Daily View - บล.กสิกรไทย
ความกังวลปัญหายุโรปกลับมาอีกครั้ง หุ้นยุโรปเมื่อคืนปรับลดลงแรงเนื่องจากหลายตลาดปิดทำการในวันก่อนหน้าเนื่องในเทศกาลอีสเตอร์ อีกทั้งความกังวลปัญหาวิกฤติหนี้ยุโรปรอบใหม่ที่กลับมาอีกครั้งที่สะท้อนผ่านทางปรับขึ้นของราคาทองคำ และพันธบัตรรัฐบาลอิตาลีและสเปนที่เริ่มปรับขึ้นใกล้จุดสูงสุดในรอบ 2 และ 3 เดือน ด้านราคาน้ำมันลดลงหลังได้รับปัจจัยลบจากการที่สำนักงานสารสนเทศด้านพลังงานของรัฐบาลสหรัฐ (EIA)ปรับลดคาดการณ์ความต้องการน้ำมันทั่วโลกในปี 2555 และปรับเพิ่มคาดการณ์ผลผลิตน้ำมันของประเทศนอกกลุ่มโอเปค แม้ปัญหาหนี้ยุโรปจะกลับมาเป็นข่าวในกระแสของตลาด แต่ไม่น่าจะร้ายแรงเช่นครั้งกรีซ เนื่องจากเราดูปฏิกิริยาจากตลาดอื่นที่เกี่ยวข้อง อาทิ ตลาดการเงิน (จากOIS Spread) พบว่ายังไม่มีปฏิกิริยาในเชิงลบที่ยืนยันความรุนแรงของปัญหา อีกทั้งอัตราผลตอบแทนพันธบัตรเยอรมันซึ่งถือเป็นสินทรัพย์ปลอดภัยปรับลงสวนทางอิตาลีและสเปน ซึ่งบ่งชี้ว่านักลงทุนแยกแยะประเทศที่เกิดปัญหาออกจากกัน และไม่ได้คาดว่าวิกฤติจะลุกลามไปยังประเทศอื่นๆ อย่างไรก็เชื่อว่าประเด็นที่เกิดขึ้นในช่วงนี้จะทำให้เกิดแรงขายทำกำไรในหุ้นหลังหุ้นเป็นสินทรัพย์ที่โดดเด่นที่สุดนับจากต้นปี หากพิจารณาหุ้นไทย ดัชนีระดับ 1214 จุด เป็นระดับที่ Foreign มีกำไรถึง15% และมักจะถูกขายทำกำไร จากการคำนวณของเรา ต้นทุนเฉลี่ยของนักลงทุนต่างชาติอยู่ที่ 1058 จุด เป็นแนวรับทางพื้นฐานที่แข็งแกร่งมากสำหรับระยะกลางในระยะสั้นคาดตลาดยังแกว่งตัวในทางลงเป็นหลักแม้อาจมีดีดตัวในเร็วๆนี้ กลยุทธ์การลงทุน: 1) มีวินัยกับการตั้ง Stop level (ทั้ง Stop loss และ Trailing stop)การเข้าซื้อเพื่อเล่นเด้งช่วงสั้นควรมีวัตถุประสงค์เพื่อทำรอบย่อยดึงต้นทุนลง 2) การเด้งจาก1160+/- ยังเน้นใช้ลดพอร์ต 3) จุดเสี่ยงซื้อที่ดีสำหรับคนเล่นสั้นในรอบนี้ (ถ้าเห็น) คือระดับ 1140-1150 จุด ซึ่งอาจยังไม่ใช่จุดซื้อที่ดีสำหรับคนที่ลงทุนยาว หุ้นแนะนำ ทยอยสะสม RATCH GLOW MCOT สำหรับนักลงทุนระยะกลางยังขอให้ Wait and See การซื้อกลับอาจเพียงทยอยสะสมเป็นรายตัว และเรายังให้น้ำหนักตลาดในทางแกว่งตัวถึงปรับตัวลง ซึ่งเราจะอัพเดทจุดซื้อสำหรับนักลงทุนระยะกลางอีกครั้ง ปัจจัยสำคัญในช่วงที่เหลือของสัปดาห์นี้ - EU: Industrial Production วันที่ 12 เม.ย. - US: International Trade, Jobless Claims, Producer Price Index วันที่ 12 เม.ย. - China: Real GDP, Industrial Production, Retail Sales วันที่ 13 เม.ย. - US: Consumer Price Index, Consumer Sentiment วันที่ 13 เม.