ฉลามบู๊กว่าง,สายฟ้าชนโลมา,กิเลนปะทะโปลิศไทยลีกมิดวีคกรุ่งนี้

ความพร้อมก่อนเกมไทยลีกนัดกลางสัปดาห์พรุ่งนี้ 3 คู่บิ๊กแมตช์ ฉลามชลเต็มสูบพร้อมหักเขากว่างโซ้ง,สายฟ้าไม่มีกบกับโน้ตรับมือโลมาที่หวังแบ่งแต้ม และ เมืองทองจัดเต็มพร้อมรับมือตำรวจที่ไม่สมบูรณ์

ความพร้อมก่อนเกมสปอนเซอร์ไทยพรีเมียร์ลีกนัดกลางสัปดาห์ซึ่งจะลงสนามในวันพุธที่ 13 มิ.ย.นี้ 9 คู่ 9 สนามด้วยกัน โดยคู่บิ๊กแมตช์ที่น่าสนใจประกอบไปด้วย ชลบุรี เอฟซี จะเปิดบ้านพบกับ เชียงราย ยูไนเต็ด ที่สนามชลบุรี สเตเดี้ยม บุรีรัมย์ ยูไนเต็ด จะพบกับ พัทยา ยูไนเต็ด ที่สนามนิว ไอ-โมบาย สเตเดี้ยม และ เอสซีจี เมืองทองฯ ยูไนเต็ด จะพบกับ อินทรีเพื่อนตำรวจ ที่สนามเอสซีจี สเตเดี้ยม

ฉลามชลเต็มสูบพร้อมหักเขากว่างโซ้ง
เริ่มที่คู่แรกที่สนามชลบุรี สเตเดี้ยม เวลา 19.00 น. "ฉลามชล" ชลบุรี เอฟซี ทีมอันดับ 5 ของตารางมีอยู่ 21 คะแนน จะเปิดบ้านรับการมาเยือนของ "กว่างโซ้งมหาภัย" เชียงราย ยูไนเต็ด ทีมอันดับ 12 ของตารางมีอยู่ 16 คะแนน

ด้านเจ้าถิ่น "ฉลามชล" เกมนี้ยังต้องประสบปัญหากับเรื่องตัวผู้เล่นบาดเจ็บ ที่ลงไม่ได้แน่ๆ จะมี สุรีย์ สุขะ แบ็กขวาตัวเก่งกับ เจฟฟรี่ย์ ดูม็อง กองหลางชาวฝรั่งเศสที่ยังเจ็บทั้งคู่ อีกทั้งยังต้องเช็กฟิตอาการของ อดุล หละโสะ ที่เปลือกตาขวาแตกในเกมที่บุกไปชนะนครศรีธรรมราช ในเกมลีกคัพเมื่อสุดสัปดาห์ที่ผ่านมา แต่คาดว่าน่าจะลงสนามได้ ส่วนตัวหลักอื่นๆ พร้อมลงสนามกันครบ

"โค้ชเฮง" วิทยา เลาหกุล กุนซือชลบุรี เผยว่า "เกมนี้เราต้องเช็กความฟิตของผู้เล่นหลายคนเพราะเพิ่งจะกลับมาจากเกมลีกคัพ การพบกับเชียงราย ซึ่งเป็นทีมที่มีผู้เล่นต่างชาติอันตรายหลายคน ดังนั้นเราจะไม่ประมาทแน่นอน แต่การที่เราได้เล่นในบ้านก็เชื่อว่าจะเอาชนะได้ถ้าลูกทีมเล่นกันได้ตามมาตรฐานที่ควรจะเป็น"

