ไทยอัดอินโด6-1 สร้างสถิติไร้พ่าย14นัด

ไทย 6-1 อินโดนีเซีย

วันที่ 23 เม.ย. 2555 เวลา 16.30 น. ที่ชาญชัย อคาเดี้ยม ม.กรุงเทพธนบุรี ทีมฟุตซอลทีมชาติไทย ลงแข่งนัดที่ 4 ของรอบแรก ในการแข่งขันเอเอฟเอฟ แบงค็อก ธนบุรี ฟุตซอล แชมเปี้ยนชิพ 2012 หรือ ฟุตซอลชิงแชมป์อาเซียน ครั้งที่ 9 พบกับ อินโดนีเซีย ทีมแชมป์เก่าปี 2010 ซึ่งทั้งคู่ต่างก็เก็บ 9 คะแนนเต็มใน 3 นัดแรก ดังนั้นจึงเป็นการชิงที่ 1 ของสายบี

ผู้เล่น 5 คนแรกของทีมชาติไทยที่ทาง วิคเตอร์ เฮอร์มันส์ ส่งลงเล่นได้แก่ สุรพงค์ ทมพา (GK-C), ปิยพันธ์ รัตนะ, กฤษดา วงษ์แก้ว, ศุภวุฒิ เถื่อนกลาง และ จิรวัฒน์ สอนวิเชียร ขณะที่นักเตะตัวจริงของอินโดนีเซีย ประกอบไปด้วย อเด เลสมาน่า (GK), แรนดายอัส บาห์รี่ (C), บัมบัง ซัฟตาจิ, ซายาห์อดานซายาห์ ลูบิส และ อิสมาอิล โดยก่อนหน้านี้เพิ่งพบกันมาในชิงแชมป์เอเชีย รอบคัดเลือก โซนอาเซียน ไทยเอาชนะไปได้ในรอบชิงฯ 3-1

เริ่มมาได้ครึ่งนาทีไทยเกือบได้ประตูขึ้นนำไปก่อนจากการที่ จิรวัฒน์ สอนวิเชียร ตะบันเต็มแรงเกือบครึ่งสนามบอลเกือบเสียบเสาอยู่แล้วแต่ว่า อเด เลสมาน่า ยังพุ่งปัดออกหลังไปได้แบบหวุดหวิด อย่างไรก็ตามไทยขึ้นนำ 1-0 จนได้ น.2 ไทยตัดบอลได้จากบริเวณกลางสนามบอลมาถึง กฤษดา วงษ์แก้ว ลากจี้เข้าเขตโทษก่อนเลือกมุมแปสวนตัวนายทวาร "อิเหนา" ข้ามเส้นประตูไปอย่างง่ายดาย

ขุนพล "ช้างศึก" เล่นกันด้วยความมั่นใจ มีการเปลี่ยนผู้เล่นชุดที่ 2 ลงสู่สนาม น.6 สกอร์ขยับเป็น 2-0 จากการบังบอลของ เจษฏา ชูเดช ก่อนแตะสั้นๆให้ อภิวัฒน์ แจ่มเจริญ ยกบอลข้ามตัว อเด เลสมาน่า เข้าประตูไปอย่างสวยงาม จากนั้นไทยครองเกมบุกกดดันอย่างต่อเนื่องมาได้เตะมุม 3 ครั้งติดต่อกัน ก่อนจะมาประสบผลในครั้งที่ 3 ช่วง น.10 กฤษดา วงษ์แก้ว จ่ายเรียดมาให้ ศุภวุฒิ เถื่อนกลาง ที่ยืนรออยู่นอกกรอบได้ซัดเต็มแรงชนิดมองแทบไม่ทันบอลเสียบใต้คานให้ไทยขยับหนี 3-0

ช่วง 5 นาทีสุดท้าย อินโดนีเซีย สร้างโอกาสได้มากขึ้นและขึ้นเกมมาป้วนเปี้ยนหน้าเขตโทษของไทยหลายครั้งแต่ยังไม่สามารถส่งบอลผ่านมือ สุรพงค์ ทมพา ไปได้ จนกระทั่ง น.18 วิคเตอร์ เฮอร์มันส์ ต้องเรียกเวลานอกเพื่อแก้เกมให้ทีมชาติไทย

น.19 ไทยพลาดประตูที่ 4 ไปอย่างน่าเสียดายเมื่อ โรนี่ อลัมซายาห์ รวบ กฤษดา วงษ์แก้ว เป็นการฟาวล์รวมครั้งที่ 6 ในครึ่งแรก ทำให้ไทยได้ลูกจุดโทษจุดที่ 2 ทว่า ศุภวุฒิ เถื่อนกลาง ยิงพลาดไปอย่างน่าเสียดาย จบครึ่งแรกไทยนำอยู่ 3-0