ย. สรุปตลาดต่างประเทศ: DJIA-213.66/-1.65% S&P-23.61/-1.71% NASDAQ-55.86/-1.83% FTSE-128.12/-2.24% CAC-102.21/-3.08% DAX-168.83/-2.49% ตลาดหุ้นสหรัฐฯปรับตัวลงแรงต่อเนื่อง เนื่องจากความวิตกกังวลเกี่ยวกับการชะลอตัวของเศรษฐกิจทั่วโลก ประกอบกับความวิตกกังวลเกี่ยวกับวิกฤตหนี้ยุโรป หลังจากอัตราผลตอบแทนพันธบัตรของสเปนและอิตาลีปรับตัวสูงขึ้น รวมทั้งข่าวที่ว่าธนาคารพาณิชย์หลายแห่งของสเปนอาจจะต้องระดมทุนเพิ่ม สรุปตลาด Commodity: Oil USD101.02/bbl/-1.44 Gold USD1,660.7Once/+16.8 สัญญาน้ำมันดิบปรับตัวลง หลังจาก EIA ปรับลดคาดการณ์ความต้องการน้ำทั่วโลกพร้อมกับปรับเพิ่มคาดการณ์ผลผลิตน้ำมันของประเทศนอกกลุ่มโอเปค ขณะที่การร่วงลงของตลาดหุ้นได้ส่งผลให้นักลงทุนเข้าซื้อทองคำซึ่งเป็นสินทรัพย์ปลอดภัย และหนุนให้สัญญาทองคำปรับตัวสูงขึ้น ECONOMICS & POLITICS - รัฐอนุมัติ6.6พันล.จ่ายขรก."หมื่นห้า" ครม.ไฟเขียวปรับเงินเดือนข้าราชการ 1.5 หมื่นบาท ในวันที่ 1 ม.ค.2557 เผยใช้งบ 6.6 พันล้านบาท เพิ่มค่าครองชีพชั่วคราวไปก่อนในปีงบ 2556-2557 พร้อมอนุมัติ โครงการเกษียณก่อนกำหนด เปิดทางหน่วยงานราชการลดบุคลากรลง 10% (กรุงเทพธุรกิจ) -"กันกุล"จ่อประมูลงาน3พันล้าน รุกลงทุนพลังงานทดแทนหวังเพิ่มมูลค่างานในมือ ตั้งเป้ารายได้โต 60%เพราะทยอยรับรู้รายได้จากบริษัทย่อยโครงการโรงไฟฟ้าพลังงานแสงอาทิตย์ "กันกุลเอ็นจิเนียริ่ง" เล็งประมูลงานอีก 3 พันล้านบาท เตรียมเดินหน้าลงทุนพลังงานทดแทนใน-ต่างประเทศเต็มสูบเพื่อเพิ่มแบ็คล็อก ย้ำรายได้ปีนี้4.3 พันล้านบาท หรือโต 60% ตามเป้า (กรุงเทพธุรกิจ) - PTT คาดรายได้Q1/55ดีตามทิศทางราคาน้ำมัน แต่มาร์จิ้นปิโตรฯน้อยกว่าQ1/54 PTT คาดรายได้ไตรมาส1/2555 จะออกมาดีตามทิศทางราคาน้ำมันที่ปรับเพิ่มขึ้น แต่กำไรคาดการณ์ยากเพราะสเปรดมาร์จิ้นของธุรกิจปิโตรเคมีแคบลงกว่าช่วงเดียวกันของปีก่อน ส่วนผลการดำเนินงานทั้งปีขึ้นอยู่กับสถานการณ์ราคาน้ำมัน และผลิตภัณฑ์ปิโตรเคมีในตลาดโลก มองสถานการณ์ราคาพลังงานปีนี้ผันผวนตามสถานการณ์โลกและความ ต้องการที่เพิ่มขึ้น ยอมรับหากเหตุความไม่สงบในอียิปต์ไม่ยุติอาจต้องตั้งด้อยค่าสินทรัพย์เพิ่มขึ้นอีกซึ่งปัจจุบันยังเหลืออยู่อีกราว 7 พันล้านบาท เทียบกับปีก่อนที่ตั้งด้อยค่าไป 5.8 พันล้านบาท แต่หากปัญหายุติสามารถreverse รายการกลับมาได้ (IQ Biz) - ซีพีส่ง"ไก่5ดาว-เฟรชมาร์ท"รุกเออีซี ซีพี ชูไก่ย่าง 5 ดาว-ซีพีเฟรชมาร์ทเจาะตลาดเออีซี เน้นกลุ่มประเทศซีแอลเอ็มวี ชี้โอกาสตลาดขยายตัวสูง อาชว์แนะสร้างมาตรฐานสินค้าอาเซียน ผลิตสินค้าอาเซียนโปรดักท์ ผนึกกำลังสร้างอำนาจต่อรองกับประเทศผู้นำเข้า ระบุสินค้าบริการ การท่องเที่ยวที่มีศักยภาพการลงทุนสูง (กรุงเทพธุรกิจ) -'TUF'เพิ่มรายย่อยหนุนซื้อขายหุ้นถี่ขึ้น ไทยยูเนี่ยน โฟรเซ่นฯ งัดกลยุทธ์ดึงดูดรายย่อยถือหุ้นมากขึ้นเพิ่มปริมาณการซื้อขาย ลงทุน นายธีรพงศ์ จันศิริ ประธานกรรมการบริหาร บริษัท ไทยยูเนี่ยน โฟรเซ่น โปรดักส์(TUF)เปิดเผยภายหลังการประชุมผู้ถือหุ้นกว่า 2 ชั่วโมงครึ่ง ว่าบริษัทมีเป้าหมายที่จะเพิ่มจำนวนผู้ถือหุ้นรายย่อยให้เป็นสัดส่วน 15% จากปัจจุบันอยู่ที่ 9% ภายในปี 2557 (โพสต์ทูเดย์) - 5 แบงก์ร่วมปล่อยกู้ให้บ.