Daily View - บล.กสิกรไทย

Daily View - บล.กสิกรไทย

แชร์เรื่องนี้
แชร์เรื่องนี้LineTwitterFacebook

อาจมีเหวี่ยงบ้าง แต่ยังเล็งทดสอบ 1180-1190             ในระหว่างที่บ้านเราหยุดยาว ตลาดหุ้นโลกมีการเคลื่อนไหวช่วงแรกปรับขึ้นเนื่องมาจากความคาดหวังเชิงบวกต่อการเติบโตของ GDP 1Q55 ของจีนที่ตลาดคาดว่าอาจจะสูงถึง 9.0% อย่างไรก็ตามตลาดกลับมาผิดหวังหลังจีนรายงาน GDP ต่ำกว่าคาดที่เพียง 8.1% นอกจากนี้ความกังวลปัญหาหนี้สเปนกลับมาอีกครั้งโดยล่าสุดอัตราผลตอบแทนพันธบัตรปรับขึ้นไปเกือบ 6% ซึ่งสูงที่สุดในรอบ 4 เดือนในขณะที่สหรัฐฯ ตัวเลขเศรษฐกิจออกมาค่อนข้างผสมผสานทั้งตัวเลขที่ดีและแย่ปัจจัยที่ต้องจับตาได้แก่ การประชุมเพื่อหารือเรื่องการเพิ่มทุนของ IMF วันที่ 19 เม.ย./ การเลือกตั้งประธานาธิบดีฝรั่งเศสรอบแรก 22 เม.ย./ การประกาศผลประกอบการบริษัทจดทะเบียน ซึ่งจะเริ่มจากกลุ่มธนาคารพาณิชย์ในสัปดาห์นี้แม้ตลาดหุ้นโลกโดยรวมมีแนวโน้มเคลื่อนไหวออกไปทางแกว่งตัวเนื่องจากขาดปัจจัยกำหนดทิศทางที่ชัดเจน แต่เราอาจเริ่มเห็นการเคลื่อนไหวที่ “แยกทาง” กัน ระหว่างตลาดหุ้นของประเทศที่ปัจจัยพื้นฐานดี และตลาดหุ้นของประเทศที่กำลังประสบปัญหาเศรษฐกิจเช่น ยุโรป ทั้งนี้ด้วยความแข็งแกร่งของหุ้นไทยประกอบกับบริษัทจดทะเบียนหลายแห่งมีแนวโน้มรายงานผลประกอบการไตรมาสแรกที่แข็งแกร่ง เรายังคาดหวังการฟื้นตัวขึ้นทดสอบ 1180-1190 แม้อาจมีการแกว่งบ้างหรือเปิดลบในวันนี้ (เนื่องจากตลาดบ้านเราหยุดไปหลายวันทำการ)           กลยุทธ์การลงทุน: “ลงซื้อ-ขึ้นขาย” โดยมีเป้าหมายระยะสั้นที่ 1180-1190 เน้นหุ้นที่ลงมามากหรือผลประกอบการดี หุ้นแนะนำ TCAP ADVANC TOP PTTGC ทยอยสะสม RATCH การลงทุนช่วงนี้เน้นเก็งกำไร จึงขอให้นักลงทุนมีวินัยในการตั้ง Stop level อย่างเคร่งครัด           สำหรับนักลงทุนระยะกลาง ยังไม่ทำอะไรเพิ่มหลังเราแนะนำการเข้าซื้อ 25% ในระดับ1150+/- โดยเราจะเพิ่มน้ำหนักขึ้นสำหรับการปรับตัวลงสู่ 1100 และอาจแนะนำการเข้าซื้อเต็มที่ในระดับที่เราประเมินว่าเป็น downside ของ SET Index รอบนี้ที่ 1050 จุด   ปัจจัยสำคัญวันก่อนหน้า วันที่ 16 เมษายน 2555           - US: ยอดค้าปลีกเดือนมี.ค.55 เพิ่มขึ้น 0.8% สูงกว่าที่นักวิเคราะห์คาดว่าจะเพิ่มขึ้น 0.4% วันที่ 13 เมษายน 2555           - US: ดัชนีความเชื่อมั่นผู้บริโภคช่วงต้นเดือนเม.ย.55 ปรับตัวลดลงสู่ระดับ 75.7 จาก 76.2 ในเดือนมี.ค.55           - US: ดัชนีราคาผู้บริโภค (CPI) เดือนมี.ค.55 เพิ่มขึ้น 0.3% สอดคล้องกับคาดการณ์           - Spain: อัตราผลตอบแทนพันธบัตรรัฐบาลสเปนพุ่งสูงขึ้นกว่า 6% หลัง ธนาคารพาณิชย์ของสเปนกู้เงินจากธนาคารกลางยุโรป (ECB) มากเป็นประวัติการณ์ในเดือนมี.ค.55           - China: GDP ไตรมาสที่ 1/55 ขยายตัวที่ 8.1%YoY ลดลงจากไตรมาส 4/54 ที่ขยายตัว 8.9%YoY ซึ่งเป็นการขยายตัวที่อ่อนแอที่สุดในรอบเกือบ 3 ปี และต่ำกว่าที่ได้มีการคาดการณ์ไว้ที่ 8.3% วันที่ 12 เมษายน 2555           - US: จำนวนผู้ขอรับสวัสดิการว่างงานครั้งแรกในรอบสัปดาห์ที่สิ้นสุดวันที่ 7 เม.ย. เพิ่มขึ้น 13,000 ราย มาอยู่ที่ 380,000 ราย ซึ่งเป็นระดับสูงสุดนับตั้งแต่เดือนม.