วันไหลเดือด! แม่ชักมีดปักอกโจ๋ ป้องลูกท้องแก่
(23 เม.ย.) เมื่อช่วงกลางดึกที่ผ่านมา เจ้าหน้าที่ตำรวจ สภ.เมืองสมุทรปราการ ได้รับแจ้งเหตุมีชายถูกแทงได้รับบาดเจ็บ บริเวณงานวันไหลสงกรานต์ เมืองสมุทรปราการ จึงได้รุดเดินทางไปตรวจสอบในทันที
ที่เกิดเหตุบริเวณสนามฟุตบอลการเคหะสมุทรปราการ ซึ่งเป็นสถานที่จัดการเทศกาลวันไหลสงกรานต์ ตรวจสอบด้านหลังเวที พบกลุ่มชาวบ้านจำนวนมากกำลังยืนมุงดูเหตุการณ์ เจ้าหน้าที่ต้องกันคนที่ไม่เกี่ยวข้องออกจากบริเวณ พบร่างของชายวัยรุ่น ถูกแทงด้วยอาวุธมีดปลายแหลมเข้าที่หน้าอกซ้าย ปักอยู่คาอก เลือดไหลออกมาเป็นจำนวนมาก ทราบชื่อคือ นายภาคิน (ขอสงวนนามสกุล) อายุ 16 ปี
ใกล้กันยังพบผู้ได้รับบาดเจ็บอีกราย ถูกอาวุธมีดแทงเข้าที่ชายโครงด้านขวา และถูกฟันเข้าที่นิ้วกลางมือขวาเป็นบาดแผลฉกรรจ์ ทราบชื่อคือ นายอภิสิทธิ์ (ขอสงวนนามสกุล) อายุ 17 ปี เจ้าหน้าที่หน่วยกู้ภัยจึงรีบนำตัวทั้งสองส่งโรงพยาบาลโดยเร็ว แต่ นายภาคิน ทนพิษบาดแผลไม่ไหว เสียชีวิตในเวลาต่อมา
ส่วนผู้ก่อเหตุในกรณีดังกล่าวได้ยืนรอให้การกับเจ้าหน้าที่ตำรวจ คือ นางเบญจมาศ มหาไชย อายุ 41 ปี เป็นชาวบ้านที่อาศัยอยู่ในพื้นที่การเคหะ โดยมีกลุ่มเพื่อนของผู้ได้รับบาดเจ็บและเสียชีวิตยืนต่อว่าและมีปากเสียงกระทบกระทั่งกัน เจ้าหน้าที่ตำรวจหวั่นเกิดความรุนแรงขึ้น จึงตัดสินใจนำตัวมาสอบสวนที่สถานีตำรวจ
นางเบญจมาศ ให้การว่า ตนเป็นหนึ่งในกรรมการจัดงานวันไหลที่การเคหะ ซึ่งมีชาวบ้านมาร่วมงานเป็นจำนวนมาก ก่อนเกิดเหตุตนกำลังดื่มสุราอยู่ด้านหลังเวทีกับเพื่อนบ้าน รวมทั้ง พ่อของนายภาคิน ผู้เสียชีวิต ขณะที่กำลังมีการแสดงรำวง เกิดเหตุทะเลาะวิวาทชกต่อยกันขึ้น โดยมี นางเอ๋ (นามสมมติ) อายุ 16 ปี ลูกสาวของตัวเองที่กำลังตั้งครรภ์ใกล้คลอด และ นายโจ (นามสมมติ) อายุ 16 ปี ลูกเขย ร่วมอยู่ในวงทะเลาะวิวาทดังกล่าวด้วย ลูกสาวท้องแก่พยายามเข้าไปห้ามปราบ แต่กลับถูก นายภาคิน ชกหน้าจนล้มลง
เมื่อตนเห็นเหตุการณ์จึงเข้าไปห้ามปราม แต่ นายภาคิน กลับจะทำร้ายร่างกายตน จึงได้คว้ามีดพกขนาด 3 นิ้ว แทงปักอกนายภาคินจนล้มทรุด ทำให้กลุ่มเพื่อนนายภาคินพยายามเข้ามาทำร้ายร่างกายลูกสาวของตนเอง แต่ตนกับลูกสาวหลบได้ทัน มีบาดแผลที่มีดฟันเล็กน้อย ทำให้ นายอภิสิทธิ์ เพื่อนของผู้เสียชีวิต ที่หวังจะเข้ามาทำร้ายตนจากทางด้านหลังถูกมีดฟันได้รับบาดเจ็บแทน
เบื้องต้นเจ้าหน้าที่ตำรวจได้แจ้งข้อหา ฆ่าผู้อื่นโดยเจตนาและพกพาอาวุธมีดในที่สาธารณะโดยไม่มีเหตุอันควร และได้นำตัว นางเบญจมาศ ไปดำเนินคดีตามกฎหมายต่อไป