ย่อย CPF จำนวน 740 ล้านดอลล์ ใช้ซื้อหุ้น CPP นายชาติศิริ โสภณพนิชกรรมการผู้จัดการใหญ่ ธนาคารกรุงเทพ (BBL) ในฐานะผู้จัดหาเงินกู้ร่วม เปิดเผยว่า ธนาคาร ร่วมกับธนาคารกรุงไทย (KTB) ซีไอเอ็มบี แบงก์ เบอร์ฮาด ธนาคารธนชาต และธนาคารไอซีบีซี (ไทย) ลงนามในสัญญาสนับสนุนสินเชื่อจำนวน 740 ล้านดอลลาร์สหรัฐฯ ให้แก่บริษัท CPF Investment Limited (CPFI) ซึ่งเป็นบริษัทย่อยของ บมจ.เจริญโภคภัณฑ์อาหาร(CPF) เพื่อใช้ในการเข้าซื้อหุ้นของ CP Pokphand Company Limited(CPP) สำหรับ CPP เป็นผู้ผลิตอาหารสัตว์ที่ใหญ่เป็นอันดับ 2 ในประเทศจีน ด้วยส่วนแบ่งทางการตลาดถึงร้อยละ 4 และเครือข่ายการจัดจำหน่ายที่ครอบคลุมมากกว่า 28 มณฑลและเขตปกครองพิเศษในประเทศจีน ในประเทศเวียดนาม CPP เป็นผู้นำตลาดในธุรกิจเกษตรอุตสาหกรรมครบวงจร เป็นผู้ผลิตธุรกิจอาหารสัตว์บกและสัตว์น้ำรายใหญ่ที่สุดในเวียดนาม รวมทั้งเป็นบริษัทอันดับหนึ่งในธุรกิจฟาร์มสุกร สัตว์ปีกและกุ้งเพื่อการพาณิชย์ทั้งนี้ BBL มองว่าประเทศจีนและเวียดนามต่างเป็นประเทศที่มีแนวโน้มการขยายตัวทางเศรษฐกิจอย่างแข็งแกร่งซึ่งจะส่งผลให้ปริมาณความต้องการด้านการบริโภคเพิ่มสูงขึ้น รวมทั้งสินค้าของ CPF เช่นเดียวกัน (IQ Biz) - ADVANC คาดรายได้จากนอนวอยซ์ปี 55 โต 20-25% ตามเป้าหมาย หลัง Q1/55 โตดี ADVANC มั่นใจรายได้จากบริการ Non-voice จะเติบโต 20-25% ตามเป้าในปี 2555 โดยมองว่าตลอดปีนี้จะมีผู้ใช้สมาร์ทโฟนเพิ่มอีก 5 ล้านเครื่อง และธุรกิจดาวน์โหลดเพลงซึ่งเป็นส่วนหนึ่งของบริการ Non-voice ขยายตัวอย่างต่อเนื่องคาดการณ์ว่าตลาด Digital Moblie Music ในปีนี้จะเติบโต 10-15% จากปีก่อนที่มีมูลค่ากว่า 4 พันล้านบาท ซึ่งบริษัทมีส่วนแบ่งทางการตลาดอยู่กว่า 50% ส่วนรายได้ไตรมาส 1/2555 ก็ยังเติบโตดี (IQ Biz) - เหมราชฯ เผยยอดขายที่ดินไตรมาส 1 ปี 2555 จำนวน 928 ไร่เพิ่มขึ้นร้อยละ 197 เมื่อเทียบกับปีที่ผ่านมา HEMRAJ เผยว่าบริษัทมียอดขายที่ดินในไตรมาส 1/2555 จำนวน 928 ไร่ เพิ่มขึ้นร้อยละ 197 จากไตรมาสเดียวกันของปีก่อนหน้า โดยในจำนวนนี้กว่าร้อยละ 60 มาจากนักลงทุนญี่ปุ่นและกว่าร้อยละ 33 มาจากกลุ่มยานยนต์ พื้นที่การให้เช่าโรงงานสำเร็จรูปในไตรมาสที่ 1 ปี 2555 เพิ่มขึ้น 13,694 ตารางเมตร หรือ ร้อยละ 9 จากยอดสะสมเมื่อสิ้นปี 2554นอกจากนี้ยังมียอดรวมพื้นที่จากการเช่าล่วงหน้าในปี 2555 อีก 14,000 ตารางเมตร และความต้องการด้านบริการสาธารณูปโภคเพิ่มขึ้นร้อยละ 7 เมื่อเปรียบเทียบกับไตรมาสที่ 4 ของปีก่อนหน้า ปัจจุบันบริษัทฯ ตั้งเป้านยอดขายที่ดินปีนี้ที่ 1,700 ไร่ ซึ่งปรับเพิ่มขึ้นจากเป้าหมายเดิมเมื่อช่วงต้นปีที่ 1,500 ไร่ และมี Backlog ที่ดินที่จะมาโอนในปีนี้อีกกว่า 900 ไร่ ขณะที่การเช่าโรงงานสำเร็จรูปจะขยายตัว 60% จากยอดสะสมเดิม และรายได้จากสาธารณูปโภคในปี 2555 คาดว่าจะเติบโต 20% (หุ้นอินไซต์) - IHLเร่งสปีดผลิตเบาะหนังส่งค่ายฮอนด้า IHL เร่งเครื่องผลิตเบาะหนังป้อนค่ายรถยนต์ฮอนด้า หลัง ฮอนด้าฯประกาศ ดีเดย์เปิดสายการผลิตอย่างเป็นทางการ และเร่งผลิต-ส่งมอบรถที่ค้างส่งให้กับลูกค้าภายในกลางปีนี้ผู้บริหาร เผยว่าบริษัทฯ เตรียมกำลังการผลิตรองรับออเดอร์ค่ายฮอนด้าไว้แล้ว คาดต้องเร่งผลิตเป็นกรณีพิเศษเหตุฮอนด้าลุยส่งมอบรถค้างส่งทั้งหมดให้ทันกลางปีนี้ มั่นใจกำลังการผลิตค่ายรถยักษ์ใหญ่กลับคืนมาทั้งหมดหนุนผลงานปีนี้เติบโตโดดเด่นตามเป้า 25% (ASTV ผู้จัดการออนไลน์) - PREBรับงานใหม่ 4โครงการ มูลค่ารวม 3,020ลบ. PREB รับงานใหม่สร้างอาคารพักอาศัย และที่จอดรถรวม4 โครงการ มูลค่า 3.02 พันล้านบาท ดัน Backlog ในมือเพิ่มขึ้นเป็น 5 พันล้านบาทในสิ้นไตรมาส 1/2555 คาดงานใหม่เริ่มรับรู้รายได้ต้นเดือนพฤษภาคมปีนี้ มองการฟื้นตัวอย่างรวดเร็วของธุรกิจอสังหาริมทรัพย์ทำให้ผู้รับเหมาไม่เพียงพอ คาดทั้งปี 2555 รับรู้รายได้ 3.7 พันล้านบาท ขยายตัว 20% จากปีก่อน และมี Backlog ณ สิ้นปี 4.7 พันล้านบาท พร้อมตั้งเป้า 3 ปีข้างหน้า โตเฉลี่ยไม่น้อยกว่าปีละ 18% (ฐานเศรษฐกิจ) -'SIS' ดึงมือถือจีน-เกาหลีขายไทย ชิงส่วนแบ่งตลาดสมาร์ทโฟน SIS เผยแผนธุรกิจปี 55 เตรียมนำสมาร์ทโฟนจากจีนและเกาหลีมาขายในประเทศไทย คาดสิ้นปีเห็นแนวโน้มสมาร์ทโฟนราคาเริ่มต้นที่ 4,000 บาท มั่นใจวินโดวส์ 8 ช่วยกู้ตลาดโน้ตบุ๊กกลับมาคึกคัก มองยอดจำหน่ายโทรศัพท์เคลื่อนที่ในตลาดรวม คาดว่ามีจำนวนเฉลี่ยอยู่ที่ 13-14 ล้านเครื่องต่อปี โดยในปีที่ผ่านมายอดจำหน่ายฟีเจอร์โฟนคิดเป็นสัดส่วนประมาณ 70% ของตลาด เนื่องจากราคาค่อนข้างถูกและมีราคาเฉลี่ยอยู่ที่ 2,000 บาท (ไทยรัฐ) - แผนแสนล้านบูม'กม.11' ร.ฟ.ท.ได้ข้อสรุปพัฒนาที่ผืนงามกว่า 300 ไร่/ปตท.-เซ็นทรัล จ้องร่วมทุน การรถไฟฯได้ข้อสรุปสุดท้ายแผนพัฒนาพื้นที่กว่า300ไร่ "กม.11" ย่านพหลโยธินมูลค่าลงทุนกว่าแสนล้านแบ่ง 6 โซนครบครันทั้งสนามไดรฟ์กอล์ฟบ้านพักอาศัย อาคารสำนักงานยันศูนย์การค้า คมนาคมเปิดไฟเขียวเร่งรัดกระบวนการหวังเปิดประมูลภายในปีนี้ ปตท.จับจองขยายศูนย์พลังงาน ส่วนเซ็นทรัล เล็งร่วมทุนโรงแรม-พลาซา(ฐานเศรษฐกิจ) - โตโยต้ารื้อโครงสร้างใหญ่จับคู่ตลาดลดต้นทุนผลิต โตโยต้า มอเตอร์ คอร์ปอเรชั่น ประกาศปรับโครงสร้างครั้งใหญ่ ลดขั้นตอนองค์กร เร่งการตัดสินใจให้รวดเร็วทันการแข่งขัน ยกระดับภาพลักษณ์องค์กร พร้อมจัดกลุ่มใหม่ในตลาดโลก หวังใช้ชิ้นส่วนร่วมกัน ลดต้นทุนการผลิต ด้านไทย เชื่อยังคงความสำคัญในเอเชียแปซิฟิกต่อไป(กรุงเทพธุรกิจ) ประเด็นการเมือง - รัฐอนุมัติสร้างเขื่อน"แม่วงก์"งบ1.3หมื่นล้าน คณะรัฐมนตรีอนุมัติสร้างเขื่อนแม่วงก์ใช้งบประมาณ 1.3 หมื่นล้านก่อสร้าง 8 ปี ครอบคลุมพื้นที่นครสวรรค์-กำแพงเพชร ชี้ป้องกันน้ำท่วมและน้ำแล้ง (กรุงเทพธุรกิจ) - ครม.