ค.55           - US: ยอดขาดดุลการค้าและบริการเดือนก.พ.55 ร่วงลง 12.4%MoM สู่ระดับ 4.603 หมื่นล้านดอลลาร์ ซึ่งเป็นการลดลงครั้งแรกในรอบ 4 เดือน เนื่องจากการส่งออกที่เพิ่มขึ้นโดยเฉพาะยานยนต์และชิ้นส่วน ขณะที่การนำเข้าลดลง   ปัจจัยสำคัญวันนี้           - EU: CPI, ZEW Survey (Econ. Sentiment)           - US: Housing Starts, Industrial Production   ปัจจัยสำคัญในช่วงที่เหลือของสัปดาห์นี้           - EU: Consumer Confidence วันที่ 19 เม.ย.           - US: Jobless Claims, Existing Home Sales, Philadelphia Fed Survey วันที่ 19 เม.ย.   สรุปตลาดต่างประเทศ:           DJIA+71.82/+0.56%           S&P-0.69/-0.05%           NASDAQ-22.93/-0.76%           FTSE+14.49/+0.26%           CAC+16.19/+0.51%          DAX+41.29/+0.63%           ดัชนี DJIA ปรับตัวขึ้น หลังจากกระทรวงพาณิชย์สหรัฐฯเปิดเผยว่า ยอดค้าปลีกเดือนมี.ค.ทะยานขึ้นเกินคาด ซึ่งข้อมูลดังกล่าวช่วยให้นักลงทุนมีความเชื่อมั่นต่อแนวโน้มเศรษฐกิจสหรัฐมากขึ้น และยังช่วยชดเชยปัจจัยลบที่เกิดจากแรงขายในหุ้นกลุ่มเทคโนโลยี   สรุปตลาด Commodity:           Oil USD102.93/bbl/+0.10           Gold USD1,649.7Once/-10.5           สัญญาน้ำมันดิบปรับตัวขึ้น เนื่องจากยอดค้าปลีกสหรัฐฯที่เพิ่มขึ้นเกินคาด ขณะที่สัญญาทองคำปรับตัวลงจากการแข็งค่าขึ้นของสกุลเงินดอลลาร์สหรัฐฯ เนื่องจากความกังวลเกี่ยวกับหนี้ยูโรโซน   ECONOMICS & POLITICS           -"4ปัจจัยเสี่ยง"ฉุดศก.ครึ่งปีแรก ห่วงฟองสบู่อสังหาฯจีน-ความตึงเครียดอิหร่าน-ชาติตะวันตกดันน้ำมันโลกพุ่ง แบงก์ชาติมองต่างมุมยันพื้นฐานยังแกร่ง เศรษฐกิจโตได้ แต่การเมืองต้องไม่สะดุด นักเศรษฐศาสตร์ประเมินเศรษฐกิจไทย ครึ่งปีแรกยังน่าห่วง เตือนเกาะติด 4 ปัจจัยเสี่ยง ตัวฉุดเศรษฐกิจ ด้านธปท.เชื่อเศรษฐกิจไตรมาสแรกฟื้นตัวดี เหตุการบริโภค-ลงทุนขยายตัว เตรียมประเมินการลงทุนภาครัฐระยะต่อไปหวังแรงหนุนเศรษฐกิจโตต่อเนื่อง โดยเฉพาะโครงการขนาดใหญ่ของภาครัฐ (กรุงเทพธุรกิจ)           - เอกชนวิตก"ศก.โลก-น้ำมัน"ตัวแปรฉุดส่งออกครึ่งปีหลัง เอกชนชี้ส่งออกไทยปีนี้ขยายตัว 10-15% ท่ามกลางปัจจัยเสี่ยงทั้งสถานการณ์เศรษฐกิจโลก-ราคาน้ำมันและต้นทุนที่เพิ่มขึ้นจากค่าแรง 300 บาท พาณิชย์มั่นใจครึ่งปีหลังกระเตื้อง แนะผู้ส่งออกลดพึ่งพาตลาดหลัก เร่งขยายตลาดใหม่ทดแทน (กรุงเทพธุรกิจ)           - "ค่าแรง-วัสดุก่อสร้าง"พุ่งอสังหาสุดอั้นจ่อขึ้นราคา อสังหาริมทรัพย์ครึ่งปีหลังจ่อปรับราคา เหตุค่าแรงพุ่ง-แรงงานขาด-วัสดุก่อสร้างแพง แต่คาดการเปิดตัวโครงการยังคึกคัก โดยเฉพาะ "คอนโด" แชมป์เปิดใหม่สัดส่วนกว่า 65% สูงสุดในรอบหลายปี รับผลดีพฤติกรรมลูกค้าหลังน้ำท่วมสนใจซื้อคอนโดเพิ่มขึ้น ชี้ปัจจัยวิกฤติแรงงานกระทบผู้ประกอบการขนาดกลาง-ย่อย ส่งผลอาจปิดตัวเพิ่ม แต่กลับเปิดช่องรายใหญ่รวบตลาด ด้านนายแบงก์ประเมินสินเชื่อบ้านส่อเค้าชะลอตัว เหตุราคาอสังหาฯ ปรับขึ้น คาดทั้งปีเติบโตเพียง 7% (กรุงเทพธุรกิจ)           - สรรพากรเล็งยกเครื่องระบบไอที เร่งปั๊มรายได้ คาดปีนี้เกินเป้า 