สำหรับผู้เล่นที่คาดว่าจะลงสนามของชลบุรี เอฟซี ในระบบ 4-4-1-1 ประกอบไปด้วย สินทวีชัย หทัยรัตนกุล เป็นผู้รักษาประตู แบ็กขวา ชลทิตย์ จันทคาม แบ็กซ้าย อนุชา กิจพงษ์ศรี คู่เซ็นเตอร์เป็น สุทธินันท์ พุกหอม กับ โฟเด้ บองกาลี่ ตรงกลางมี อดุล หละโสะ กับ คาซุโตะ คูชิดะ กราบขวาเป็น นพนนท์ คชพลายุกต์ กราบซ้าย ณัฐพงษ์ สมณะ โดยมี เทิดศักดิ์ ใจมั่น เป็นกองหน้าตัวต่ำ และ พิภพ อ่อนโม้ เป็นหัวหอกตัวเป้า

ส่วนทีมเยือน "กว่างโซ้งมหาภัย" ที่เพิ่งจะบุกไปชนะกำแพงเพชร ในศึกโตโยต้า ลีก คัพ มาได้ เกมนี้ขุมกำลังตัวหลักยังอยู่กันครบ ไม่มีใครติดโทษแบนหรือบาดเจ็บแต่อย่างใด ทำให้ สเตฟาโน่ คูกูร่า เฮดโค้ชชาวบราซิลจะสามารถจัดผู้เล่นชุดที่ดีที่สุดลงสนามได้

ด้าน "เตโก้" กุนซือทีมเยือน กล่าวว่า "การบุกไปเยือนชลบุรี เป็นเกมที่หนักมาก เพราะเจ้าถิ่นเป็นทีมใหญ่และเล่นในบ้านได้ดี ตนยอมรับว่าเราเป็นรองค่อนข้างเยอะ นอกจากจะเป็นทีมเยือนแล้ว เรื่องตัวผู้เล่นก็เป็นรองด้วยเช่นกัน แต่ตนก็ยังมั่นใจในเรื่องของทีมเวิร์คที่เราจะจะบุกไปสู้กับชลบุรีได้อย่างสนุก โดยหวังว่าเราจะมีโอกาสแบ่งแต้มกลับออกมาได้"

สำหรับผู้เล่นที่คาดว่าจะลงสนามของเชียงราย ยูไนเต็ด ในระบบ 4-4-2 ประกอบไปด้วย อาทิตย์ ธนูศร เฝ้าเสาเป็นนายทวาร กองหลัง 4 คนแบ็กขวา อานนท์ นานอก แบ็กซ้าย กฤษฎี ประกอบของ เซ็นเตฮร์ เมอร์ฟี้ นักเบ้ กับ อันโตนิโอ เคลาดิโอ แผงมิดฟิลด์ใช้ ภาณุพงศ์ อารัมภ์วิโรจน์ กับ อิศวะ สิงห์ทอง ทำเกมตรงกลาง ด้านขวา อูเลี่ยน ซูซ่า ดา ซิลวา ด้านซ้าย ธีระศักดิ์ โพธิ์อ้น คู่หน้า นันทวัฒน์ แทนโสภา กับ โชคลาภ นิลแสง

สายฟ้าไม่มีกบกับโน้ตรับมือโลมาที่หวังแบ่งแต้ม
คู่ต่อมาเป็นเกมที่สนามนิว ไอ-โมบาย สเตเดี้ยม เวลา 19.00 น. แชมป์เก่า "ปราสาทสายฟ้า" บุรีรัมย์ ยูไนเต็ด ทีมอันดับ 3 มีอยู่ 21 คะแนนจาก 9 เกม จะเปิดบ้านรับการมาเยือนของ "โลมาฟ้าขาว" พัทยา ยูไนเต็ด ทีมอันดับ 11 ของตารางมีอยู่ 16 คะแนน

ความพร้อมของแชมป์เก่าบุรีรัมย์ ยูไนเต็ด เกมนี้จะหมดสิทธิ์ใช้งาน สุเชาว์ นุชนุ่ม กับ จักรพันธ์ แก้วพรม 2 กองกลางตัวเก่งของทีมที่ติดโทษแบน นอกจากนี้ก็จะไม่มี ฟรองค์ โออองด์ซ่า กองหน้าชาวแคเมอรูน ที่ยังคงเจ็บอยู่ ทำให้ "โค้ชแต็ก" น่าจะปวดหัวกับการจัดทัพพอสมควร