เพิ่มแทบเล็ตล้านเครื่องส่งตรงเด็กป.1ทั่วประเทศมิ.ย. ครม.ไฟเขียวเปลี่ยนรูปแบบสัญญาใหม่แทบเล็ตเป็น เอ็มโอยู เพิ่มยอดจัดซื้อเป็น 1 ล้านเครื่องจากเดิม 8.5 แสนเครื่องคาดเด็กป.1 ได้ใช้เดือนมิ.ย.นี้ "สุรชาติ"ชี้เนื้อหาหลักสูตรสมบูรณ์แล้ว พร้อมสั่งการให้ สพฐ.เริ่มวางแผนจัดทำเนื้อหา ป.2 (กรุงเทพธุรกิจ) - รัฐสภาถกแก้รธน.วาระ2วุ่นปชป.โวย"คำแปรญัตติหาย" "รัฐสภา" ถกแก้รัฐธรรมนูญวาระ 2 ป่วนอีก จนประธานต้องสั่งพักการประชุมถึง 2 รอบ ปชป.จี้กรรมาธิการถอนร่าง หลังพบคำแปรญัตติหายอื้อ ขู่ยื่นตีความด้าน "สามารถ" แจงไม่ได้หาย โบ้ยฝ่ายธุรการทำผิดพลาด "เทพไท" ตั้งฉายา "รธน.รวบรัดเพื่อทักษิณ" (กรุงเทพธุรกิจ) - กกต.ยกคำร้อง"เรืองไกร"ค้านกรรมการสรรหาส.ว. นายภุชงค์ นุตราวงศ์ เลขาธิการคณะกรรมการการเลือกตั้ง (กกต.) แถลงภายหลังการประชุม กกต.เมื่อวานนี้ (10เม.ย.) ว่า กกต.มีมติยกคำร้องกรณีที่นายเรืองไกรลีกิจวัฒนะ อดีต ส.ว.สรรหา ร้องว่าคณะกรรมการสรรหา ส.ว.สรรหาไม่ชอบด้วยกฎหมาย เพราะนายมนตรี ศรีเอี่ยมสอาด ผู้พิพากษาอาวุโสในศาลฏีกา ซึ่งเป็นหนึ่งในคณะกรรมการสรรหา ส.ว.ไม่ได้เป็นผู้พิพากษาในศาลฏีกา ตามความหมายของรัฐธรรมนูญ มาตรา 113 (กรุงเทพธุรกิจ) INDUSTRY NEWS - ธนาคาร: มอเตอร์โชว์ดันยอดปีนี้เช่าซื้อทะลุเป้าทุกค่าย บริษัทลิสซิ่งเผยยอดจองรถป้ายแดงจากงานมอเตอร์โชว์หนุนสินเชื่อไตรมาส 2 สวนฤดูกาล โดยเฉพาะรถอีโคคาร์มาแรงสุด มั่นใจสินเชื่อทั้งปีโตเกินเป้า กรุงศรีเผยสินเชื่อโตเกินเป้ามากกว่า 300 ล้านบาท ด้านกสิกรไทยเผยได้ยอดสินเชื่อ 4,000 ล้านบาท (กรุงเทพธุรกิจ) - สื่อสาร: กสทช.แบ่งเค้กใบอนุญาต 3 จีเปิดทางรายย่อยชิง 9 ใบ-พร้อมประมูลคลื่น 1800 พ.อ.เศรษฐพงศ์ มะลิสุวรรณ กรรมการกิจการกระจายเสียง กิจการโทรทัศน์ และกิจการโทรคมนาคมแห่งชาติ (กสทช.) ในฐานะประธานคณะกรรมการกิจการโทรคมนาคม (กทค.) เปิดเผยว่า ที่ประชุมได้สรุปเบื้องต้นเกี่ยวกับแนวทางการเปิดประมูลใบอนุญาต (ไลเซ่นส์) 3จี บนคลื่นความถี่ย่าน 2.1 กิกะเฮิรตซ์ โดยได้มีข้อสรุปเบื้องต้นว่าภายในสิ้นเดือนเมษายนนี้จะทราบผลการดำเนินงานว่าจะใช้รูปแบบการประมูลคลื่นความถี่ที่มีจำนวน 45 เมกะเฮิรตซ์แบบใด(แนวหน้า) - ยานยนต์: โตโยต้ารื้อโครงสร้างใหญ่จับคู่ตลาดลดต้นทุนผลิต โตโยต้า มอเตอร์ คอร์ปอเรชั่น ประกาศปรับโครงสร้างครั้งใหญ่ ลดขั้นตอนองค์กร เร่งการตัดสินใจให้รวดเร็วทันการแข่งขัน ยกระดับภาพลักษณ์องค์กรพร้อมจัดกลุ่มใหม่ในตลาดโลก หวังใช้ชิ้นส่วนร่วมกัน ลดต้นทุนการผลิต ด้านไทย เชื่อยังคงความสำคัญในเอเชียแปซิฟิกต่อไป (กรุงเทพธุรกิจ) - ยานยนต์: ยืดเวลารื้อโครงสร้างภาษีรถ นายชลิตรัตน์ จันทรุเบกษา รองโฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรีเปิดเผยว่าคณะรัฐมนตรี (ครม.) เมื่อวันที่10 เม.