นายกฯถึงรร.รอยัลคลิฟพัทยาแล้วนั่งปธ.ถกการท่องเที่ยว

นายกฯถึงรร.รอยัลคลิฟพัทยาแล้วนั่งปธ.ถกการท่องเที่ยว

นายกฯถึงรร.รอยัลคลิฟพัทยาแล้วนั่งปธ.ถกการท่องเที่ยว
แชร์เรื่องนี้
แชร์เรื่องนี้LineTwitterFacebook

น.ส.ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร นายกรัฐมนตรี เป็นประธานการประชุมเชิงปฏิบัติการด้านการท่องเที่ยว เพื่อขับเคลื่อนนโยบายสร้างรายได้จากการท่องเที่ยว 2 ล้านล้านบาท ภายในปี 2558 ที่ โรงแรมรอยัล คลิฟ โฮเต็ล กรุ๊ป พัทยา จ.ชลบุรี โดยนายกรัฐมนตรี กล่าวแสดงความเชื่อมั่นว่า ยุทธศาสตร์ดังกล่าวจะสำเร็จภายใน 5 ปี โดยนโยบายนี้ เริ่มตั้งแต่ปี 2554-2558 ทั้งนี้ได้แถลงนโยบายไว้กับรัฐสภา ดังนั้นจึงต้องเร่งบูรณาการในการดำเนินการตามเป้าหมาย ซึ่งรัฐบาลมองว่า การท่องเที่ยวควรพัฒนาอย่างยั่งยืน เพราะสามารถสร้างรายได้ที่ชัดเจนให้กับประเทศ ขณะเดียวกัน การท่องเที่ยวเป็นจุดเริ่มต้นทางเศรษฐกิจของประเทศ หากวางยุทธศาสตร์ร่วมกันก็จะทำให้การท่องเที่ยวดีและมีคุณภาพ ยืนยันรัฐบาลให้ความสำคัญกับการท่องเที่ยวทั้งการส่งเสริมภาครัฐและภาคเอกชน จึงขอความร่วมมือกับทุกภาคส่วน ร่วมกันส่งเสริมให้เกิดความแข็งแรงและยั่งยืนต่อไป อย่างไรก็ตาม นายกรัฐมนตรี ยังให้ปรับยุทธศาสตร์ โดยให้เน้นการท่องเที่ยวเชิงวัฒนธรรมสิ่งแวดล้อมและธรรมชาติ ขณะที่เมื่อช่วงเช้าที่ผ่านมา นายกรัฐมนตรี พร้อมคณะ เดินทางโดยเฮลิคอปเตอร์ ลงพื้นที่นิคมอุตสาหกรรมมาบตาพุด จ.ระยอง โดย นายกรัฐมนตรี ได้ปฏิเสธที่จะตอบคำถามสื่อมวลชน โดยกล่าวสั้นๆ ว่า นายยงยุทธ ให้สัมภาษณ์แล้ว ด้าน นายยงยุทธ ในฐานะหัวหน้าพรรคเพื่อไทย กล่าวว่า ไม่กังวลที่พรรคประชาธิปัตย์ออกเดินสายโจมตีร่างพระราชบัญญัติปรองดองของรัฐบาล และจะทำให้ประชาชนเข้าใจผิด เพราะ ส.ส.พรรคเพื่อไทย มีการลงพื้นที่พบประชาชนอยู่แล้ว จึงไม่ต้องกำชับอะไรเป็นพิเศษ  ทั้งนี้ นายยงยุทธ ยังปฏิเสธตอบคำถามกรณีที่พรรคประชาธิปัตย์ เรียกร้องให้พิจารณาตัวเอง หลังคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ (ป.ป.ช.) ชี้มูลความผิดกรณีที่ดินอัลไพน์ พร้อมกันนี้ ยังไม่แสดงความเห็น เรื่องจุดยืนของพรรคเพื่อไทย ในการลงมติร่างแก้ไขรัฐธรรมนูญ ในวาระ 3 ด้วย นายกฯ สั่งเตรียมแผนเผชิญเหตุ และอุทกภัยน.ส.ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร นายกรัฐมนตรี พร้อมคณะ ลงพื้นที่นิคมอุตสาหกรรมมาบตาพุด จ.ระยอง เพื่อรับฟังการรายงานความคืบหน้าจาก ผู้ว่าราชการจังหวัดระยอง ในการดำเนินการตามข้อสั่งการของ นายกรัฐมนตรี เมื่อวันที่ 6 พ.ค. ที่ผ่านมา รวมถึงความคืบหน้าการดำเนินงาน กรณีเหตุเพลิงไหม้ บริษัท บีเอสที อิลาสโตเมอร์ส จํากัด และแผนปฏิบัติการภาวะฉุกเฉินกลุ่มนิคมอุตสาหกรรมพื้นที่มาบตาพุด โดย นายกรัฐมนตรี กล่าวขอบคุณหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง ในการติดตามแก้ไขปัญหากรณีเกิดเหตุเพลิงไหม้เมื่อเดือน พ.