ไทยแห้วแชมป์ถูกญี่ปุ่นรัว6-1 นัดชิงยูเออี2012

ไทยแห้วแชมป์ถูกญี่ปุ่นรัว6-1 นัดชิงยูเออี2012

ไทยแห้วแชมป์ถูกญี่ปุ่นรัว6-1 นัดชิงยูเออี2012
แชร์เรื่องนี้
แชร์เรื่องนี้LineTwitterFacebook

ฟุตซอลชิงแชมป์เอเชีย ครั้งที่ 12

รอบชิงชนะเลิศ

ไทย 1-6 ญี่ปุ่น


ทีมชาติไทย อันดับ 10 ของโลก ลงดวลกับ ญี่ปุ่น อันดับ 12 ของโลก ในรอบชิงชนะเลิศเอเอฟซี ฟุตซอล เเชมเปี้ยนชิพ ยูเออี 2012 หรือฟุตซอลชิงแชมป์เอเชีย ครั้งที่ 12 ในวันที่ 1 มิ.ย.  2555 เวลา 22.30 น. (ตามเวลาประเทศไทย) ที่สนามอัล วาสเซิ่ล ประเทศสหรัฐอาหรับ เอมิเรตส์

สถิติที่พบกับ 14 ครั้ง ไทยไปได้ 5 ครั้ง เสมอ 1 ครั้ง ส่วนญี่ปุ่นชนะ 8 ครั้ง แต่ว่าผลในช่วง 5 นัดหลังสุดไทยเป็นฝ่ายกำชัยถึง 4 หน ซึ่งนับเป็นครั้งที่ 2 ที่ไทยได้เข้าชิงชนะเลิศหลังจากเคยทะลุมาถึงรอบนี้ในปี 2008 ขณะที่ญี่ปุ่นเคยได้แชมป์มาแล้ว 1 ครั้งในปี 2006

วิคเตอร์ เฮอร์มันส์ กุนซือไทยใช้ผู้เล่นชุดเดิมจากนั้นที่แล้ว ได้แก่ สุรพงค์ ทมพา (GK-C), ก้องหล้า เหล็กกล้า, กฤษดา วงษ์แก้ว, ศุภวุฒิ เถื่อนกลาง และ จิรวัฒน์ สอนวิเชียร

ทางฝั่งของญี่ปุ่นที่มี มิเกล โรดริโก้ กุนซือชาวสเปนคุมทีม ส่งผู้เล่นชุดแรกประกอบไปด้วย ฮิซามิสุ คาวาฮาระ (GK), วาตารุ คิตาฮาระ, เคนสุเกะ ทาคาฮาชิ, เคนิชิโร่ โคกูเระ และ ราฟาเอล คาซึโตชิ เอนมี่ สำหรับผู้ตัดสินที่ลงทำหน้าที่คือ นูร์ดิน บูคูเยฟ ชาวคีร์กีซสถาน และ คิม จาง ควาน จากเกาหลีใต้ ผู้ตัดสินที่ 3 คือ โมฮัมหมัด อัล ฮัดดัด จากคูเวต และ มาร์ค เบอร์เค็ท จากอังกฤษ เป็นผู้รักษาเวลา

ต้นเกมญี่ปุ่นเริ่มได้ดุดันกว่า เคนิชิโร่ โคกูเระ หวดด้วยซ้ายเหินข้ามคาน จากนั้น น.3 ญี่ปุ่นทำชิ่งอย่างสวยงามในแดนตัวเองเริ่มจากลูกไขว้ของ เคนิชิโร่ โคกูเระ ก่อนมาจบที่ ราฟาเอล เอนมี่ ดาวรุ่งวัย 20 ปี แต่งเข้าทำซ้ายบอลกำลังเสียบเสาแต่ว่า สุรพงค์ ทมพา โชว์เทพปัดไว้ได้หวุดหวิด