ย. มีมติเห็นชอบขยายระยะเวลาการพิจารณาปรับโครงสร้างภาษีรถยนต์ออกไปเป็นเวลา 4 เดือน หรือสิ้นสุดวันที่ 15 ก.ค. 2555 โดยให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้องร่วมกันหาข้อสรุปที่ชัดเจนและเสนอ ครม.ต่อไป (โพสต์ทูเดย์) EXTERNAL FACTOR - DJIA ปิดลบ 213.66 จุด หรือ 1.65% ปิดที่ 12,715.93 จุด ดัชนี S&P500 ลดลง 23.61 จุด หรือ 1.71% ปิดที่ 1,358.59 จุด ดัชนี NASDAQ ลดลง 55.86 จุด หรือ 1.83% ปิดที่ 2,991.22 จุด ดัชนีดาวโจนส์ดิ่งลงกว่า 200 จุด เนื่องจากความวิตกกังวลเกี่ยวกับการชะลอตัวของเศรษฐกิจทั่วโลก หลังจากมีข้อมูลในด้านลบออกมาหลายระลอก รวมถึงตัวเลขจ้างงานนอกภาคเกษตรเดือนมี.ค.ของสหรัฐที่เพิ่มขึ้นเพียง 120,000 ตำแหน่งซึ่งน้อยกว่าคาดการณ์ของนักวิเคราะห์ส่วนใหญ่คาดว่าจะเพิ่มขึ้น 203,000 ตำแหน่ง และต่ำกว่าค่าเฉลี่ยในช่วง3 เดือนก่อนที่ 246,000 ตำแหน่ง ขณะที่อัตราว่างงานขยับลงเล็กน้อยสู่ระดับ 8.2% ในเดือนมี.ค. ซึ่งเป็นระดับต่ำสุดนับแต่เดือนม.ค.2552 ขณะที่สมาพันธ์ธุรกิจอิสระแห่งชาติของสหรัฐเปิดเผยว่า ดัชนีความเชื่อมั่นภาคธุรกิจขนาดเล็กของสหรัฐร่วงลงมาอยู่ที่ระดับ 92.5 จุดในเดือนมี.ค. จากเดือนก.พ.ที่ระดับ 94.3 จุด เนื่องจากภาคธุรกิจมีมุมมองที่เป็นลบมากขึ้นต่อแนวโน้มเศรษฐกิจภายในประเทศ ขณะเดียวกัน สำนักงานสถิติแห่งชาติของจีนรายงานว่า จีนมียอดเกินดุลการค้ามูลค่าสูงถึง 5.35 พันล้านดอลลาร์ในเดือนมี.ค. ซึ่งทำให้นักลงทุนกังวลว่าจีนซึ่งมีระบบเศรษฐกิจใหญ่เป็นอันดับ 2 ของโลกอาจจะเผชิญกับการชะลอตัวมากกว่าที่คาดการณ์ไว้ นอกจากนี้ตลาดยังได้รับแรงกดดันมากขึ้นเมื่อมีรายงานว่า อัตราผลตอบแทนพันธบัตรของสเปนและอิตาลีปรับตัวสูงขึ้นขณะที่นายเฟอร์นานเดซ ออร์โดเนซ ผู้ว่าการธนาคารกลางสเปนเตือนว่า อาจมีธนาคารหลายแห่งของสเปนที่จะต้องระดมทุนเพิ่ม ซึ่งข้อมูลดังกล่าวได้จุดปะทุให้เกิดความวิตกกังวลเกี่ยวกับการลุกลามของวิกฤตหนี้ยุโรป(สำนักข่าวอินโฟเควสท์) - ราคาน้ำมัน NYMEX ส่งมอบเดือน พ.ค. ลดลง USD1.44/bbl หรือ 1.41% อยู่ที่ระดับ USD101.02/bbl หลังจากสำนักงานสารสนเทศด้านพลังงานของรัฐบาลสหรัฐ (EIA) ปรับลดคาดการณ์ความต้องการน้ำมันทั่วโลกในปี 2555 และยังได้ปรับเพิ่มคาดการณ์ผลผลิตน้ำมันของประเทศนอกกลุ่มโอเปค ซึ่งรายงานดังกล่าวทำให้นักลงทุนวิตกกังวลเกี่ยวกับภาวะชะลอตัวของอุปสงค์พลังงาน นอกจากนี้ ตลาดยังได้รับแรงกดดันจากการคาดการณ์ที่ว่าสต็อกน้ำมันดิบประจำสัปดาห์ของสหรัฐจะพุ่งขึ้น (สำนักข่าวอินโฟเควสท์) - สัญญาทองคำ COMEX ส่งมอบเดือนมิ.