นี้

แท็บเล็ตยังฝันค้าง! ไอซีทีแจกไม่ทัน พ.ค.นี้
แชร์เรื่องนี้
แชร์เรื่องนี้LineTwitterFacebook

5 เม.ย. - น.อ.อนุดิษฐ์ นาครทรรพ รมว.กระทรวงเทคโนโลยีสารสนเทศและการสื่อสาร (ไอซีที) กล่าวว่า คณะกรรมการจัดซื้อจัดหาคอมพิวเตอร์พกพา (แท็บเล็ต) ป.1 จำนวน 900,000 เครื่อง ยังไม่สามารถลงนามเซ็นสัญญาจัดซื้อกับบริษัท เสิ่นเจิ้น สโคป ไซแอนทิฟิค ดีเวลลอปเมนต์ ผู้รับผิดชอบผลิตแท็บเล็ตได้ทันในกำหนดเดิมที่คาดว่าจะลงนามได้วานนี้ (4 เม.ย.) เนื่องจาก สโคปฯ ไม่สามารถหาหนังสือรับประกันทางการเงิน (แบงก์การันตี) จากธนาคารแห่งชาติประเทศจีน (แบงก์ ออฟ ไชน่า) มาประกอบการเซ็นสัญญาในวันดังกล่าวได้

ทั้งนี้ แบงก์การันตี ที่สโคปฯ ต้องจัดหามาประกอบสัญญาการจัดซื้อแท็บเล็ตนั้น จะต้องมีมูลค่า 5% จากราคามูลค่าที่ 1,900 ล้านบาท ซึ่งทางสโคปฯ แจ้งว่า วันดังกล่าวนี้เป็นวันหยุดธนาคารของประเทศจีน เพราะต้องกลับวันเชงเม้ง จึงไม่สามารถทำเอกสาร เพื่อขอแบงก์การันตีได้ทัน ดังนั้น ไอซีทีจึงเห็นควรให้เลื่อนการเซ็นสัญญาไปวันที่ 10 เม.ย.นี้แทน

ในส่วนของกระทรวงไอซีทีเตรียมเอกสารหลักฐานทุกอย่างเรียบร้อยแล้ว เหลือแต่รอความพร้อมจากสโคปฯ ในการเซ็นสัญญาจัดซื้อร่วมกัน โดยขณะนี้ อัยการสูงสุดที่ได้ร่างสัญญาจัดซื้อฯ ดังกล่าว ที่ไอซีทีได้ส่งไปเสนอข้อความเห็นเพื่อความรอบคอบเรียบร้อยแล้ว อย่างไรก็ตาม ในการส่งมอบแท็บเล็ตให้แก่ครูนั้น จะได้รับก่อน 2,000 เครื่องในเดือนพ.ค. ซึ่งจะมีการบรรจุเนื้อหา การเรียนการสอน และให้ครูได้ใช้แท็บเล็ตเพื่อความคล่องแคล่ว ส่วนเด็กนักเรียนมั่นใจว่า ยังทันตามกำหนดเดิม ซึ่งคาดว่าจะสามารถนำไปใช้ควบคู่กับการเรียนในเดือน ก.ค.

"วานนี้ (4 เม.ย.) อัยการสูงสุดส่งร่างสัญญากลับมาในช่วงบ่าย เราจึงได้แจ้งไปยังสโคปฯ เพื่อให้เตรียมเอกสารมาเซ็นสัญญา ซึ่งเราไม่สามารถไปเร่งรัดอัยการสูงสุดได้ สุดท้ายเราก็ต้องยึดในความถูกต้อง หากจำเป็นต้องเลื่อนออกไป ก็ต้องเลื่อน ทุกคนได้พยายามทำดีที่สุดแล้ว ส่วนลอตแรกที่มีการห่วงว่าจะทันเปิดเทอมหรือไม่ ก็ยืนยันว่าทัน แต่ต้องขอดูร่างสัญญาอีกครั้งว่าจะส่งมอบได้วันใด ซึ่งกว่าที่เด็กจะปรับตัว ปูพื้นฐาน และใช้แท็บเล็ตได้จริงก็เดือน ก.ค.นี้ ซึ่งไม่มีอะไรน่าห่วง" น.อ.อนุดิษฐ์

