ผบ.ตร.ขีดเส้นสืบสวนโกงสอบนายสิบให้เสร็จคืนนี้
พล.ต.ท.เรืองศักดิ์ จริตเอก ผู้บัญชาการกองบัญชาการศึกษา แถลงผลการสืบสวน การจับกุมการทุจริตสอบเข้านายสิบตำรวจ ประจำปี 2555 ซึ่งในปีนี้มีผู้สมัครสอบ จำนวนกว่า 2.8 แสนราย เบื้องต้นสามารถจับกุมผู้กระทำผิดพร้อมยึดอุปกรณ์เป็นเครื่องส่งสัญญาณไว้ในกระเป๋ากางเกง ได้จำนวนทั้งหมด 217 ราย โดยพบในที่พื้นที่ กองบัญชาการตำรวจภูธรภาค 2 จำนวน 95 ราย ภูธรภาค 3 จำนวน 9 ราย ภาค 5 จำนวน 5 ราย และภาค 6 มากที่สุดจำนวน 108 ราย ซึ่งทั้งหมดกระทำความผิดในลักษณะเดียวกัน คือ ซุกซ่อนเครื่องส่งสัญญาณขนาดเล็กไว้ในกางเกง เบื้องต้นทางสำนักงานตำรวจแห่งชาติได้สั่งตัดสิทธิ์การเข้าสอบและขึ้นบัญชีดำห้ามบุคคลดังกล่าวสอบเข้ารับราชการเด็ดขาด ส่วนแนวทางการสืบสวนนั้น ได้สั่งกำชับให้ผู้บัญชาการภาคดำเนินการสืบสวนและขยายผลการจับกุมไปยังผู้ที่กระทำผิดและมีส่วนเกี่ยวข้องกับการทุจริตดังกล่าว ซึ่งเจ้าหน้าที่มีเบาะแสและข้อมูลที่สำคัญ อาทิ ในพื้นที่ภูธรภาค 3 สามารถขยายผลต่อไปยังบ้านพัก และพบว่ามีการซุกซ่อนเงิน ส่วนวัตถุพยานที่ตรวจยึดได้ส่วนใหญ่ พบว่ามีลักษณะคล้ายกันทั้งหมด อาจเป็นกลุ่มเดียวกัน ซึ่งจะดำเนินการสืบสวนว่ามีการนำมาจากแหล่งใด ทั้งนี้สำหรับผู้กระทำผิดดังกล่าว ถือมีความผิดตาม พ.ร.บ.วิทยุโทรคมนาคม ทำให้เกิดคลื่นแทรกแซง มีโทษปรับ 1 แสนบาท จำคุกไม่เกิน 5 ปี หรือทั้งจำทั้งปรับ และความผิดฐานฉ้อโกงประชาชนอย่างไรก็ตาม ผู้บัญชาการศึกษา กล่าวยืนยันว่า การทรุจริตดังกล่าวไม่มีเจ้าหน้าที่ตำรวจเข้าไปมีส่วนเกี่ยวข้องแน่นอน และระบบการจัดการสอบยืนยันว่ารัดกุม โดยเฉพาะกระบวนการออกข้อสอบ พิมพ์ข้อสอบ และการเข้าสอบจะต้องผ่านการตรวจด้วยเครื่องตรวจจับสัญญาณและตรวจด้วยมืออย่างละเอียด จึงขอเตือนยังประชาชนและพ่อแม่ผู้ปกครอง อย่าตกเป็นเหยื่อผู้กระทำความผิดดังกล่าว ผบ.ตร.ขีดเส้นสืบสวนให้แล้วเสร็จคืนนี้พล.ต.อ.พงศพัศ พงษ์เจริญ รองผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ เปิดเผยว่า พล.ต.อ.เพรียวพันธ์ ดามาพงศ์ ผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ ได้สั่งการให้ชุดสืบสวนกองบัญชาการตำรวจนครบาล และเจ้าหน้าที่ที่เกี่ยวข้อง ดำเนินการสืบสวนและขยายผลการจับกุมไปยังโครงข่ายผู้กระทำผิดทั้งหมด กรณีตรวจพบการทุจริตการสอบนายสิบตำรวจ กว่า 200 ราย โดยให้ดำเนินการให้แล้วเสร็จภายในคืนนี้ พร้อมกันนี้ได้สั่งให้ชะลอการตรวจข้อสอบทั้งหมดไว้ก่อน จนกว่าการดำเนินการตรวจสอบแล้วเสร็จ โดยในวันพรุ่งนี้เวลา 14.00 น.