น.5 ญี่ปุ่นมาได้ประตูนำไปก่อน 1-0 ยูสุเกะ โคมิยาม่า ผ่านบอลจากฝั่งซ้ายไปให้ เคนิชิโร่ โคกูเระ วิ่งเข้าแปลจ่อๆส่งบอลเข้าไปซุกก้นตาข่ายไม่เหลือ จากนั้นไทยเปลี่ยนผู้เล่นชุดที่ 2 ลงมา น.6 มีลุ้นจากเตะมุมที่ ณัฐวุฒิ หมัดยะลาน ส่งมาให้ สราวุธ ใจเพชร หวดจากระยะ 10 เมตร ฮิซามิสุ คาวาฮาระ ต้องออกแรงเซฟด้วยขา

ไทยเกือบโดนอีก น.9 ราฟาเอล เอนมี่ ผ่านจากกราบขวามาเสาไกลให้กับ เคนสุเกะ ทาคาฮาชิ ที่ยืนอยู่โล่งแปผิดจังหวะบอลออกหลังไม่ได้ลุ้น ไทยรอดตัวไป ก่อนที่ วิคเตอร์ เฮอร์มันส์ ต้องเรียกเวลานอกเพื่อแก้เกมให้ทีมชาติไทย

น.11 ไทยต่อบอลกันได้อย่างงดงาม จิรวัฒน์ สอนวิเชียร ส่งจากแดนตัวเองมาให้ ศุภวุฒิ เถื่อนกลาง ทางฝั่งขวาดีดต่อให้ กฤษดา วงษ์แก้ว กระดกข้ามตัว ฮิซามิสุ คาวาฮาระ เข้าประตูให้ไทยตีเสมอ 1-1

น.13 สุรพงค์ ทมพา ต้องออกแรงเซฟอันตรายอีกเมื่อญี่ปุ่นทำเกมมาทางซ้าย โคทาโร่ อินาบะ หวดเต็มข้อ สุรพงค์ ต้องชกออกหลังก่อนบอลจะเสียบสามเหลี่ยม

ญี่ปุ่นมาได้ประตูออกนำอีกรอบ น.15 เคนิชิโร่ โคกูเระ จ่ายยัดจ่ายฝั่งซ้ายให้กับ วาตารุ คิตาฮาระ แปตามน้ำหน้าเขตโทษถึงแม้จะเบาแต่ว่า สุรพงค์ ทมพา ถูกยืนบัง ทำให้ไม่สามารถป้องกันบอลที่ค่อยๆไหลเสียบเสาไปได้ ญี่ปุ่นนำ 2-1

น.18 กฤษดา วงษ์แก้ว มารับใบเหลืองจากการไปทำฟาวล์ โคทาโร่ อินาบะ และในจังหวะนี้เอง สราวุธ ใจเพชร ก็มาถูกเหลืองอีกคนจากการไปเถียงผู้ตัดสิน ก่อนจะจบครึ่งแรกด้วยการขึ้นนำของญี่ปุ่น 2-1

เข้าสู่ครึ่งหลังทั้งคู่ต่างเข้าบอลกันหนักจนกระทั่ง น.27 วาตารุ คิตาฮาระ เสียบใส่ ณัฐวุฒิ หมัดยะลาน อย่างน่าเกลียด จึงถูกใบแดงไล่ออกจากสนาม ญี่ปุ่นต้องเล่น 4 คนเป็นเวลา 2 นาที ซึ่งในช่วงนี้ไทยบุกอย่างหนักมีโอกาสดีจาก ศุภวุฒิ เถื่อนกลาง ที่ซัดถากเสาไปนิดเดียว และลูกยิงของ เจษฎา ชูเดช ที่ใส่ด้วยซ้ายเต็มข้อบอลพุ่งไปชนคาน พลาดประตูตีเสมออย่างน่าเสียดาย จนแล้วจนรอดในช่วง 2 นาทีทองไทยยิงไม่ได้ ญี่ปุ่นกลับมาเล่น 5 คนเหมือนเดิม

น.31 สุรพงค์ ทมพา รับบอลเกิน 4 วินาที ทำให้ถูกฟรีคิกระยะ 6 เมตร เคนิชิโร่ โคกูเระ เปลี่ยนจุดให้ โคทาโร่ อินาบะ มุมยิงนิ่มๆเป็นประตูให้ญี่ปุ่นขยับหนี 3-1 ทำให้ วิคเตอร์ เฮอร์มันส์ ต้องขอเวลานอกเพื่อแก้เกมในนาทีต่อมา

