พลเอกเปรมเปิดโครงการสานใจไทยสู่ใจใต้

พลเอกเปรมเปิดโครงการสานใจไทยสู่ใจใต้

พลเอกเปรมเปิดโครงการสานใจไทยสู่ใจใต้
แชร์เรื่องนี้
แชร์เรื่องนี้LineTwitterFacebook

โครงการ "สานใจไทย สู่ใจใต้" ดำเนินการมาถึงรุ่นที่ 17 ซึ่งเกิดขึ้นด้วยความร่วมมือของหลายหน่วยงาน อาทิมูลนิรัฐบุรุษ - มูลนิธิรักเมืองไทย - มูลนิธิพิทักษ์อุทยานแห่งชาติเขาใหญ่ หน่วยทหารอันได้แก่ กองบัญชาการกองทัพไทย - กองทัพบก - กองทัพเรือ - กองทัพอากาศ - กระทรงมหาดไทย - กระทรวงศึกษาธิการ - กระทรวงวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี - ทรูวิชั่น และ หน่วยงานภาครับและเอกชนอีกหลายหน่วยงาน ที่ร่วมกันสนับสนุนและร่วมกันในการจัดกิจกรรมนำเยาวชนที่นับถือศาสนาอิสลามจาก 5 จังหวัดชายแดนภาคใต้ คือ ยะลา -ปัตตานี - นราธิวาส - สงขลา และ สตูล จำนวน 239 คน เป็นเยาวชนชาย จำนวน 100 คน และ หญิง จำนวน139 คน โดยในพิธีเปิดสานใจไทยสู่ใจใต้ครั้งที่ 17 นี้ ฯพณฯ พลเอกเปรม ติณสูลานนท์ ประธานองคมนตรีและรัฐบุรุษ เป็นประธานในพิธีเปิดโครงการและกล่าวให้โอวาทแก่เยาวชนพร้อมส่งมอบเยาวชนให้กับครอบครัวอุปถัมภ์ ทั้ง 10 จังหวัด ที่ได้รับเยาวชนไปดูแลและใช้ชีวิตอยู่ร่วมกัน เพื่อเป็นการเชื่อมความสัมพันธ์เป็นเครือข่ายครอบครัว อันจะนำไปสู่ความสมานฉันท์ในสังคม อันเป็นการสร้างโอกาสให้เยาวชนได้รับการเสริมสร้างทักษะการเรียนรู้ วิสัยทัศน์ และ ประสบการณ์ชีวิต ตลอดจนการพัฒนาแนวคิดในการปฏิบัติตนในการเป็นผู้นำชุมชนในอนาคต อันเป็นหัวใจสำคัญยิ่งของโครงการสำหรับเยาวชนที่เข้าร่วมโครงการได้เนทางไปทัศนศึกษายังสถานที่ต่างๆ อาทิ การได้เข้าเยี่ยมคารวะผู้บัญชาการทหารบก และ อิหม่ามมัสยิดต้นสน พร้อมการศึกษาประวัติศาสตร์ - เข้าเยี่ยมชมเรือหลวงจักรีนฤเบศร และศูนย์อนุรักษ์พันธุ์เต่าทะเล ณ หน่วยบัญชาการต่อสู้อากาศยานและรักษาฝั่ง อำเภอสัตหีบจังหวัดชลบุรี - สถาบันวิทยาศาสตร์ทางทะเล มหาวิทยาลัยบูรพา จังหวัดชลบุรี พร้อมทั้งการเข้าศึกษาดูงานในองค์กรและสถานที่สำคัญ ต่างๆ ในกรุงเทพมหานคร อาทิ สถาบันพิพิธภัณฑ์การเรียนรู้ (มิวเซียมสยาม) - เยี่ยมชมการถ่ายทอดสดรายการ เรื่องเด่นเย็นนี้ ทางช่อง 3 - เดินทางโดยสารรถไฟฟ้า (BTS) จากสถานีวงเวียนใหญ่ไปยังสถานีสยามกีฬาแห่งชาติ - เยี่ยมคารวะท่านอิหม่ามที่มัสยิดนูรู้ลมูบีน (บ้านสมเด็จ) ชมนิทรรศการที่ หอนิทรรศรัตนโกสินทร์ ถนนราชดำเนิน และจากนั้นเยาวชนทั้งหมดก็จะได้ไปใช้ชีวิตร่วมกับครอบครัวอุปถัมภ์ และมารวมตัวกันอีกครั้งเพื่อเข้าค่ายสิ่งแวดล้อมอุทยานแห่งชาติเขาใหญ่ เพื่อศึกษาชีวิตสัตว์ป่าจากกิจกรรมส่องสัตว์สลับกับ บรรยายโครงการศึกษาวิจัยด้านธรรมชาติ โดยมี ฯพณฯ พลเอกสุรยุทธ์ จุลานนท์ ประธานคณะกรรมการดำเนินโครงการฯ เป็นประธานในพิธีเปิด จากนั้นก็จะได้กลับมาเรียนรู้วิทยาศาสตร์ผ่านสวนสนุกดรีมเวิลด์ เพื่อเข้าค่ายเปิดการเรียนรู้วิทยาศาสตร์กับ อพวช (องค์การพิพิธภัณฑ์วิทยาศาสตร์ จังหวัดปทุมธานี)และจะได้นำเยาวชนกลับสู่ภูมิลำเนาด้วยเครื่องบิน C130 จากกองทัพอากาศโดยในครั้งนี้มีเยาวชน 2 คน ที่เคยเข้าร่วมโครงการ "สานใจไทย สู่ใจใต้" ได้เข้ามาร่วมเป็นอาสาสมัคร