ด้านกุนซือเจ้าถิ่นอย่าง "โค้ชแต็ก" อรรถพล ปุษปาคม เผยว่า "เรานั้นต้องประสบปัญหากับนักเตะที่ติดโทษแบนและบาดเจ็บอยู่ตอนนี้ แต่ถึงอย่างไรเกมนี้ได้เล่นในบ้านจะต้องเอาชนะให้ได้สถานเดียว แต่ก้จะไม่ประมาทพัทยา ที่เป็นทีมที่มีเกมรับเหนียวแน่นอน เมื่อฤดูกาลที่แล้วพัทยาก็ทำผลงานได้ดีในเกมที่บุกมาเยือนบุรีรัมย์ ตนเชื่อว่าเกมจะออกมาสนุกและเราจะเป็นฝ่ายที่เก็บ 3 แต้มได้อย่างแน่นอน"

สำหรับผู้เล่นที่คาดว่าจะลงสนามของบุรีรัมย์ ในระบบ 4-3-3 ประกอบไปด้วย ศิวรักษ์ เทศสูงเนิน เป็นผู้รักษาประตู กองหลัง 4 คน แบ็กขวา อภิเชษฐ์ พุฒตาล แบ็กซ้าย ธีราทร บุญมาทัน เซ็นเตอร์ฮาร์ฟ โจเซฟ โอบาม่า กับ เอ็ควัลล่า เฮอร์มาน กองกลาง 3 คน สุรัตน์ สุขะ,จิรวัฒน์ มัครมย์ และ สุมัญญา ปุริสาย โดย 3 ประสานในแดนหน้ามี แฟรงค์ อาชิมปง,ซารีฟ สายนุ้ย และ สุริยา ดอมไธสง

ในขณะที่ทีมเยือนพัทยา ยูไนเต็ด เกมนี้จะยังไม่มี อิทธิพล พูลทรัพย์ เพเมกเกอร์ตัวเก่ง กับ ริวกิ โคซาว่า กองหน้าชาวญี่ปุ่นที่ยังมีอาการบาดเจ็บอยู่ แต่ก็จะได้ข่าวดีเมื่อ พอล เอ็คโคโล่ ดาวยิงตัวเก่งชาวแคเมอรูนกลับมาลงซ้อมได้แล้ว แต่น่าจะมีชื่อเป็นตัวสำรองในเกมนี้ ส่วนขุมกำลังที่เหลือพร้อมลงสนามได้ทั้งหมด

ด้าน "โค้ชหนุ่ย" เฉลิมวุฒิ สง่าพล กุนซือทีมเยือนเผยว่า "เกมนี้ถือว่าเป็นเกมที่หนักเพราะเราต้องไปเยือนแชมป์เก่าอย่างบุรีรัมย์ ซึ่งมีนักเตะทีมชาติเกือบทั้งทีม แต่เราเองก็ไม่ได้เกรงกลัวศักดิ์ศรีแชมป์เก่าแต่อย่างใด เราเองก็มีแนวทางของเรา โดยเมื่อปีที่แล้วเราก็เคยบุกไปยันเสมอเก็บ 1 แต้มออกมาได้ ตอนนี้ขวัญกำลังใจลูกทีมทุกคนกำลังเต็มเปี่ยม เชื่อว่าเราจะสู้กับบุรีรัมย์ได้สนุกและจะเก็บแต้มกลับออกมาได้สำเร็จ"