20% หวังจัดเก็บภาษีนิติบุคคลเหลือ 15% บุคคลธรรมดา 20% ยกระดับการแข่งขันเปิดเสรีอาเซียน อธิบดีสรรพากรเร่งปั๊มรายได้ เตรียมลงทุนทั้งระบบไอทีและกำลังคน ฝันนิติบุคคลจะลดเหลือ 15% ส่วนบุคคลธรรมดาเหลือ 20% พร้อมเชื่อรายได้รวมจะเพิ่มเท่าตัวในเร็วๆ นี้ ขณะที่ เล็งใช้โมเดลการจัดเก็บภาษีจากประเทศเกาหลี เพื่อลดปัญหาการหลีกเลี่ยงภาษี (กรุงเทพธุรกิจ)           - ไทยพาณิชย์ปักธงจีน-อินเดีย ปั้นแบรนด์สู่ตลาดภูมิภาค มอง"ยุโรป-สหรัฐ"ยังไม่น่าลงทุน "วิชิต"ลั่นปีนี้เป็นปีแห่งการลงทุนทั้งระบบและคนก่อนจะเริ่มเก็บเกี่ยวในอีก 3 ปีข้างหน้า ไทยพาณิชย์เร่งสร้างแบนด์ในภูมิภาค ปักธงจีน-อินเดียและอาเซียนเป็นยุทธศาสตร์หลักในการขยายธุรกิจ รับโมเดลธุรกิจเปิดกว้างขึ้นกับความเหมาะสมของแต่ละประเทศ เผยอยู่ระหว่างฟอร์มทีมรุกธุรกิจ เผยปีนี้เป็นปีแห่งการลงทุนเสริมสร้างความ แข็งแกร่ง (กรุงเทพธุรกิจ)           - ศก.ไทยยังแกร่ง'มูดี้ส์'คงเครดิต "มูดี้ส์" คงแนวโน้มเครดิตไทยมีเสถียรภาพ ชูเศรษฐกิจและฐานะการคลังแข็งแกร่ง มูดี้ส์ อินเวสเตอร์ เซอร์วิสสถาบันจัดอันดับความน่าเชื่อถือระหว่างประเทศ ประกาศคงแนวโน้มอันดับความน่าเชื่อถือที่ Baa1 ของพันธบัตรรัฐบาลไทย สกุลเงินบาท และสกุลเงินต่างประเทศ อยู่ที่ระดับ "มีเสถียรภาพ" (โพสต์ทูเดย์)           - สัญญาณหนี้ครัวเรือนพุ่งยอดกดเงินสดบัตรเครดิตเพิ่มแต่กลับใช้จ่ายซื้อสินค้าลดลง สัญญาณหนี้สินส่วนบุคคลพุ่ง ธปท.เผยยอดกดเงินสดล่วงหน้าผ่านบัตรเครดิตในเดือนก.พ. เพิ่ม 27.72% ธนาคารแห่งประเทศไทย(ธปท.) รายงานยอดการใช้บริการบัตรเครดิตทั้งระบบ ณ เดือน ก.พ.ปีนี้ พบว่าการถอนเงินสดล่วงหน้าจากบัตรเครดิตของประชาชนเพื่อนำไปใช้จ่ายสูงขึ้นมาก มีการเบิกเงินสดล่วงหน้าผ่านบัตรเครดิต 1.24 หมื่นล้าน บาทเพิ่มขึ้นถึง 2,701 ล้านบาท หรือ 27.72% ส่งสัญญาณว่าประชาชนส่วนหนึ่งน่าจะขาดสภาพคล่องหรือเงินขาดมือว่างงาน หรือมีค่าใช้จ่ายเพิ่มขึ้นหลังน้ำท่วมและเงินเฟ้อสูง (โพสต์ทูเดย์)           - ชงครม.อุ้มเอสเอ็มอีปูยันประชานิยมเลิศ คลังเข็นมาตรการอุ้มเอสเอ็มอีที่ได้รับผลกระทบจากค่าจ้างวันละ 300 บาท เข้า ครม. นายอารีพงศ์ ภู่ชอุ่ม ปลัดกระทรวงการคลัง เปิดเผยว่า ได้เสนอมาตรการช่วยเหลือผู้ประกอบการเอสเอ็มอีที่ได้รับผลกระทบจากปัญหาการปรับขึ้นค่าจ้าง 300 บาท ให้นายกิตติรัตน์ ณ ระนองรองนายกรัฐมนตรีและ รมว.คลังนำเสนอให้คณะรัฐมนตรี (ครม.)พิจารณาต่อไป (โพสต์ทูเดย์)           - แฮลเซี่ยนงานทะลักอัดงบซื้อเครื่องเพิ่ม "แฮลเซี่ยน" อัดงบ 100 ล้านบาท ซื้อเครื่องจักรรับออร์เดอร์ทะลัก ดันกำลังผลิตเพิ่ม 25% ไตรมาสแรกโตต่อเนื่อง นายพีท ริมชลา กรรมการผู้จัดการ บริษัท แฮลเซี่ยน เทคโนโลยี่(ประเทศไทย) (HTECH) เปิดเผยว่า บริษัทใช้งบลงทุนปีนี้ 100 ล้านบาท ซื้อเครื่องจักรใหม่15 เครื่องเพื่อซื้อเครื่องจักรใหม่รวมจำนวน 15 เครื่องแบ่งเป็นส่วนของHTECH จำนวน 8 เครื่องรวมอุปกรณ์มูลค่า 75 ล้านบาทและส่วนของบริษัทย่อยที่ประเทศฟิลิปปินส์ Halcyon Technology (Philippines) ลงทุนซื้อเครื่องจักรเพิ่ม 7 เครื่องมูลค่า 25 ล้านบาท (โพสต์ทูเดย์)           - กองทุนฟื้นฟูฯใกล้ถังแตก ขายหุ้น KTB ออก 5% หาเงินโปะหนี้ กองทุนฟื้นฟูฯ ประกาศขายหุ้นกรุงไทย 5%หาเงินแสนล้านโปะหนี้ ยันไม่โอนหุ้นให้คลังตามแผนเดิม เก็บไว้หาเงินจ่ายดอก FIDF ด้านอภิศักดิ์เล็งปรับเพิ่มเป้าสินเชื่อ ออกหุ้นกู้ 3.1 แสนล้านบาท รองรับการขยายตัวธุรกิจ คาดกำไรทั้งปีแตะ 2.3 หมื่นล้านบาท เติบโต 35% (ข่าวหุ้น)           - ปตท.