ไทยไม่มีทางเลือกต้องให้ จิรวัฒน์ สอนวิเชียร มาเล่นพาวเวอร์เพลย์ น.34 จากความผิดพลาดในการต่อบอลของไทยทำให้ญี่ปุ่นฉกบอลก่อนจะเป็น ราฟาเอล เอนมี่ แปบอลจากแดนตัวเองให้ญี่ปุ่นขยับห่าง 4-1 น.37 ไทยถูกตัดบอลจากพาวเวอร์เพลย์อีกครั้ง คราวนี้ ฮิซามิสุ คาวาฮาระ ผู้รักษาประตูญี่ปุ่นรับบอลได้ก่อนโยนเตะจากหน้าประตูตัวเองบอลลอยโด่งเข้าประตูไปอย่างสุดสวย ทิ้งไทย 5-1

น.38 ไทยยังเล่นพาวเวอร์เพลย์พลาดอีก เทซึยะ มูราคามิ ยิงไกลจากแดนตัวเองไปยังประตูฝั่งไทยที่ไม่มีใครยืนป้องกันทำให้ญี่ปุ่นหนีไปไกล 6-1 ก่อนจะจบด้วยสกอร์นี้ส่งผลให้ญี่ปุ่นครองแชมป์เอเชียเป็น และทำให้ไทยเป็นพระรองสมัยที่ 2 พร้อมทั้งหยุดสถิติชนะติดต่อกันไว้ที่ 23 นัด ทั้งนี้ทีมชาติไทยจะเดินทางถึงสนามบินสุวรรณภูมิในวันที่ 3 มิ.ย. ด้วยเที่ยวบิน TG 517

อิหร่าน 4-0 ออสเตรเลีย
สำหรับผลนัดชิงที่ 3 อิหร่านชนะออสเตรเลีย 4-0 ได้ประตูจาก จาวาด เอสการิโมกัดดัม น.36 น.40 โมฮัมหมัด ทาเฮรี่ น.37 วาฮิด ชามซาอี น.40

ชามซาอี คว้าดาวซัลโวสมัยที่8
วาฮิด ชามซาอี กัปตันทีมชาติอิหร่านจากสโมสรซานาเย่ กิติ ปาซานด์ อิสฟาฮาน ที่ยิงไป 7 ประตูเท่ากับ ศุภวุฒิ เถื่อนกลาง (ไทย), อาลี ฮัสซันซาเดห์ (อิหร่าน) และ ราฟาเอล เอนมี่ (ญี่ปุ่น) ได้รับเลือกเป็นดาวยิงสูงสุด เนื่องจากส่งให้เพื่อนยิง 6 ประตุ มากกว่าอีก 3 คน ซึ่งเป็นสมัยที่ 8 แล้วที่ ชามซาอี คว้าดาวซัลโวในชิงแชมป์เอเชีย

อันดับดาวซัลโว
7 : ศุภวุฒิ เถื่อนกลาง (ไทย), อาลี ฮัสซันซาเดห์ (อิหร่าน), วาฮิด ชามซาอี (อิหร่าน) และ ราฟาเอล เอนมี่ (ญี่ปุ่น)
6 : โมฮัมหมัด ทาเฮรี่ (อิหร่าน), ฮอสเซียน ทาเยบี้ (อิหร่าน), จาวาด เอสการิโมกัดดัม
5 : อภิวัฒน์ แจ่มเจริญ (ไทย)

เอนมี่ ซิวแข้งยอดเยี่ยม
ในส่วนของนักเตะยอดเยี่ยมตกเป็นของ ราฟาเอล คาซึโตชิ เอนมี่ นักเตะลูกครึ่งทีมชาติญี่ปุ่นวัย 20 ปี จากสโมสรนาโกย่า โอเชี่ยนส์

แชร์เรื่องนี้
แชร์เรื่องนี้LineTwitterFacebook