สำหรับผู้เล่นที่คาดว่าจะลงสนามของพัทยา ยูไนเต็ด ในระบบ 3-5-1-1 ผู้รักษาประตูเป็น นริศ ทวีกุล กองหลัง 3 คน มาเรียน จูฮาส,นิเวส ศิริวงค์ และ สมภพ นิลวงษ์ วิงแบ็กขวา ซีเกต หมาดปูเต๊ะ วิงแบ็กซ้าย เคสุเกะ โอกาว่า ตรงกลาง 3 คน อนุวัตน์ อินยิน,รังสฤทธิ์ สุทธิสา และ กฤษณะ ต่ายวัลย์ มี คิม ดูยอน เป็นกองหน้าตัวต่ำ และ กาเบรียล โอบาโตล่า เป็นศูนย์หน้าตัวเป้า

เมืองทองจัดเต็มพร้อมรับมือตำรวจที่ไม่สมบูรณ์
และบิ๊กแมตช์คู่สุดท้ายที่สนามเอสซีจี สเตเดี้ยม เวลา 19.45 น. เป็นการพบกันของ "กิเลนผยอง" เอสซีจี เมืองทองฯ ยูไนเต็ด จ่าฝูงไทยพรีเมียร์ลีกมีอยู่ 31 คะแนน จะเปิดบ้านรับการมาเยือนของ "เดอะโปลิศ" อินทรีเพื่อนตำรวจ ทีมอันดับ 14 ของตารางมีอยู่ 13

ด้านเจ้าถิ่น "กิเลนผยอง" เกมนี้เราจะขาดเพียงแค่ โคเน่ โมฮัมเหม็ด เพียงรายเดียวเท่านั้นที่มีอาการบาดเจ็บ ทำให้ความพร้อมถือว่าเกือบเต็มร้อยเปอร์เซ็นต์ ขุมกำลังตัวหลักทั้ง ดัสกร ทองเหลา,พิชิตพงษ์ เฉยฉิว,ดักโน่ เซียก้า,มาริโอ ยูรอฟสกี้ และ ธีรศิลป์ แดงดา พร้อมลงสนามได้ทั้งหมด 

ด้าน "ย็อคก้า" สลาวิซ่า โยคาโนวิช กุนซือเจ้าถิ่นเผยว่า "การเจอกับ อินทรีเพื่อนตำรวจ นั้นตนคิดว่าเป็นเกมที่หนัก เพราะพวกเขาถือเป็นทีมที่ดีทีมหนึ่ง แต่อย่างไรก็ตามเราได้เล่นในบ้าน ดังนั้นคงไม่มีทางเลือกอื่นนอกจากต้องคว้า 3 แต้มเท่านั้น และเราก็ยังไม่แพ้ใครในฤดูกาลนี้ มั่นใจทีมเราจะนำจ่าฝูงได้ต่อไปไม่มีปัญหา”

สำหรับผู้เล่นที่คาดว่าจะลงสนามของเอสซีจี เมืองทอง ในระบบ 4-3-3 ประกอบไปด้วย กวิน ธรมมสัจจานันท์ เป็นผู้รักษาประตู แบ็กขวา ปิยพล บรรเทา แบ็กซ้าย มงคล นามนวด คู่เซ็นเตอร์ ริ กวาง ชอน กับ ภานุพงศ์ วงศ์ษา ตรงกลางมี พิชิตพงษ์ เฉยฉิว,ดักโน่ เซียก้า และ ดัสกร ทองเหลา คุมเกมแดนกลาง ตัวทำเกมรุก 3 คนใช้ มาริโอ ยูรอฟสกี้,จักรพันธ์ พรใส และ ธีรศิลป์ แดงดา

ส่วนทีมเยือน "เดอะโปลิศ" เกมนี้มีปัญหาเรื่องตัวผู้เล่นที่บาดเจ็บและติดโทษแบน ที่เจ็บก็จะมี เลอันโดร ดอส ซานโตส ดาวยิงตัวเก่ง กับ ธนพัต ณ ท่าเรือ กองกลางห้องเครื่อง พร้อมกันนี้ ปาร์ค แจ ฮอง เซ็นเตอร์ตัวเก่งชาวเกาหลีใต้ก็ติดโทษแบนด้วย ทำให้สภาพทีมไม่สมบูรณ์ บวกกับฟอร์มช่วงหลังที่ไม่สู้จะดีเท่าไหร่ด้วย

