หนุ่ม18ซิ่งมินิชนนศ.มอบตัวแล้วตร.คุมส่งสถานพินิจ

หนุ่ม18ซิ่งมินิชนนศ.มอบตัวแล้วตร.คุมส่งสถานพินิจ

หนุ่ม18ซิ่งมินิชนนศ.มอบตัวแล้วตร.คุมส่งสถานพินิจ
แชร์เรื่องนี้
แชร์เรื่องนี้LineTwitterFacebook

พ.ต.ท.ณัฐพล โกมินทรชาติ รอง ผกก.สน.ทางด่วน 1 เปิดเผยกับ สำนักข่าว ไอ.เอ็น.เอ็น. ว่า เยาวชน อายุ 18 ปี ที่ขับรถยนต์มินิคูเปอร์ พุ่งชน นศ.สาว และพวก เมื่อคืนวันที่ 19 พ.ค.ที่ผ่านมา  ได้รับบาดเจ็บสาหัส โดยเหตุเกิดที่สะพานพระราม 9 จนเป็นข่าวครึกโครมนั้น ล่าสุด ทางผู้ต้องหาได้ขอเข้ามอบตัวต่อพนักงานสอบสวนในวันนี้แล้ว โดยในเบื้องต้นรับสารภาพว่าได้ขับรถยนต์คันดังกล่าวจริง และหลบหนีไป ซึ่งทางตำรวจจะทำการสอบปากคำเพิ่มเติม และนำตัวไปทำแผนประกอบคำรับสารภาพ ก่อนจะแจ้งข้อหาขับรถยนต์โดยประมาทจนทำให้ผู้อื่นได้รับบาดเจ็บสาหัสและหลบหนี พร้อมส่งตัวไปยังสถานพินิจในวันนี้ทันทีทั้งนี้เยาวชนวัย18 ปี ได้เดินทางมาพร้อมกับญาติและทนายความ โดยมีสีหน้าเคร่งเครียดและไม่อนุญาตให้สื่อเข้าไปบันทึกภาพ โดยเจ้าหน้าที่ได้ใช้เวลากว่า 2 ชั่วโมง ในการสอบสวน เบื้องต้น พนักงานสอบสวน ได้แจ้ง 2 ข้อหาคือ ขับรถโดยประมาทเป็นเหตุให้ผู้อื่นได้รับบาดเจ็บสาหัสแล้วหลบหนี ไม่มีใบอนุญาตขับขี่ และนำรถยนต์ที่จดทะเบียนแล้วมาใช้งานโดยไม่ติดแผ่นป้ายทะเบียน ส่วนข้อหาเมาสุราในขณะขับขี่ เจ้าหน้าที่ไม่ได้มีการแจ้ง เนื่องจากไม่มีผลการตรวจเลือด ทั้งนี้ ญาติของผู้เสียหายได้เดินทางมาเพื่อติดตามความคืบหน้าด้วย ซึ่งผู้ต้องหาได้มีการนำพวงมาลัย มากราบขอขมากับครอบครัวผู้เสียหาย พร้อมกับกล่าว คำขอโทษกับสิ่งที่ทำลงไป โดยหลังสอบปากคำเสร็จผู้ต้องหา ได้ให้สัมภาษณ์โดยมีน้ำตาคลอตลอดเวลาว่า รู้สึกเสียใจกับเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น และอยากขอโทษ ยืนยันว่าเป็นอุบัติเหตุและตนเองไม่ได้ดื่มสุรา ส่วนสาเหตุที่ไม่ได้เข้ามอบตัวทันที เนื่องจากรู้สึกกลัว เครียด และพยายามแก้ปัญหาด้วยตนเอง จนทำให้เรื่องล่วงเลยมาหลายวัน กว่าที่จะแจ้งให้ผู้ปกครองทราบ อย่างไรก็ตาม หลังสอบปากคำ พนักงานสอบสวนได้ควบคุมตัวไปส่งสถานพินิจเด็กและเยาวชนทันที เนื่องจากในวันเกิดเหตุ ผู้ต้องหายังอายุไม่ถึง 18 ปีนอกจากนี้ ตัวแทนบริษัทประกันของผู้ต้องหาได้เจราจาชดใช้ค่าเสียหายให้กับครอบครัวผู้บาดเจ็บทั้ง 3 ราย ก่อนได้ข้อสรุปว่า บริษัทประกันภัย จะชดใช้ค่าเสียหายให้รายละ 5 หมื่นบาท และญาติของผู้ต้องหา จะจ่ายค่ารักษาพยาบาลให้เพิ่มเติมอีกจำนวนหนึ่ง ส่วนค่าทำขวัญจะมีการเจรจากันอีกภายหลังด้าน นายพิจักษณ์ ตั้งเจริญโสภณ บิดาของ นางสาวโชติกา ตั้งเจริญโสภณ 1 ในผู้ได้บาดเจ็บ ซึ่งอาการยังสาหัส และยังไม่รู้สึกตัว กล่าวว่า หลังจากที่ผู้ต้องหาได้มีการกราบขอขมา ก็พร้อมที่จะให้อภัย เพราะเชื่อว่าเป็นอุบัติเหตุที่ไม่มีใครอยากให้เกิดขึ้น อย่างไรก็ตาม เหตุการณ์ที่เกิดขึ้นมาจากความประมาท จึงอยากฝากถึงวัยรุ่นให้คิดก่อนทำ และไม่อยากให้เกิดขึ้นกับครอบครัวใครอีก
แชร์เรื่องนี้
แชร์เรื่องนี้LineTwitterFacebook