เจ-เจตริน งง โดนปลดพิธีกรเมดอินไทยแลนด์
เป็นประเด็นร้อนขึ้นมาทีเดียว สำหรับนักร้องรุ่นเก๋าอย่าง "เจ - เจตริน วรรธนะสิน" ที่อยู่ๆ ก็ถูกปลดกลางอากาศ ออกจากการเป็นพิธีกรรายการ "เมดอินไทยแลนด์" ทางช่อง 5 ล่าสุด เจอตัวหนุ่มเจมาร่วมงานเปิดตัว "นักปั้นฝัน" จาก "The Trainer ปั้นฝันสนั่นเวทีปี 4" ที่โรงภาพยนตร์สกาล่า งานนี้หนุ่มเจก็ชี้แจงว่า "คือเมื่อต้นปีผมได้รับการทาบทามจากแกรมมี่ ว่าอยากให้ไปทำรายการ เมดอินไทยแลนด์ เป็นรายการถ่ายทอดสด และมีการวางตัวพิธีกรตั้งแต่แรก มีผมเป็นแมสกลุ่มหนึ่ง พี่โน๊ตก็เป็นแมสอีกกลุ่มหนึ่ง และน้องแพรกลุ่มหนึ่ง ซึ่งในการวางตัวครั้งแรก 3 พิธีกรจะจัดพร้อมกัน แต่ตอนหลังได้มีการปรับเปลี่ยน เพื่อให้สะดวกและก็เรื่องงบประมาณ เลยปรับเปลี่ยนเป็นพิธีกรคู่ โดยน้องแพรเป็นตัวยืน แล้วผมกับพี่โน๊ตสลับกัน ซึ่งเราก็ทำกันมาหลายเดือน และมันก็ผ่านมาถึงจุดหนึ่งที่ต้องปรับเปลี่ยนงบประมาณ คือต้องเลิกทำการถ่ายทอดสด แล้วก็ต้องไปถ่ายในสตู เราก็ต้องทำงานหนักขึ้น ถ่ายเช้าถึงตี 1 ตี 2 เพื่อให้ได้จำนวนมาก และนั่นคือการปรับเปลี่ยนโครงสร้างของรายการ หลังจากนั้นมา ที่มันเป็นคำถาม เป็นข้อสงสัย คือ ผมได้รับโทรศัพท์จากน้องพนักงานว่า อาจจะต้องให้พี่เจหยุดพักทำหน้าที่เป็นพิธีกร ตรงนี้ผมขอบอกไว้ก่อนว่าไม่ได้ติดขัดอะไร ทำงานกันมามันเป็นเรื่องของความเข้าใจที่ดี เพราะผมก็เป็นเจ้าของรายการเหมือนกัน ในการเปลี่ยนแปลงผมเข้าใจ เพียงแต่เราก็ถามไปว่า เหตุผลที่ให้ผมหยุดเพราะอะไร ซึ่งผมไม่ได้คำตอบ"ถามว่าเป็นเรื่องของการประหยัดงบประมาณหรือเปล่า เขาก็บอกว่าเป็นเรื่องของการประหยัดงบประมาณ ผมเลยถามอีกว่า ที่เอาผมออกมันช่วยประหยัดงบประมาณตรงไหน เขาก็แย้งมาว่า เป็นเรื่องของการปรับเปลี่ยนรูปแบบ ต้องปรับให้มันเหมาะมากขึ้น แล้วผมก็ถามไปอีกว่า แล้วผมไม่เหมาะตรงไหน ผมขอเหตุผล ทีนี้ผมกลับไม่ได้คำตอบกลับมา ผมก็รู้สึกว่าผมต้องขอคำอธิบาย หลังจากนั้นคือ เมื่อวานก็มีผู้ใหญ่ใน GMM TV ทำการประชุม และโทรมาแจกแจงทำความเข้าใจกับผม ซึ่งผู้ใหญ่ใน GMM TV ยังไม่มีการทราบเรื่อง ว่าจะมีการปรับเปลี่ยนพิธีกรเลย คือจริงๆ ผมก็ไม่ได้ถือโทษโกรธอะไร สรุปแล้วเรื่องมันก็ไปจบที่โปรดิวเซอร์ ซึ่งโปรดิวเซอร์ได้ข้อมูลมาว่า จะมีการปรับเปลี่ยน แล้วก็ถ่ายทอดไปยังระดับสตาฟแล้วโทรมาแจ้งเลย ไม่มีการนำเรื่องเข้าที่ประชุม หรือคุยกับผู้ใหญ่ที่เรียกผมมาทำตรงนี้ตั้งแต่แรก พอเป็นแบบนี้ที่เรียกว่าเป็นการสื่อสารที่ไม่ได้คำตอบ เหตุผลไม่ชัดเจน มันเลยเกิดเหตุการนี้ขึ้น แต่ก็เพิ่งได้ทราบข่าวมาว่า เขามีการขอโทษ และพูดคุยกันภายใน GMM TV เรียบร้อยแล้ว ถามว่าผมจะกลับไปทำหน้าที่พิธีกรรายการนี้อีกไหม ผมก็ยังตอบไม่ได้ แต่เราก็รู้หน้าที่ของเราคือนักร้อง ที่มาทำตรงนี้เพราะการเชื้อเชิญจากเขา แต่อยู่ดีๆจะให้เข้า จะให้ออก ก็ยังสับสนอยู่นิดหน่อย อันนี้ต้องบอกก่อนว่า ไม่ได้ถือโทษโกรธ แต่ต้องการเหตุผลว่าเป็นมายังไงแค่นั้นเอง และต้องบอกไว้ก่อนไม่ใช่การมาทำกระแสเพื่อโปรโมทรายการ เพราะไม่ได้ทำ คนที่ติดตามทวิตเตอร์ผมจะรู้ดีว่าผมชัดเจนหมด"