ใกล้จบดีลลงทุนไฟฟ้าพม่า ทุ่มงบ9หมื่นล้านลงทุนตปท.เพิ่ม ปตท. เตรียมสรุปดีลร่วมทุนโรงไฟฟ้าถ่านหินพม่า มั่นใจหนุนศักยภาพขยายธุรกิจพลังงาน พร้อมทุ่มงบ 5 ปี 9 หมื่นล้านบาท สั่ง “พีทีที อินเตอร์ฯ” ลุยลงทุนต่างประเทศเพิ่ม (ข่าวหุ้น)           - บีโอไอนำเอกชนดูลู่ทางเชื่อ4ธุรกิจรุ่งลงทุนพม่า นางหิรัญญา สุจินัย ที่ปรึกษาด้านการลงทุน สำนักงานคณะกรรมการส่งเสริมการลงทุน (บีโอไอ) เปิดเผยว่า บีโอไอจะจัดกิจกรรมพาคณะนักลงทุนไทยเยือนสหภาพพม่า ณ กรุงย่างกุ้ง ทวาย และมะริด ระหว่างวันที่ 28 พฤษภาคมถึง 1 มิถุนายน 2555 เพื่อศึกษาลู่ทางการขยายธุรกิจและโอกาสการลงทุนร่วมกับนักธุรกิจพม่า สมาพันธ์การค้าและอุตสาหกรรมแห่งสหภาพพม่า สภา หอการค้าของสหภาพพม่า โดยจะวิเคราะห์ถึงโอกาสในกลุ่มอุตสาหกรรมที่นักลงทุนไทยจะเข้าไปลงทุน และจะมีกิจกรรมจับคู่ธุรกิจการค้าร่วมกัน (มติชน)   ประเด็นการเมือง           - ดันก.ม.นิรโทษในนาม"เพื่อไทย"เสนาะชี้ยึดโมเดลกมธ.เสร็จปีนี้ "เสนาะ"ลั่นเร่งออกกฎหมายนิรโทษกรรมในนามเพื่อไทยเสร็จปีนี้ ยึดโมเดล กมธ.ปรองดอง แนะ "ทักษิณ" แลกหลุดคดีไม่ต้องเอา 4.6 หมื่นล้านคืน บี้โละรธน.50 ชี้อำนาจองค์กรอิสระล้นฟ้า "พานทองแท้" ขอบคุณ "ฮุนเซน-เสื้อแดง" "ยิ่งลักษณ์" ปัดตอบพี่ชายกลับไทยปีนี้ "บิ๊กบัง" เตือนพท.ดันกฎหมายปรองดองต้องระวังจัดแย้งเพิ่ม (กรุงเทพธุรกิจ)           - นายกฯขันนอตงบน้ำท่วม การประชุมคณะกรรมการบริหารจัดการน้ำและอุทกภัย(กบอ.) วันที่ 16 เม.ย.ที่ผ่านมา น.ส.ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร นายกรัฐมนตรี ได้กำชับทุกหน่วยงานให้เร่งติดตามความคืบหน้าโครงการต่างๆโดยเฉพาะโครงการเร่งด่วนที่ใช้งบประมาณ 1.2 แสนล้านบาทซึ่งยังเบิกจ่ายเงินในส่วนของการก่อสร้างได้ไม่มาก(โพสต์ทูเดย์)           - ชงครม.อุ้มเอสเอ็มอีปูยันประชานิยมเลิศ นายอารีพงศ์ ภู่ชอุ่ม ปลัดกระทรวงการคลัง เปิดเผยว่า ได้เสนอมาตรการช่วยเหลือผู้ประกอบการเอสเอ็มอีที่ได้รับผลกระทบจากปัญหาการปรับขึ้นค่าจ้าง 300 บาท ให้นายกิตติรัตน์ ณ ระนองรองนายกรัฐมนตรีและ รมว.คลังนำเสนอให้คณะรัฐมนตรี (ครม.)พิจารณาต่อไป (โพสต์ทูเดย์)   INDUSTRY NEWS           - อสังหาริมทรัพย์: บ้านหลังแรกหงอย5ด.แค่3พันล. ชี้ราคาต่ำล้านพร้อมโอนน้อยธอส.ลุ้นต่อเวลาหลังสิ้นก.ย.ยอดบ้านหลังแรก 5 เดือน แค่ 3 พันล้าน จากงบที่ตั้ง 2 หมื่นล้าน 'ธอส.'ชี้บ้านต่ำกว่าล้านพร้อมโอนน้อย คาดยืดเวลาหลังสิ้นสุดโครงการ ก.ย.นี้ เอกชนหนุนขยายเกณฑ์เป็น 2 ล้าน (มติชน)           - หลักทรัพย์: โบรกเกอร์ฟันกำไรไตรมาสแรกกว่า 1 พันล้านบาท รับตลาดหุ้นไทยพุ่ง 171 จุด หรือ 16.72% ดันวอลุ่มเทรดต่อวันสูงถึง 3 หมื่นล้านบาท เฉพาะกำไรจากพอร์ตลงทุนสูงถึง 800 ล้านบาท สมาคมบริษัทหลักทรัพย์เผยอัตราค่าคอมมิชชั่นเดือน ก.