โคราช จัดงาน ถูกทั้งแผ่นดิน
ที่ลานข้างอนุสาวรีย์ท้าวสุรนารี ถ.ราชดำเนิน ต.ในเมือง อ.เมือง จ.นครราชสีมา นายชยาวุธ จันทร รองผู้ว่าราชการจังหวัดนครราชสีมา เป็นประธานในพิธีเปิดงาน "ถูกทั้งแผ่นดิน สินค้าสหกรณ์ ราคายุติธรรม" ที่ สหกรณ์จังหวัดนครราชสีมา และหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง ทั้ง สำนักงานปศุสัตว์จังหวัด สำนักงานการค้าภายในจังหวัด สำนักงานพาณิชย์จังหวัด และ องค์กรภาครัฐและเอกชนต่างๆ ร่วมกันจัดขึ้น เพื่อนำสินค้าที่จำเป็นต่อการดำรงชีพชองประชาชน ซึ่งมีคุณภาพและสดสะอาดนำมาจำหน่ายให้กับพี่น้องประชาชนภายในเขตเทศบาลนครนครราชสีมา ในช่วงที่สินค้าตามท้องตลาด ต่างได้พากันปรับตัวสูงขึ้นตามต้นทุนที่เพิ่มสูงขึ้น โดยสินค้าที่นำมาจำหน่ายส่วนใหญ่จะเป็นสินค้าที่จำเป็นต่อการดำรงชีวิตประจำวันโดยเฉพาะสินค้านำไปประกอบอาหาร อาทิ ไข่ไก่ เนื้อสัตว์ น้ำมันพืช ผัก ผลไม้ชนิดต่างๆ รวมไปถึงสินค้าเพื่อการอุปโภคและบริโภคอื่นๆ โดยราคาสินค้าชนิดต่างๆ จะจำหน่ายถูกกว่าตลาดประมาณ 10-20% โดยงานดังกล่าว จัดเป็นระยะเวลา 5 วัน คือ ตั้งแต่ วันที่ 11-15 พ.ค. 2555 นี้ ได้รับการสนับสนุนจากสำนักงานสหกรณ์จากอำเภอต่างๆ ทั่วทั้งจังหวัดนครราชสีมา นำสินค้าขึ้นชื่อของแต่ละอำเภอมาร่วมจำหน่ายภายในงาน ทั้งนี้เพื่อเป็นการแบ่งเบาภาระค่าใช้จ่ายของพี่น้องประชาชน เพื่อบรรเทาความเดือดร้อนในช่วงที่สินค้ามีราคาสูง และรัฐบาลกำลังเร่งแก้ไขปัญหาอยู่ในขณะนี้ ขณะที่ บรรดาผู้ปกครองของเด็กนักเรียนที่ศึกษาอยู่กับโรงเรียนต่างๆ ภายในเขตเทศบาลนครนครราชสีมา และพื้นที่ใกล้เคียง ต่างพากันนำบุตรหลานของตนเองออกไปเลือกซื้อชุดนักเรียนชุดใหม่ เพื่อเตรียมที่จะเข้าไปศึกษาต่อ ในวันที่จะเปิดภาคเรียนแรก ประจำปีการศึกษา 2555 ที่ส่วนใหญ่จะเริ่มเปิดภาคเรียนในวันที่ 18 พ.ค. 2555 เป็นวันแรก ซึ่งบรรยากาศในการเลือกซื้อชุดนักเรียนตามร้านจำหน่ายชุดนักเรียนภายในเขตเทศบาลนครนครราชสีมา ในปีนี้จะเงียบเหงากว่าทุกๆ ปีที่ผ่านมา โดยผู้ประกอบกิจการร้านจำหน่ายชุดนักเรียน บอกเป็นเสียงเดียวกันว่า ยอดการซื้อชุดนักเรียนของผู้ปกครองในปีนี้ ลดลงจากช่วงเดียวกันเมื่อเทียบกับปีที่แล้วประมาณ 10 - 20 % แต่จะมียอดนิ่ง คงตัวอยู่ในกลุ่มของนักเรียนที่เลื่อนระดับชั้นขึ้นใหม่เท่านั้น ซึ่งสันนิษฐานว่า ด้วยสภาพเศรษฐกิจที่ตกต่ำ และสินค้าต่างๆ ที่มีราคาสูงขึ้นอย่างต่อเนื่อง ทำให้ผู้ปกครองต้องแบกรับกับภาระค่าใช้จ่ายต่างๆ เพิ่มสูงขึ้น และแม้ว่ารัฐบาลจะมีการอุดหนุนเงินตามโครงการเรียนฟรี 15 ปี อย่างมีคุณภาพ แต่ก็ไม่เพียงพอต่อการซื้อชุดนักเรียนใหม่ และหากมีการซื้อจริงผู้ปกครองก็ต้องจ่ายในส่วนต่างเพิ่มขึ้นอีกจำนวนหนึ่ง ทำให้ผู้ปกครองส่วนใหญ่จะเลือกซื้อเฉพาะส่วนที่จำเป็นเท่านั้น ทั้งที่ความเป็นจริงแล้ว ราคาชุดนักเรียนไม่ได้มีการปรับขึ้นราคาแต่อย่างใด