พี่ดูแลน้อง โดยทั้งคู่ได้กล่าวถึงความประทับใจที่ได้รับประสบการณ์ดีๆ"นายรุสลีน เจมะ" เยาวชนที่ได้รับการอบรมในรุ่นที่ 1 กล่าวถึงความรู้สึกว่า "ในฐานะที่ผมเป็นรุ่นพี่ครับ ช่วงนี้โรงเรียนปิดเทอมก็อยากมาดูน้องๆ ว่าเป็นอย่างไรกันบ้าง ตอนที่มาตอนนั้นมีแค่ 30 คน ต่างกับตอนนี้มีถึง240 คน จำนวนครูพี่เลี้ยงก็มีไม่พอ ผมก็เลยได้มีโอกาสมาช่วยครับ ความรู้สึกของผมรู้สึกดีใจมาก ที่มีโครงการนี้เพราะว่า เราจะได้ใช้ชีวิตระหว่างคนใต้กับคนภาคกลาง ซึ่งชีวิตความเป็นอยู่ไม่ได้แตกต่างกันมากครับ ผมเรียน 2 แบบ คือ ด้านวิชาการและศาสนา ศาสนาและวิถีชีวิตของคนไทยเราเข้ากันได้ครับ ศาสนาพุทธสอนให้เป็นคนดี ศาสนาอิสลามก็สอนให้เป็นคนดีเช่นกันครับ ผมได้ครอบครัวใหม่เป็นครอบครัวที่ดี ตอนที่ผมมาอยู่กับครอบครัวอุปถัมภ์ที่อยุธยา ถึงแม้ว่าเราจะอยู่คนละภาคกันแต่ว่าความเป็นสมานฉันท์หรือเป็นพี่น้องกันไม่ได้ถูกแบ่งแยก เมื่อเรากลับภูมิลำเนาก็ยังติดต่อกันอยู่ครับ บางครั้งก็ไปเยี่ยมเยือนกันที่บ้าน ผู้ใหญ่ในโครงการก็ติดต่อสอบถามตลอดเวลาเรียนที่ไหนทำอะไรเรียกว่าเราไม่ขาดการติดต่อกันครับ คราวหน้าถ้าผมมีโอกาสก็จะมาอีกครับ"  "นายอับดุลคอเดย์ พูลา" เยาวชนที่ได้รับการอบรมในรุ่นที่ 4 กล่าวว่า "ในฐานะศิษย์เก่าเยาวชนที่เคยเข้าร่วมโครงการยินดีและชื่นชมน้องๆ ในรุ่นที่ 17 น้องๆ มีความสุขมาก โครงการนี้ให้ความรู้ให้ประสบการณ์หลายๆอย่างกับน้องๆ ที่สำคัญคือโอกาสที่น้องๆ ใน 5 จังหวัดชายแดนภาคใต้ขาด คือ การได้เข้าไปเยี่ยมชมสถานที่สำคัญ ซึ่งถ้าเรามาส่วนตัวอาจจะไม่ได้เข้าไปได้ใกล้ชิดผู้ใหญ่ ผมเองได้ได้รับความสุขกับการได้อยู่กับครอบครัวมุสลิม ที่เรียกว่าครอบครัวอุปถัมภ์ได้เรียนรู้วิถีชีวิตชีวิตของพี่น้องมุสลิมในกรุงเทพฯ และปริมณฑล ที่เขาอยู่อย่างมีความสุขและนำไปปรับใช้กับชีวิตประจำวันของเราเอง ประทับใจครอบครัวอุปถัมภ์ที่รับผมตั้งแต่รุ่นที่ 4 ตอนนี้ก็ยังติดต่อกันอยู่ครับ เหมือนเราเป็นลูกของเขาเลย และที่สำคัญเรายังได้มีการรวมตัวกันจากน้องๆ ในรุ่นต่างๆ มาทำกิจกรรมต่อเนื่องครับ เช่น โครงการค่ายสื่อมวลชน เช่น ไปศึกษาดูงานที่สถานีวิทยุ สทท. ช่อง 11 ช่อง 3 หรือ ช่อง 9 เพราะเราจะได้รับความรู้ ซึ่งมีผู้ใหญ่ในโครงการให้การสนับสนุนถ้าเราจะทำโครงการอะไรก็ทำหนังสือเสนอมาได้เลยครับ ซึ่งผู้ใหญ่ท่านให้ความสนใจและสนับสนุนมากครับ นอกจากนี้ ทางโครงการฯ ก็ยังมีทุนที่จัดตั้งขึ้นเพื่อให้น้องๆ ได้มีโอกาสทางการศึกษาอีกกว่า 100 ทุน อีกด้วยครับ เยาวชนที่เข้าร่วมโครงการอยากให้ความสงบสุขและความสันติสุขเกิดขึ้นใน 5 จังหวัดชายแดนภาคใต้ครับ" โครงการ "สานใจไทย สู่ใจใต้" นอกจากจะเป็นฑูตเชื่อมสัมพันธ์ให้เยาวชนไทยใน 5 จังหวัดชายแดนภาคใต้ได้มาทำกิจกรรมร่วมกันแล้ว ยังจะเห็นได้ว่าการนับถือศาสนาไม่เป็นอุปสรรคที่จะอยู่ร่วมกันอย่างปกติสุข และยังจะช่วยทำให้เยาวชนตระหนักถึงการที่จะช่วยพัฒนาบ้านเมืองของเราในอนาคต  และ โครงการ ยังได้สนับสนุนในเรื่องของทุนการศึกษาทั้งระดับมัธยมศึกษาจนถึงมหาวิทยาลัย กว่า 100 ทุน โดยดำเนินมาตั้งแต่ปี พ.ศ.2552 อีกด้วย
แชร์เรื่องนี้
แชร์เรื่องนี้LineTwitterFacebook