สยามสปอร์ตแจงบริหารงานโปร่งใส,บังยีพ้อเสียเพื่อนคู่คิด

สยามสปอร์ตฯ ออกโรงชี้แจงตัวเลขรายรับ - รายจ่ายทั้งหมดเพื่อเคลียร์ข้อกังขาต่างๆ ที่เกิดขึ้นในฐานะผู้ดูแลสิทธิประโยชน์การแข่งขันฟุตบอลอาชีพ พร้อมยืนยันทำงานโปร่งใสไม่มีนอกไม่มีในแน่นอน ด้าน บังยี ประมุขบอลไทยออกตัวเสียดายเพื่อนร่วมทุกข์ร่วมยากที่สู้กันมากว่า 10 ปี

ตามที่ได้มีการเปิดประเด็นข้อกังขาต่างๆ ถึงเรื่องรายได้สิทธิประโยชน์ของการจัดแข่งขันฟุตบอลไทยพรีเมียร์ลีก โดยทาง บริษัท สยามสปอร์ตฯ ในฐานะผู้ได้รับการแต่งตั้งจากสมาคมฟุตบอลให้เป็นผู้ดูแลสิทธิประโยชน์การแข่งขันฟุตบอลอาชีพได้มีการแถลงข่าวยุติบทบาทถอนตัวออกจากผู้ดูแลสิทธิประโยชน์ฟุตบอลอาชีพ ในปี 2555 ไปแล้วพร้อมกับมีผลโดยทันที

ในวันนี้ (20 เม.ย.) ที่สมาคมฟุตบอลแห่งประเทศไทย ได้มีการเรียกสโมสรสมาชิกมาประชุมแถลงข่าวและชี้แจ้งตัวเลขรายรับ - รายจ่ายทั้งหมดเพื่อเคลียร์ข้อกังขาต่างๆ ที่เกิดขึ้น ก่อนการประชุมได้มีประชาชนประมาณ 50 คน มารวมกลุ่มชูป้ายให้กำลังใจ บ.สยามสปอร์ตฯ และ "บังยี" ทำให้ทาง ส.ฟุตบอล เตรียมกำลังเจ้าหน้าที่ตำรวจเกือบ 30 นายมาคอยดูแลความปลอดภัยหน้าทางเข้าห้องประชุม

สำหรับการแถลงข่าวในครั้งนี้มี "บังยี" วรวีร์ มะกูดี นายกสมาคมฟุตบอลแห่งประเทศไทย, "บิ๊กเปี๊ยก" องอาจ ก่อสินค้า เลขาธิการสมาคมฯ, ดร.วิชิต แย้มบุญเรือง ปธ.บริษัทไทยพรีเมียร์ลีก, นายอดิศัย วารินทร์ศิริกุล กรรมการผู้จัดการ บริษัทสยามสปอร์ตฯ และสโมสรสมาชิกอีก 18 สโสมร นำมาโดย นายเนวิน ชิดชอบ นายใหญ่แห่งค่ายปราสาทสายฟ้า, นายรณฤทธิ์ ซื่อวาจา ผู้จัดการทีม เอสซีจี เมืองทองฯ นายอรรถณพ สิงโตทอง ชลบุรี เอฟซี, นายศุภสิน ลีลาฤทธิ์ จากบางกอกกล๊าส เอฟซี ขาดเพียง 2 ตัวแทนจาก อีสาน ยูไนเต็ด และ ชัยนาท เอฟซี พร้อมด้วยบรรดากองทัพสื่อมวลชนที่เข้ามาร่วมฟังการแถลงข่าวในครั้งนี้อย่างหนาตา

ด้าน นายอดิศัย วารินทร์ศิริกุล กรรมการผู้จัดการ บริษัท สยามสปอร์ตฯ ในฐานะตัวแทน บริษัท สยามสปอร์ตฯ เป็นผู้ชี้เแจ้งตัวเลขรายรับ - รายจ่ายทั้งหมดเพื่อเคลียร์ข้อกังขาโดยกล่าวว่า "โครงสร้างของไทยพรีเมียร์ลีกนั้นถูกแบ่งออกเป็น 3 ส่วนคือ ข้อ1 สมาคมฟุตบอลแห่งประเทศไทย จะคอยดูแลนโยบายและภาพรวมในทุกๆ ด้าน  ข้อที่ 2 บริษัทไทยพรีเมียร์ลีก มีหน้าที่คอยดูการแข่งขันและกฎข้อบังคับต่างๆ ที่ใช้ในแต่ละปี และข้อ 3 บริษัทสยามสปอร์ตฯ ที่ดูแลเรื่องสื่อและเป็นที่ปรึกษาให้กับทางสมาคมฯ โดยการแข่งขันในปี 2554 ที่ผ่านมา มีภาพรวมสิทธิประโยชน์ทั้งสิ้นรวมเป็นเงิน 218.4 ล้านบาท หักต้นทุนแล้วเหลือกำไรประมาณ 8,517,600 บาท พร้อมยืนยันการทำงานของ บ.สยามสปอร์ตฯ นั้นโปร่งใสและไม่มีการนำเงินไปใช้ในทางที่ไม่ควรแน่นอน"

ส่วน "บังยี" นายวรวีร์ มะกูดี ได้ออกมาขอบคุณทาง บ.สยามสปอร์ต และได้กล่าวถึงแผนงานในอนาคตด้วยว่า "ต้องขอขอบคุณทาง บ.สยามสปอร์ตฯ ที่ได้ร่วมทุกข์ร่วมสุขกันมากว่า 10 ปี ซึ่งวันนี้ข้อข้องใจต่างๆ คงจะเคลียร์หมดทุกอย่างแล้วดังนั้นตนไม่อยากให้มีการจับผิดเล็กๆ น้อยๆ กันอีก หลังจากนี้เราควรหันหน้ามาช่วยกันทำให้วงการฟุตบอลไทยได้เดินหน้าต่อไป ซึ่งหน้าที่ต่างๆ จะเป็นสมาคมฟุตบอลที่จะจัดการต่อไป แต่อย่างไรก็ตามตนจะไปพูดกับทาง บ.สยามสปอร์ต ให้กลับมาร่วมงานกันอีกครั้ง แต่ถ้าทาง สยามสปอร์ตฯ ไม่ต้องการจริงๆ ก็อาจจะให้เข้ามาดูแลในส่วนอื่นๆ แทนเช่นเป็นที่ปรึกษาหรือเรื่องการถ่ายทอดสดแทน"
      
พร้อมกันนี้ "บังยี" ได้กล่าวทิ้งท้ายด้วยว่า "สำหรับการแข่งขันในปีนี้ยืนยันว่าทาง ส.ฟุตบอล จะดำเนินการแข่งขันให้สิ้นสุด และจะรักษาข้อตกลงที่ให้ไว้กับทุกสโมสร ส่วนในปีหน้าก็จะพยายามจัดการแข่งขันให้ได้ตามมาตรฐานที่เคยทำเอาไว้และในสัปดาห์หน้าทาง ส.ฟุตบอล จะส่งหนังสือให้กับทุกๆ สโมสร เพื่อตอบรับว่าปีหน้าในฤดูกาล2013 จะยังเข้าร่วมการแข่งขันต่อหรือไม่ ถ้าทีมในไทยลีกไม่เข้าร่วมต่อก็จะนำทีมจากดิวิชัน 1 ขึ้นมาแทนเพื่อให้ครบตามจำนวนที่กำหนดเอาไว้"