พ. 2555 ปรับสูงขึ้นเล็กน้อย ขณะที่เฉลี่ย 2 เดือนแรกของปีเท่ากันอยู่ที่ 0.16% (กรุงเทพธุรกิจ)           - โรงแรม: ทีเอชเอ มึน สคบ.ไล่ตรวจค่าบริการไม่เป็นธรรม เริ่มพ.ค.นี้ แนะรัฐไปกวดขันอพาร์ตเมนต์เช่ารายวันโรงแรมไร้ใบอนุญาตเปิดแข่ง นายสุรพงษ์ เตชะหรูวิจิตร นายกสมาคมโรงแรมไทย (ทีเอชเอ)เปิดเผยว่า ตามที่สำนักงานคณะกรรมการคุ้มครองผู้บริโภค (สคบ.)เตรียมส่งเจ้าหน้าที่ซุ่มตรวจสอบคุณภาพสินค้าและการบริการของผู้ประกอบการโรงแรมทั่วประเทศในเดือน พ.ค.นี้ เรื่องนี้ต้องดูว่าสคบ.ต้องการทำเพื่ออะไร (โพสต์ทูเดย์)   EXTERNAL FACTOR   คืนวันจันทร์ที่ 16 เมษายน 2555           - DJIA ปิดบวก 71.82 จุด หรือ 0.56% ปิดที่ 12,291.41 จุด ดัชนี S&P500 ลดลง 0.69 จุด หรือ 0.05% ปิดที่ 1,369.57 จุด ดัชนี NASDAQ ลดลง 22.93 จุด หรือ 0.76% ปิดที่ 2,988.40 จุด ตลาดหุ้นสหรัฐฯปรับตัวขึ้น หลังจากกระทรวงพาณิชย์สหรัฐรายงานว่า ยอดค้าปลีกเดือนมี.ค.พุ่งขึ้น 0.8% มากกว่าที่นักวิเคราะห์ส่วนใหญ่คาดการณ์ไว้ว่าจะขยับขึ้นเพียง 0.4% สะท้อนให้เห็นว่าผู้บริโภคของสหรัฐยังคงจับจ่ายใช้สอยแม้ว่าราคาน้ำมันเบนซินและต้นทุนการผลิตปรับตัวสูงขึ้นก็ตาม อย่างไรก็ตาม ดัชนีดาวโจนส์ปรับตัวขึ้นในกรอบที่จำกัด ขณะที่ดัชนี S&P 500 และดัชนี Nasdaq ปิดในแดนลบ เนื่องจากนักลงทุนยังคงมีความกังวลว่าเศรษฐกิจจีนอาจกำลังเข้าสู่ภาวะชะลอตัวอย่างรวดเร็วและรุนแรง (hard landing) มากกว่าชะลอตัวอย่างค่อยเป็นค่อยไป(soft-landing) ประกอบกับความกังวลว่าประเทศสเปนอาจจะสร้างวิกฤตหนี้ยุโรปให้กลับมาอีกครั้ง หลังจากอัตราผลตอบแทนพันธบัตรรัฐบาลสเปนพุ่งสูงขึ้นกว่า 6% (สำนักข่าวอินโฟเควสท์)           - ราคาน้ำมัน NYMEX ส่งมอบเดือน พ.ค. เพิ่มขึ้น USD0.1/bbl หรือ 0.1% อยู่ที่ระดับ USD102.93/bbl เนื่องจากได้แรงหนุนจากรายงานยอดค้าปลีกที่พุ่งขึ้นเกินคาดของสหรัฐ อย่างไรก็ตาม สัญญาน้ำมันดิบ WTI ขยับขึ้นเพียงเล็กน้อยหลังจากมีสัญญาณบ่งชี้ในด้านบวกของการเจรจาประเด็นนิวเคลียร์ของอิหร่าน (สำนักข่าวอินโฟเควสท์)           - สัญญาทองคำ COMEX ส่งมอบเดือน มิ.ย. ลดลง USD10.5 หรือ 0.6% อยู่ที่ระดับ USD1,649.7/ounceเนื่องจากนักลงทุนวิตกกังวลเกี่ยวกับปัญหาหนี้ยูโรโซน นอกจากนี้ การแข็งค่าของสกุลเงินดอลลาร์สหรัฐยังส่งผลให้สัญญาทองคำมีความน่าดึงดูดใจน้อยลงด้วย (สำนักข่าวอินโฟเควสท์)           - ดัชนีค่าระวางเรือ เพิ่มขึ้น 4 จุด หรือ 0.31% อยู่ที่ระดับ 975 จุด (สำนักข่าวอินโฟเควสท์) คืนวันศุกร์ที่ 13 เมษายน 2555           - DJIA ปิดลบ 136.99 จุด หรือ 1.05% ปิดที่ 12,849.59 จุด ดัชนี S&P500 ลดลง 17.31 จุด หรือ 1.25% ปิดที่ 1,370.26 จุด ดัชนี NASDAQ ลดลง 44.22 จุด หรือ 1.45% ปิดที่ 3,011.33 จุด ตลาดหุ้นสหรัฐฯได้รับแรงกดดันหลังจาก สำนักงานสถิติแห่งชาติของจีนเปิดเผยวานนี้ว่า ผลิตภัณฑ์มวลรวมภายในประเทศ(GDP) ไตรมาสแรกปีนี้ ขยายตัวที่ระดับ 8.1% เมื่อเทียบเป็นรายปี ซึ่งชะลอตัวลงจากระดับ 8.9% ในไตรมาส 4 ปีที่แล้ว และเป็นอัตราการขยายตัวที่อ่อนแอที่สุดในรอบเกือบ 3 ปี และต่ำกว่าที่ได้มีการคาดการณ์ไว้ที่ 8.3% สะท้อนให้เห็นว่าเศรษฐกิจจีนอาจกำลังเข้าสู่ภาวะชะลอตัวอย่างรวดเร็วและรุนแรง (hard landing) มากกว่าชะลอตัวอย่างค่อยเป็นค่อยไป (soft-landing) ตามที่นักเศรษฐศาสตร์ส่วนหนึ่งคาดการณ์ ขณะเดียวกันวิกฤตหนี้ยุโรปได้ถูกจุดปะทุขึ้นอีกครั้ง เมื่ออัตราผลตอบแทนพันธบัตรรัฐบาลสเปนพุ่งสูงขึ้นกว่า 6% หลังจากที่มีรายงานว่า ธนาคารพาณิชย์ของสเปนกู้เงินจากธนาคารกลางยุโรป (ECB) มากเป็นประวัติการณ์ในเดือนมี.