ย. เพิ่มขึ้น USD16.8 หรือ 1% อยู่ที่ระดับ USD1,660.7/ounce เนื่องจากการร่วงลงอย่างหนักของตลาดหุ้นได้กระตุ้นให้นักลงทุนแห่เข้าซื้อทองคำซึ่งเป็นสินทรัพย์ที่ปลอดภัย ซึ่งช่วยหนุนสัญญาทองคำทะยานขึ้นแข็งแกร่งเกือบ 17 ดอลลาร์ (สำนักข่าวอินโฟเควสท์) - ดัชนีค่าระวางเรือ ไม่เปลี่ยนแปลง ที่ระดับ 928 จุด (สำนักข่าวอินโฟเควสท์) TODAY’S REPORTS - TOP: เราคาดว่ากำไรงวด 1Q55 จะออกมาแข็งแกร่งเราคาดว่า TOP จะรายงานกำไรสุทธิงวด 1Q55 อยู่ที่ 6.24 พันล้านบาท เติบโต 2.3 เท่า เมื่อเทียบเป็น QoQ แต่คาดว่าจะลดลง 13.7%YoY โดยประมาณการกำไรงวด 1Q55 คิดเป็น 36.9% ของประมาณการกำไรทั้งปี 55 ของเราที่ระดับ 16.9 พันล้านบาท ขณะที่ผลประกอบการงวด 2Q55 ของ TOP เราคาดว่าจะไม่แข็งแกร่งเท่ากับงวด1Q55 เนื่องจากเราคาดว่าราคาน้ำมันดิบงวด 2Q55 จะไม่ปรับตัวสูงขึ้นเท่ากับงวด 1Q55 แม้ธุรกิจการกลั่นจะแข็งแกร่งขึ้นเมื่อเทียบกับงวด 1Q55 ก็ตาม ทั้งนี้เรายังคงคำแนะนำ Buy ราคาพื้นฐาน 89 บาท - Banking Sector: เราคาดว่าผลประกอบการงวด 1Q55 จะออกมาดี ยังคงแนะนำ Overweightเรายังคงคำแนะนำ Overweight สำหรับกลุ่มธนาคารพาณิชย์ และยังคงคำแนะนำ Buy สำหรับ BAY (ราคาพื้นฐาน 32 บาท) และ KK (ราคาพื้นฐาน 44 บาท) โดยสัปดาห์หน้าจะเป็นช่วงประกาศผลประกอบการกลุ่มธนาคารพาณิชย์ ซึ่งเราคาดว่าผลประกอบการกลุ่มธนาคารพาณิชย์จะออกมาดี นอกจากนี้เรายังปรับราคาพื้นฐานของหุ้นในกลุ่มธนาคารพาณิชย์ขึ้นเฉลี่ย 12% (ยกเว้น TMB) ทั้งนี้เรามองว่าราคาหุ้นที่ปรับตัวลดลงมา ถือเป็นโอกาสที่ดีสำหรับการทยอยซื้อสะสมหุ้นในกลุ่มธนาคารพาณิชย์ (สำหรับกลุ่มธนาคารขนาดใหญ่ เราชอบSCB และ BBL มากกว่า KTB โดยหุ้นทั้ง 3 ตัว เราแนะนำ Outperform) ALTERNATIVE INVESTMENT STRATEGY พลอย ตั้งอุทัยสุข (ploy.t@kasikornsecurities.com; Tel +662 696-0056) Gold Futures: เราแนะนำ 2 กลยุทธ์ จากการวิเคราะห์ทางเทคนิค ราคาทองโลก (RTXGL) พยายามตั้งขึ้นมาจากแนวรับ โดยมีแนวต้านที่ $1,666,$1,669-1,670 และ $1,678-1,680 ทั้งนี้สถานการณ์จะเริ่มดีขึ้น ถ้าสามารถยืนเหนือ $1,680 ขณะที่แนวรับของการแกว่งอยู่ที่ $1,653 และ $1,640-1,636 ซึ่งถ้ารับไม่อยู่อาจถอยลงมาทดสอบที่ $1,627 หรือต่ำกว่านั้น สำหรับ Gold Futures (GFJ12) ทาง Technical ในระยะกลางพยายามยืนตั้งหลักขึ้นมาจากแนวรับ อย่างไรก็ตามวันนี้มีโอกาสที่จะแกว่ง โดยมีแนวรับที่ 24,140, 24,040 ซึ่งถ้ารับไม่อยู่มีโอกาสถอยลงมาตั้งหลักบริเวณ 23,950-23,900 สำหรับแนวต้านอยู่ที่ 24,380 และ 24,500 ซึ่งถ้าสามารถทะลุผ่านขึ้นไปได้ มีโอกาสขึ้นไปทดสอบ 24,700 หรือสูงกว่านั้น กลยุทธ์การลงทุน: 