สำหรับข้อกังวลว่า ภายหลังการเซ็นสัญญาดังกล่าวจะมีการรื้อเพื่อตรวจสอบความโปร่งใสนั้น รมว.ไอซีที กล่าวว่า ขั้นตอนตั้งแต่เริ่มแรกกระทรวงไอซีที ดำเนินการมาอย่างถูกต้องทุกขั้นตอน ภายใต้กฎหมาย จึงมั่นใจว่าไม่น่าจะเกิดปัญหาแต่อย่างใด สำหรับประเด็นที่มีการทักท้วงว่า การเซ็นสัญญาดังกล่าวไม่สามารถดำเนินได้ เพราะการยกเลิกระบบจัดซื้อแบบรัฐต่อรัฐ (จีทูจี) มาเป็นการทำเอ็มโอยู ต้องมีการแก้ไขระเบียบผู้มีอำนาจลงนามนั้น น.อ.อนุดิษฐ์ กล่าวว่า การลงนามทำได้ทั้งในตำแหน่ง รมว.ไอซีที และปลัดกระทรวงไอซีที ซึ่งเรื่องดังกล่าวไม่ได้เป็นปัญหาแต่อย่างใด

สำหรับสโคปฯ เสนอราคาแท็บเล็ตที่ 82 ดอลลาร์สหรัฐ หรือประมาณ 2,450 บาท ส่งมาทางสนามบินสุวรรณภูมิ สเปกคือหน้าจอสัมผัส 7 นิ้ว หน่วยบันทึกข้อมูล 8 กิกะไบต์ หน่วยประมวลผลกลาง หรือ ซีพียู แบบดูอัล คอร์ ไม่ต่ำกว่า 1 กิกะเฮิรตซ์ และหน่วยความจำหลัก 1 กิกะไบต์ ระบบปฏิบัติการแอนดรอยด์ 3.2 และรองรับแอนดรอยด์ 4.0

ผู้สื่อข่าวรายงานว่า นอกจากจะติดปัญหาเรื่องแบงก์การันตีแล้ว ยังติดปัญหาว่าใครจะเป็นผู้ลงนามในสัญญาระหว่าง น.อ.อนุดิษฐ์ รมว.ไอซีที หรือนางจีราวรรณ บุญเพิ่ม ปลัดกระทรวงไอซีที ซึ่ง ครม.ได้มีมติให้น.อ.อนุดิษฐ์ เป็นผู้ลงนาม เพราะเป็นการจัดซื้อแบบรัฐต่อรัฐ (จีทูจี) แต่เมื่อเปลี่ยนเป็นการจัดซื้อระหว่างเอกชนจีนกับกระทรวงไอซีทีแล้ว จะต้องยื่นเรื่องเสนอต่อ ครม.เพื่อขอให้ปรับเปลี่ยนมติหรือไม่ เพราะตามระเบียบสำนักนายกรัฐมนตรีว่าด้วยการพัสดุ พ.ศ. 2525 ซึ่งหาก เป็นการจัดซื้อของส่วนราชการ หัวหน้าหน่วยงานราชการ จะต้องเป็นผู้ลงนามในสัญญา แต่ผ่านการอนุมัติของรัฐมนตรี เพราะวงเงินการจัดซื้อเกิน 1,000 ล้านบาท ฉะนั้นหากต้องนำเรื่องเสนอ ครม.เพื่อปรับเปลี่ยนมติ ครม.ผู้มีอำนาจลงนาม คาดว่าจะใช้เวลาในการดำเนินการอย่างน้อย 3 สัปดาห์ - สำนักข่าวไทย

แชร์เรื่องนี้
แชร์เรื่องนี้LineTwitterFacebook