ค. นอกจากนี้ผลผลิตภาคอุตสาหกรรมของอิตาลีในเดือนก.พ.ก็ปรับตัวลดลงโดยไม่คาดหมาย ซึ่งได้สร้างความหวาดหวั่นเกี่ยวกับสภาพเศรษฐกิจของประเทศ นอกจากนี้ แม้กระทรวงแรงงานสหรัฐฯจะเปิดเผย ดัชนีราคาผู้บริโภคเดือนมี.ค. เพิ่มขึ้น 0.3% สอดคล้องกับคาดการณ์ แต่รอยเตอร์/มหาวิทยาลัยมิชิแกนเปิดเผยว่า ดัชนีความเชื่อมั่นผู้บริโภคช่วงต้นเดือนเม.ย. ปรับตัวลดลงสู่ระดับ 75.7 จาก 76.2 ในเดือนมี.ค.เนื่องจากการจ้างงานที่ชะลอตัวตลอดจนราคาน้ำมันเบนซินที่อยู่ในระดับสูงได้ส่งผลกระทบต่อการใช้จ่ายภาคครัวเรือน ซึ่งเป็นการส่งสัญญาณลบต่อการฟื้นตัวของเศรษฐกิจสหรัฐ (สำนักข่าวอินโฟเควสท์)           - ราคาน้ำมัน NYMEX ส่งมอบเดือน พ.ค. ลดลง USD0.81/bbl หรือ 0.78% อยู่ที่ระดับ USD102.83/bblเนื่องจากอัตราขยายตัวทางเศรษฐกิจของจีนที่ออกมาต่ำกว่าคาดการณ์ รวมถึงความวิตกเรื่องหนี้ยุโรปที่ถูกจุดปะทุขึ้นอีกครั้ง (สำนักข่าวอินโฟเควสท์)           - สัญญาทองคำ COMEX ส่งมอบเดือน มิ.ย. ลดลง USD20.4 หรือ 1.2% อยู่ที่ระดับ USD1,660.2/ounceเนื่องจากเศรษฐกิจจีนที่ชะลอตัวลงเกินคาดในไตรมาสแรกได้สร้างความกังวลให้กับนักลงทุนเกี่ยวกับอุปสงค์ทองคำของจีน ซึ่งเป็นผู้ซื้อทองคำรายใหญ่อันดับสองของโลกม (สำนักข่าวอินโฟเควสท์)           - ดัชนีค่าระวางเรือ เพิ่มขึ้น 12 จุด หรือ 1.25% อยู่ที่ระดับ 972 จุด (สำนักข่าวอินโฟเควสท์) คืนวันพฤหัสบดีที่ 12 เมษายน 2555           - DJIA ปิดบวก 181.91 จุด หรือ 1.41% ปิดที่ 12,986.58 จุด ดัชนี S&P500 เพิ่มขึ้น 18.86 จุด หรือ1.38% ปิดที่ 1,387.57 จุด ดัชนี NASDAQ เพิ่มขึ้น 39.09 จุด หรือ 1.30% ปิดที่ 3,055.55 จุด ตลาดหุ้นสหรัฐฯทะยานขึ้นหลังจากนางเจเน็ท เยลเลน รองประธานธนาคารกลางสหรัฐ (FED) และนายวิลเลียม ดั๊ดลีย์ผู้ว่าการเฟดสาขานิวยอร์ก ส่งสัญญาณว่าเฟดจะยังคงตรึงอัตราดอกเบี้ยไว้ที่ระดับต่ำ เพื่อกระตุ้นการฟื้นตัวของเศรษฐกิจ นางเยลเลนได้กล่าวปกป้องนโยบายอัตราดอกเบี้ยต่ำของเฟด โดยกล่าวว่านโยบายการเงินแบบผ่อนคลายเป็นพิเศษของเฟดเป็นสิ่งที่เหมาะสมแล้ว เมื่อพิจารณาจากอัตราว่างงานที่ระดับสูงและภาวะเศรษฐกิจที่กำลังเผชิญกับอุปสรรคท้าทาย พร้อมกับส่งสัญญาณว่าเฟดจะตรึงอัตราดอกเบี้ยระยะสั้น (Fed Fund Rates) ไว้ที่ระดับใกล้ 0% ต่อไปจนถึงปลายปี 2557 เป็นอย่างน้อย ทั้งนี้ ถ้อยแถลงของเจ้าหน้าที่ระดับสูงของเฟดช่วยหนุนตลาดหุ้นสหรัฐฯดีดตัวขึ้น และสามารถชดเชยปัจจัยลบจากรายงานของกระทรวงแรงงานสหรัฐที่ระบุว่า จำนวนผู้ขอรับสวัสดิการว่างงานครั้งแรกในรอบสัปดาห์ที่สิ้นสุดวันที่ 7 เม.ย. เพิ่มขึ้น 13,000 ราย มาอยู่ที่ 380,000 รายซึ่งเป็นระดับสูงสุดนับตั้งแต่เดือนม.