1) กรณี Long GFJ12 แนะนำให้ถือ Long เพื่อรอจังหวะขึ้นไปแบ่งทำกำไรที่ 24,380 และ 24,500 โดยใช้ 23,900 เป็น Stop loss (Day session) ขณะเดียวกัน ถ้าจะเปิด Long เพิ่ม ควรรอให้ทะลุ 24,850 ขึ้นไปให้ได้ก่อน 2) กรณี Short GFJ12 แนะนำให้รอดูจังหวะไปก่อน SET50 Futures: เราแนะนำ 2 กลยุทธ์ จากการวิเคราะห์ทางเทคนิค คือ S50M12 แกว่งลงมาและพยายามตั้งหลักขึ้นมาจากแนวรับบริเวณ 810-809 ทั้งนี้ถ้าสามารถรีบาวด์ทะลุผ่าน 825 ขึ้นไปได้ มีโอกาสขึ้นไปทดสอบบริเวณ 827-828 หรือสูงกว่านั้นที่ 838 อย่างไรก็ตาม ถ้าแกว่งลงต่อ และหลุด 810-809 ลงมา มีโอกาสถอยลงมาทดสอบที่ 803 หรือต่ำกว่านั้นที่ 793-792 โดยรวมแล้ว สถานการณ์เริ่มมีความเสี่ยงเพิ่มขึ้น กลยุทธ์การลงทุน : 1)กรณี Long ใน S50M12 แนะนำให้รอดูจังหวะต่อไปก่อน 2)กรณี Short ใน S50M12 แนะนำให้ถือ Short เพื่อรอจังหวะลงมาแบ่งทำกำไรส่วนหนึ่งที่แนวรับที่ให้ไว้ แต่ถ้ามีรีบาวด์เกิดขึ้น แนะนำให้ลดพอร์ตออกมาส่วนหนึ่งถ้าทะลุผ่าน 825 ขึ้นมาระหว่างวัน โดยใช้ 828 เป็น Stop (S50M12 มีแนวต้าน 825, 827-828 และ 838 แนวรับ 810-809, 803 และ 793-792) MARKET EVENT Thai Event - สัปดาห์ที่ 4 สภาอุตสาหกรรมแห่งประเทศไทย (ส.อ.ท.)แถลงดัชนีความเชื่อมั่นภาคอุตสาหกรรม,ยอดการผลิตและส่งออกรถยนต์ รถจักรยานยนต์และชิ้นส่วนยานยนต์ - สัปดาห์ที่ 4 สำนักงานเศรษฐกิจการคลัง (สศค.)รายงานภาวะเศรษฐกิจการคลัง - สัปดาห์ที่ 4 กรมธุรกิจพลังงานแถลงสถานการณ์การใช้พลังงานประจำเดือน - 27/04/12 สำนักงานเศรษฐกิจอุตสาหกรรม (สศอ.)แถลงดัชนีอุตสาหกรรมประจำเดือน - 30/04/12 ธนาคารแห่งประเทศไทย ธปท.)รายงานภาวะเศรษฐกิจไทยประจำเดือน World Event - 12/04/12 EU: Industrial Production - 12/04/12 US: International Trade* - 12/04/12 US: Jobless Claims* - 12/04/12 US: Producer Price Index* - 13/04/12 China: Real GDP* - 13/04/12 China: Industrial Production*- - 13/04/12 China: Retail Sales* - 13/04/12 US: Consumer Price Index* - 13/04/12 US: Consumer Sentiment - 16/04/12 US: Retail Sales* - 16/04/12 US: Empire State Mfg Survey - 16/04/12 US: Housing Market Index - 17/04/12 US: Housing Starts* - 17/04/12 US: Industrial Production* - 19/04/12 US: Jobless Claims* - 19/04/12 US: Existing Home Sales* - 19/04/12 US: Philadelphia Fed Survey* *Markets will pay more attention to these figures กวี ชูกิจเกษม Kavee.c@kasikornsecurities.com, +662 696-0030 กิจพล ไพรไพศาลกิจ Kitpon.p@kasikornsecurities.com +662 696-0057 ปณิธิ จิตรีโภชน์ Paniti.j@kasikornsecurities.com, +662 696-0053 โดย บริษัทหลักทรัพย์ กสิกรไทย จำกัด ประจำวันที่ 11 เม.ย. 2555