ด้าน “โค้ชวัง” ธวัชชัย ดำรงอ่อนตระกูล กุนซือ อินทรีเพื่อนตำรวจ กล่าวว่า “เกมนี้เรามีนักเตะให้เลือกใช้น้อย เพราะมีตัวเจ็บและติดโทษแบนหลายคน ทำให้อาจต้องส่งผู้เล่นสำรองลงสนามในบางตำแหน่ง อีกทั้งยังต้องไปเยือนทีมใหญ่อย่างเมืองทองฯ ทำให้โอกาสเก็บชัยชนะคงเป็นไปได้ยาก แต่อย่างไรก็ตามเราจะสู้อย่างเต็มที่ และหวังว่าจะสร้างเวอร์ไพรส์แบ่งคะแนนอกมาได้”

สำหรับผู้เล่นที่คาดว่าจะลงสนามของอินทรีเพื่อนตำรวจ ในระบบ 4-4-2 ประกอบไปด้วย ภัทร ปิยะภัทร์กิติ เป็นผู้รักษาประตู กองหลังจากขวาไปซ้าย รังสรรค์ เอี่ยมวิโรจน์,อมาร่า เจอร์รี่,ชุมพล บัวงาม และ เดชา เพชรตะกั่ว กองกลาง 4 คน ปกเกล้า อนันต์,อัสมิง แม,ชาคริต บัวทอง และไพฑูรย์ นนทะดี กองหน้าคู่ใช้ สุรชาติ สารีพิมพ์ กับ ฟิลิปเป้ เฟอร์ไรร่า

สำหรับโปรแกรมไทยพรีเมียร์ลีกนัดกลางสัปดาห์ทั้ง 9 คู่ มีดังนี้
เวลา 18.00 น. โอสถสภา เอ็ม150 สระบุรี - บีอีซี เทโร ศาสน : สนาม อบจ. สระบุรี ถ่ายทอดสดทาง TRUE PREVIEW 9

เวลา 18.00 น. บีบีซียู เอฟซี - การท่าเรือไทย เอฟซี : สนาม ราชมังคลากีฬาสถาน ถ่ายทอดสดทาง TRUE SPORT 159

เวลา 18.00 น. อีสาน ยูไนเต็ด - บางกอกกล๊าส เอฟซี : สนาม กีฬากลาง จ.อุบลราชธานี ถ่ายทอดสดทาง สทท.11

เวลา 18.30 น. วัวชน ยูไนเต็ด - ทีทีเอ็ม เอฟซี : สนาม ติณสูลานนท์

เวลา 19.00 น. ชลบุรี เอฟซี - เชียงราย ยูไนเต็ด : สนาม ชลบุรี สเตเดี้ยม ถ่ายทอดสดทาง Special Sport (161)

เวลา 19.00 น. ทีโอที เอสซี - ชัยนาท เอฟซี : สนาม ทีโอที สเตเดี้ยม

เวลา 19.00 น. อาร์มี่ ยูไนเต็ด - เจนิฟู้ด สมุทรสงคราม เอฟซี : สนาม กองทัพบก

เวลา 19.00 น. บุรีรัมย์ ยูไนเต็ด - พัทยา ยูไนเต็ด : สนาม ไอ โมบาย สเตเดี้ยม ถ่ายทอดสดทาง SKTV (ทรู 69)

เวลา 19.45 น. เอสซีจี เมืองทอง ยูไนเต็ด - อินทรีเพื่อนตำรวจ : สนาม เอสซีจี สเตเดี้ยม ถ่ายทอดสดทาง TRUE SPORT 2 (102)