ค.2555 นอกจากนี้ ตลาดหุ้นสหรัฐฯยังได้แรงหนุนจากรายงานที่ว่า ยอดขาดดุลการค้าและบริการของสหรัฐในเดือนก.พ. ร่วงลง 12.4% จากเดือนม.ค. สู่ระดับ 4.603 หมื่นล้านดอลลาร์ ซึ่งเป็นการลดลงครั้งแรกในรอบ 4 เดือน เนื่องจากการส่งออกที่เพิ่มขึ้น โดยเฉพาะยานยนต์และชิ้นส่วน ขณะที่การ นำเข้าลดลง (สำนักข่าวอินโฟเควสท์)   TODAY’S REPORTS           - PTTEP: เราคาดว่ากำไรงวด 1Q55 จะดีขึ้น QoQ และ YoY เราคาดว่า PTTEP จะรายงานกำไรสุทธิงวด 1Q55 ที่ 16.1 พันล้านบาท (+7%QoQ, +47%YoY) หรือ 520 ล้านเหรียญสหรัฐฯ (+8%QoQ, +45%YoY) เนื่องจากยอดขายที่เพิ่มขึ้น 2.5%QoQ (ลดลง 5%YoY เนื่องจากสิ้นสุดสัญญาขายก๊าซที่หลุมอาทิตย์เหนือ) ขณะที่ราคาขายเฉลี่ยเพิ่มขึ้น 3%QoQ และ 28%YoY มาอยู่ที่ 63 เหรียญ สหรัฐฯ/บาร์เรล นอกจากนี้เรายังคาดว่า PTTEP จะมีกำไรพิเศษจากอัตราแลกเปลี่ยนในงวด 1Q55 สูงเป็นประวัติการณ์ที่ 30 ล้านเหรียญสหรัฐฯ จากผลการดำเนินงานของ KKD หลังจากค่าเงินดอลลาร์สหรัฐฯอ่อนค่าลงเมื่อเทียบกับค่าเงินแคนาเดียนดอลลาร์ ทั้งนี้ มีความเป็นไปได้ที่เราจะปรับประมาณการผลประกอบการของปี 55 ขึ้น โดย PTTEP จะรายงานผลประกอบการวันที่ 25 เม.ย.55 (Analyst Meeting วันที่ 14 พ.ค.55) เรายังคงคำแนะนำ Neutral ราคาพื้นฐาน 180 บาท           - IRPC: เราคาดว่ากำไรสุทธิงวด 1Q55 จะอยู่ที่ 1.32 พันล้านบาทเราคาดว่า IRPC จะรายงานกำไรสุทธิงวด 1Q55 ที่ 1.32 พันล้านบาท เพิ่มขึ้น 169%QoQ เนื่องจากงวด 1Q55 ไม่มีการหยุดซ่อมบำรุงโรงงานเหมือนกับในงวด 4Q54 ขณะเดียวกันเมื่อเปรียบเทียบเป็น YoY พบว่าผลประกอบการงวดนี้จะลดลง 62.1%YoY ทั้งนี้เราคาดว่า IRPC จะมีกำไรจากสต๊อค 1-2 เหรียญสหรัฐฯ/บาร์เรล ต่ำกว่าคู่แข่งที่คาดว่าจะมีกำไร 4-5 เหรียญสหรัฐฯ/บาร์เรล ขณะที่ธุรกิจปิโตรเคมีของ IRPC เราคาดว่าจะปรับตัวดีขึ้นไม่มากนัก สำหรับโครงการ Propylene ของ IRPC คาดว่าจะเพิ่มกำลังการผลิตราว 100 ktpa โดยจะมีการทดสอบเครื่องจักรในเดือนมิ.ย.55 และจะเริ่มดำเนินงานเชิงพาณิชย์ได้ในช่วง 3Q55 นอกจากนี้เราคาดว่าโครงการดังกล่าวจะสร้าง EBIT ราว 25 ล้านเหรียญสหรัฐฯ/ปี คิดเป็น 5% ของประมาณการ EBIT ปี 55 ที่ 11.8 พันล้านบาท หรือ 394 ล้านเหรียญสหรัฐฯ เรายังคงคำแนะนำ Buy ราคาพื้นฐาน 6.25 บาท   ALTERNATIVE INVESTMENT STRATEGY   พลอย ตั้งอุทัยสุข (ploy.t@kasikornsecurities.com; Tel +662 696-0056)   Gold Futures: เราแนะนำ 2 กลยุทธ์           จากการวิเคราะห์ทางเทคนิค ราคาทองโลก (RTXGL) ยังไม่สามารถทะลุผ่านแนวต้านที่ $1,666 โดยถ้าหลุด $1,653 ระหว่างวันลงมา มีโอกาสถอยลงมาทดสอบบริเวณ $1,640-1,636 หรือ $1,627 หรือต่ำกว่านั้น อย่างไรก็ตาม ถ้าสามารถทะลุผ่าน $1,666 ได้ จะมีแนวต้านต่อไปที่ $1,669-1,670 และ $1,678-1,680 ทั้งนี้สถานการณ์จะดูดีขึ้นถ้าสามารถยืนได้เหนือ $1,680           สำหรับ Gold Futures (GFJ12) ทาง Technical แกว่งลงมา โดยมีแนวรับของการแกว่งบริเวณ 24,280-24,260 โดยถ้ายืนไม่อยู่ มีโอกาสถอยลงมาทดสอบแนวรับที่ 24,220 หรือ 24,140 อย่างไรก็ตามถ้าสามารถทะลุผ่าน 24,450-24,500 ได้ มีโอกาสขึ้นไปทดสอบแนวต้านที่ 