เข้าสู่ครึ่งหลัง น.23 อินโดนีเซีย มาได้ประตูแรกจากจังหวะที่ นอร์ อาลี หลุดไปทางริมเขตโทษฝั่งซ้ายก่อนแปสวนตัว สุรพงค์ ทมพา ไล่มาเป็น 3-1 น.25 จากการโต้กลับของไทย อภวัฒน์ แจ่มเจริญ เล่นกับ เจษฎา ชูเดช 2 คน ก่อนที่จะเป็น เจษฎา หาจังหวะยิงในเขตโทษให้ไทยหนีไปเป็น 4-1

น.33 กฤษดา วงษ์แก้ว ได้ยิงครั้งแรกไปติดเซฟ อเด เลสมาน่า กระดอนมาเข้าทาง ปิยพันธ์ รัตนะ ซ้ำโล่งๆหน้าประตูเปลี่ยนสกอร์เป็น 5-1 ถัดมาไม่ทันไร ศุภวุฒิ เถื่อนกลาง มาบวกเพิ่มอีกลูกให้ไทยขยับห่าง 6-1 ก่อนจะจบลงด้วยสกอร์นี้ ทำให้ไทยชนะ 4 นัดรวดเก็บ 12 คะแนนเต็มในรอบแรก ผ่านเข้าสู่รอบรองชนะเลิศเป็นที่ 1 ของสายบี เข้าไปพบกับ มาเลเซีย ที่ 2 ของสายเอ ในวันที่ 25 เม.ย. 2555 เวลา 17.00 น.

ทุบสถิติใหม่ไร้พ่าย14นัด
ชัยชนะนัดนี้เป็นการสร้างสถิติใหม่อีกหนึ่งสถิติของทีมชาติไทย นั่นก็คือไม่พบกับความพ่ายแพ้เป็นนัดที่ 14 ติดต่อกัน โดยทุบสถิติเดิมไร้พ่าย 13 นัด ที่เริ่มตั้งแต่ 26 พ.ย. 2004 ในเวิลด์คัพ 2004 ที่ไทยชนะออสเตรเลีย 3-2 จนถึงนัดที่ไทยเสมอกับอิหร่าน 3-3 ในชิงแชมป์เอเชีย 2005 ซึ่งนับเป็นครั้งแรกที่ไทยไม่แพ้ต่ออิหร่าน ก่อนสถิติจะมาหยุดลงเมื่อไทยแพ้ต่อญี่ปุ่น 2-4 ในรายการเดียวกัน

สำหรับสถิติใหม่ไร้พ่าย 14 นัด และยังเป็นการคว้าชัยชนะได้ 14 นัดอีกด้วย ยังเป็นสถิติที่เดินหน้าต่อไปเรื่อยๆ โดยสถิตินี้นับตั้งแต่ วันที่ 12 ธ.ค. 2010 ไทย ชนะ ญี่ปุ่น 2-0 ในยุคของ ปูลปิส หลังจากนั้นเป็นการลงแข่งในระดับอาเซียนทั้งหมดและไม่เคยพบกับทีมในระดับท็อปเท็นของโลกอีกเลยนับตั้งแต่หมดยุคของ ปูลปิส แต่ก็ถือเป็นสถิติใหม่ที่ได้รับการบันทึกไว้ ต่อเนื่องด้วยในรายการซีเกมส์ 2011 ไทยชนะ 4 นัดรวด ก่อนที่จะมาชนะอีก 5 นัดรวด ในฟุตซอลชิงแชมป์เอเชีย 2012 รอบคัดเลือก โซนอาเซียน ตามด้วยเอาชนะรวดอีก 4 นัดในชิงแชมป์อาเซียน 2012

ตบโบนัส6หมื่น
สำหรับเงินรางวัลโบนัสในนัดนี้ประตูละ 1 หมื่นบาท และไม่ถูกหักหากเสียประตู ทำให้นักเตะรับไป 60,000 บาท รวมกับ 3 นัดแรกเป็นเงิน 222,500 บาท

ฝ่ายจัดถูกจวกยับ หลังฟรีทีวีไม่ถ่าย
นอกจากนี้ยังมีข้อร้องเรียนของบรรดากองเชียร์ตามเว็บบอร์ดชื่อดังมากมายที่ต่อว่าฝ่ายจัดการแข่งขันเนื่องจากในการแถลงข่าวจัดการแข่งขันได้ประกาศชัดเจนว่าจะมีฟรีทีวี 3 ช่อง คือ ช่อง 3 7 และ สทท.11 สลับกันถ่ายทอดสด แต่พอถึงเวลาแข่งกลับทำไม่ได้อย่างที่พูด

อันดับดาวซัลโว
15 ประตู : กฤษดา วงษ์แก้ว (ไทย)
13 ประตู : ศุภวุฒิ เถื่อนกลาง (ไทย)
12 ประตู : เจษฎา ชูเดช (ไทย)