ค. และขอความร่วมมือ ผู้ว่าราชการจังหวัดระยอง และผู้ว่าการการนิคมอุตสาหกรรมแห่งประเทศไทย ให้ช่วยกันจัดเตรียมแผนเผชิญเหตุ เพื่อรองรับอุบัติเหตุและภัยพิบัติ โดยเฉพาะอุทกภัย ทั้งนี้ ได้มอบหมายให้ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงอุตสาหกรรม และหน่วยราชการของจังหวัด ร่วมกำหนดรายละเอียดเหล่านี้ลงในแผนพัฒนาอุตสาหกรรมในแต่ละพื้นที่ด้วย ม็อบภาค ต.อ. ชุมนุมหน้ามาบตาพุด รอยื่น นายกฯเครือข่ายประชาชนภาคตะวันออก และกลุ่มชาวบ้านที่ได้รับความเดือดร้อนจากโรงงานอุตสาหกรรม รวมตัวกันที่แยกเนินสำลี หน้าศูนย์ราชการจังหวัดระยอง เตรียมเคลื่อนขบวนเข้ายื่นหนังสือร้องเรียนต่อนายกรัฐมนตรี น.ส.ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร ที่เดินทางมาพร้อมกับ ผู้ว่าการการนิคมอุตสาหกรรมแห่งประเทศไทย เพื่อติดตามความคืบหน้าการแก้ไขปัญหานิคมอุตสาหกรรมมาบตาพุด และดูการซ้อมแผนฯ ของโรงงานอุตสาหกรรม ในนิคมอุตสาหกรรมมาบตาพุด จ.ระยอง นายกฯ ปลูกมะฮอกกานี ฉลองวันเกิด 45 ปี ที่มาบตาพุตเทศบาลเมืองมาบตาพุด จ.ระยอง จัดเตรียมต้นมะฮอกกานี จำนวน 45 ต้น เพื่อให้ น.ส.ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร นายกรัฐมนตรี ได้ปลูกไว้ด้านหน้าอาคารที่ทำการสำนักงานนิคมอุตสาหกรรมมาบตาพุด เพื่อเป็นสิริมงคล และเพื่อเป็นการอวยพรวันคล้ายวันเกิดปีที่ 45 ของ นายกรัฐมนตรี ที่จะถึงในวันที่ 21 มิ.ย. นี้ โดยในวันนี้ นายกรัฐมนตรี ลงมือปลูกเพียงต้นเดียว ส่วนที่เหลืออีก 44 ต้น ทางเจ้าหน้าที่ของทางเทศบาล และการนิคมฯ จะร่วมกันปลูกพื้นที่โดยรอบของนิคมในวันที่ 21 มิ.ย. ทั้งนี้ เจ้าหน้าที่เทศบาล เปิดเผยว่า เหตุที่เลือกต้นมะฮอกกานี เนื่องจากเป็นไม้ยืนต้นที่มีความแข็งแรง ทนทาน ทรหด ร่มเย็น และสามารถดูดทรัพย์มลพิษได้มาก จึงเหมาะสมที่จะนำมาปลูกในพื้นที่นิคมอุตสาหกรรมมาบตาพุด นายกฯ ชมซ้อมแผนเผชิญเหตุ มาบตาพุดน.ส.ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร นายกรัฐมนตรี เดินทางไปตรวจแถวรับความเคารพจากหน่วยตอบโต้ภาวะฉุกเฉินที่ ถนนไอ-แปด นิคมอุตสาหกรรมมาบตาพุด ทั้งนี้ นายกรัฐมนตรี ได้รับชมการสาธิตซ้อมแผนเผชิญเหตุปฏิบัติการภาวะฉุกเฉิน และศักยภาพของทีมดับเพลิงของกลุ่มนิคมอุตสาหกรรมมาบตาพุด โดยได้มีการจำลองเหตุการณ์เกิดอุบัติภัยระดับที่ 3 ซึ่งถือว่าเป็นระดับที่รุนแรงที่สุด โดยเป็นแผนเตรียมความพร้อมของศูนย์เฝ้าระวังและควบคุมคุณภาพสิ่งแวดล้อม (EMCC) อย่างไรก็ตาม สื่อมวลชนจากหลายสำนัก ได้เดินทางมาเกาะติดความเคลื่อนไหวอย่างใกล้ชิด
แชร์เรื่องนี้
แชร์เรื่องนี้LineTwitterFacebook