24,700   กลยุทธ์การลงทุน:           1) กรณี Long GFJ12 แนะนำให้ถือ Long เพื่อรอจังหวะขึ้นไปแบ่งทำกำไรที่แนวต้าน โดยใช้ 24,260 เป็น Stop loss (Day session)           2) กรณี Short GFJ12 แนะนำให้รอดูจังหวะไปก่อน   SET50 Futures: เราแนะนำ 2 กลยุทธ์           จากการวิเคราะห์ทางเทคนิค คือ S50M12 พยายามยืนตั้งหลักขึ้นมา โดยมีแนวต้านที่ 819-820 (ปรับจาก 817-818)ซึ่งถ้าสามารถทะลุขึ้นไปได้ มีโอกาสขึ้นไปทดสอบแนวต้านที่ 822 และ 825 หรือสูงกว่านั้น อย่างไรก็ตามถ้าหลุด812 ลงมา มีโอกาสถอยลงมาตั้งหลักบริเวณ 805-803 หรือต่ำกว่านั้นที่ 793-792สำหรับภาพรวมปัจจุบันยังคงมีความเสี่ยงอยู่   กลยุทธ์การลงทุน :           1)กรณี Long ใน S50M12 แนะนำให้รอดูจังหวะต่อไปก่อน           2)กรณี Short ใน S50M12 แนะนำให้ถือ Short เพื่อรอจังหวะลงมาแบ่งทำกำไรส่วนหนึ่งที่แนวรับที่ให้ไว้ แต่ถ้ามีรีบาวด์เกิดขึ้น แนะนำให้ลดพอร์ตออกมาส่วนหนึ่งถ้าทะลุผ่าน 818 และ 822 ขึ้นมาระหว่างวัน โดยใช้ 822 เป็น Stop (S50M12 มีแนวต้าน 819-820, 822 และ 825 แนวรับ 812, 805-803 และ 793-792)   MARKET EVENT   Thai Event           - สัปดาห์ที่ 4 สภาอุตสาหกรรมแห่งประเทศไทย (ส.อ.ท.)แถลงดัชนีความเชื่อมั่นภาคอุตสาหกรรม,ยอดการผลิตและส่งออกรถยนต์ รถจักรยานยนต์และชิ้นส่วนยานยนต์           - สัปดาห์ที่ 4 สำนักงานเศรษฐกิจการคลัง (สศค.)รายงานภาวะเศรษฐกิจการคลัง           - สัปดาห์ที่ 4 กรมธุรกิจพลังงานแถลงสถานการณ์การใช้พลังงานประจำเดือน           - 27/04/12 สำนักงานเศรษฐกิจอุตสาหกรรม (สศอ.)แถลงดัชนีอุตสาหกรรมประจำเดือน           - 30/04/12 ธนาคารแห่งประเทศไทย ธปท.)รายงานภาวะเศรษฐกิจไทยประจำเดือน   World Event           - 17/04/12 EU: CPI*           - 17/04/12 EU: ZEW Survey (Econ. Sentiment)*           - 17/04/12 US: Housing Starts*           - 17/04/12 US: Industrial Production*           - 19/04/12 EU: Consumer Confidence*           - 19/04/12 US: Jobless Claims*           - 19/04/12 US: Existing Home Sales*           - 19/04/12 US: Philadelphia Fed Survey*           - 24/04/12 US: S&P Case-Shiller HPI           - 24/04/12 US: New Home Sales*           - 24/04/12 US: Consumer Confidence           - 25/04/12 US: Durable Goods Orders*           - 25/04/12 US: FOMC Meeting Announcement and FOMC Forecasts*           - 26/04/12 US: Jobless Claims*           - 26/04/12 US: Pending Home Sales Index           - 27/04/12 US: GDP*           - 27/04/12 US: Consumer Sentiment           *Markets will pay more attention to these figures               กวี ชูกิจเกษม Kavee.c@kasikornsecurities.com, +662 696-0030           กิจพล ไพรไพศาลกิจ Kitpon.p@kasikornsecurities.com +662 696-0057           ปณิธิ จิตรีโภชน์ Paniti.j@kasikornsecurities.com, +662 696-0053             โดย บริษัทหลักทรัพย์ กสิกรไทย จำกัด ประจำวันที่ 17 เม.ย. 2555

แชร์เรื่องนี้
แชร์เรื่องนี้LineTwitterFacebook