จะมีการประชุม เพื่อสรุปผลการสอบสวน และพิจารณาว่าจะเลื่อนประกาศผลสอบจากเดิม ที่จะประกาศในวันที่ 21 มิถุนายนนี้ ไปวันที่เท่าใด รวมถึงความชัดเจน ว่าจะต้องจัดสอบใหม่หรือไม่ ทั้งนี้ รองผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ ยังกล่าวด้วยว่า จากการสอบปากคำผู้ต้องหาที่จับกุมตัวได้ 1 ราย พร้อมเงินสดกว่า 10 ล้านบาท ในพื้นที่กองบัญชาการตำรวจภูธรภาค 3 ซึ่งผู้ต้องหาให้การพาดพิงว่า มีนายตำรวจบางส่วนเกี่ยวข้อง โดยกระทำการในลักษณะชักชวน ชักจูง เพื่อให้ได้ผลประโยชน์ตอบแทน โดยเชื่อว่าขบวนการดังกล่าวมีลักษณะการทำเป็นขบวนการ และอาจเป็นไปได้ว่าอาจมีนายตำรวจเข้าไปมีส่วนเกี่ยวข้องจริง พร้อมยืนยันจะดำเนินการตรวจสอบอย่างโปร่งใส และให้ความเป็นธรรมกับผู้ที่ไม่มีส่วนเกี่ยวข้อง โดยเฉพาะผู้เข้าสอบอีกกว่า 2 แสนราย ที่มีความตั้งใจจะเข้ารับราชการตำรวจอย่างแท้จริง ตำรวจโคราชรวบแก๊งโกงสอบตำรวจ ได้ผู้ต้องหา 5 ราย พล.ต.ต.จักรทิพย์ โหละสุตสกุล, พล.ต.ต.กรกต สาริยา รองผู้บัญชาการตำรวจภูธรภาค 3, พล.ต.ต.องอาจ ผิวเรืองนนท์ ผู้บังคับการตำรวจภูธรจังหวัดนครราชสีมา, พ.ต.อ.ชัยเดช ปานรักษา, พ.ต.อ.วชิรวิชญ์ กฤษณ์ฤทธิ์ศักย์, พ.ต.อ.บุญเลิศ ว่องวัจนะ รองผู้บัญชาการตำรวจภูธรจังหวัดนครราชสีมา พร้อมด้วยเจ้าหน้าที่ตำรวจ สภ.เมืองนครราชสีมา ร่วมกันแถลงผลการจับกุม ขบวนการโกงข้อสอบการสอบคัดเลือกบุคคลภายนอก เพื่อบรรจุแต่งตั้งเป็นข้าราชการตำรวจชั้นประทวน ยศสิบตำรวจตรี ซึ่งได้เปิดทำการแข่งขันพร้อมกันทั้งประเทศ เมื่อวันที่ 10 มิถุนายน 2555 ที่ผ่านมา ได้ผู้ต้องหารวม 5 ราย ประกอบด้วย ประกอบด้วย นางเตือนใจ พงษ์พันธ์ อายุ 45 ปี , นายธนากร วิเศษ อายุ 36 ปี, นางศตพร วิเศษ อายุ 37 ปี , นายปัญญาศักดิ์ นิลเพ็ชร อายุ 30 ปี , นายสมชาย แสงทอง อายุ 49 ปี พร้อมเงินสดที่เรียกรับเงินจากผู้สมัครเข้าสอบคัดเลือก รวม 10 ล้าน 5 แสนบาท เอกสารประจำตัวผู้สมัครสอบ วิทยุสื่อสารติดซิมโทรทรัพย์ที่ใช้เป็นตัวกระจายสัญญาณ 2 เครื่อง และแผงวงจรอิเล็คทรอนิกส์ตัวรับสัญญาณที่ยึดได้จากตัวผู้สมัครเข้าสอบแข่งขัน จำนวน 22 ชุด หลังจากที่ทางเจ้าหน้าที่ตำรวจชุดสืบสวนสอบสวน สภ.เมืองนครราชสีมา สามารถตรวจยึดได้จากตัวผู้สมัครเข้าสอบ ก่อนที่จะเข้าห้องสอบตามสนามสอบต่างๆ ทั่วจังหวัดนครราชสีมา รวม 20 คน