ไฟไหม้ร.ร.กวดวิชาโคราชหาม 27 น.ร.สำลักควันส่งร.พ.

ไฟไหม้ร.ร.กวดวิชาโคราชหาม 27 น.ร.สำลักควันส่งร.พ.

ไฟไหม้ร.ร.กวดวิชาโคราชหาม 27 น.ร.สำลักควันส่งร.พ.
แชร์เรื่องนี้
แชร์เรื่องนี้LineTwitterFacebook

เกิดเหตุเพลิงไหม้โรงเรียนกวดวิชา "ครูเเจ๋ว" เลขที่ 99-101 ถนนมนัส ต.ในเมือง อ.เมืองน จ.นครราชสีมา ขณะเกิดเหตุมีเด็กนักเรียนตั้งแต่ชั้นอนุบาล ถึง ม.2 ร่วม 200 คน จากโรงเรียนชื่อดังใน จ.นครราชสีมา หลายแห่ง กำลังนั่งเรียนพิเศษอยู่ โดยเพลิงเกิดขึ้นที่ชั้น 2 ของอาคารสูง 4 ชั้น เป็นเหตุให้เด็กนักเรียน 27 คน สำลักควัน เเละติดอยู่บนตึก เจ้าหน้าที่ดับเพลิงของเทมศบาลนครนครราชสีมาได้ใช้รถกระเช้าทุบกระจกเพื่อช่วยเหลือเด็กออกมาจากตึกนำส่งโรงพยาบาลอย่างโกลาหล โดยมีเด็กนักเรียนจำนวน 27 คน ได้รับบาดเจ็บเนื่องจากสำลักควัน หายใจไม่ออก แต่ไม่มีรายงานผู้เสียชีวิต โดยสาเหตุ เจ้าหน้าที่สันนิษฐานว่า เกิดจากหม้อแปลงไฟฟ้าระเบิดที่ห้องนอนของครูเเจ๋ว ชั้น 2 ของอาคาร สำนักเขตศึกษาโคราชระบุร.ร.กวดวิชาไฟไหม้เปิดไม่ได้รับอนุญาตภายหลังจากที่เกิดเหตุการณ์ไฟไหม้โรงเรียนกวดวิชาครูแจ๋ว ในอำเภอเมืองนครราชสีมา จนนักเรียนกว่า 150 คน ต้องหนีตายกันโกลาหล เมื่อช่วงเช้าวันนี้ ล่าสุด นายเผด็จศึก โชติกลาง รองผู้อำนวยการสำนักงานเขตพื้นที่การศึกษาปฐมศึกษานครราชสีมา เขต 1 (สพป.นม.เขต 1) ซึ่งเป็นประธานคณะกรรมการดูแลรับผิดชอบโรงเรียนเอกชน และโรงเรียนกวดวิชา ในพื้น สพป.นม.เขต 1 เปิดเผยว่า โรงเรียนกวดวิชาแห่งนี้ เป็นโรงเรียนกวดวิชาเถื่อน ซึ่งไม่มีใบอนุญาตประกอบการ แต่แอบเปิดทำการกวดวิชามาเป็นระยะเวลาเกือบ 10 ปีแล้ว โดยที่ทาง สพป.นม.เขต 1 ไม่ได้เข้ามาตรวจสอบมาตรฐานของตัวอาคารและห้องเรียนแต่อย่างใด จึงไม่มีบันไดหนีไฟ และระบบรักษาความปลอดภัยเท่าที่ควร โชคดีที่อาคารดังกล่าวมีชั้นดาดฟ้า ทำให้เจ้าหน้าที่ดับเพลิงสามารถใช้รถบันไดสูงช่วยเหลือนำเด็กทุกคนลงมาได้ด้วยความปลอดภัยทั้งนี้ นายเผด็จศึก ยังได้เปิดเผยอีกว่า ในปัจจุบันได้มีโรงเรียนกวดวิชาเกิดขึ้นเป็นจำนวนมาก โดยเฉพาะในพื้นที่รับผิดชอบของ สพป.นม.เขต 1 นั้น คาดว่าจะมีถึง 150 แห่ง แต่มีเพียง 50 แห่ง เท่านั้นที่มีใบอนุญาตประกอบการ รองผู้การโคราช สั่งหาหลักฐาน ร.ร.กวดวิชาไหม้ความคืบหน้ากรณีเกิดเหตุเพลิงไหม้โรงเรียนกวดวิชาครูแจ๋ว ซึ่งเป็นอาคารพาณิชย์ 4 ชั้น เลขที่ 99 / 101 ถ.มนัส ต.ในเมือง อ.เมือง จ.นครราชสีมา เมื่อช่วงสายวันนี้ ทาง พ.ต.อ.บุญเลิศ ว่องวัจนะ รองผู้บังคับการตำรวจภูธรจังหวัดนครราชสีมา เปิดเผยว่า ขณะนี้ได้สั่งการให้ทางเจ้าหน้าที่วิทยาการศูนย์พิสูจน์หลักฐาน 3 นครราชสีมา ได้เข้าไปตรวจสอบสถานที่เกิดเหตุ เพื่อหาหลักฐาน และสาเหตุของการเกิดเหตุเพลิงไหม้ในครั้งนี้อย่างละเอียดแล้ว ถึงแม้ว่าทางเจ้าของสถานประกอบการนั้น จะอ้างว่าได้ยินเสียงคล้ายหม้อแปลงระเบิด ก่อนจะเกิดเหตุเพลิงไหม้ แต่ทางเจ้าหน้าที่ตำรวจก็ยังไม่สามารถปักใจเชื่อได้ทั้งหมด และต้องทำการตรวจสอบอย่างละเอียดอีกครั้ง พร้อมกันนี้ ยังจะได้มีการตรวจสอบตัวอาคารร่วมกับทางเทศบาลนครนครราชสีมา ว่าเป็นอาคารได้รับการอนุญาตให้ใช้ประกอบการประเภทใด และมีมาตรฐานถูกต้องตรงตามที่กำหนดไว้หรือไม่ ซึ่งทุกอย่างยังอยู่ระหว่างการตรวจสอบของทางเจ้าหน้าที่วิทยาการ  ซึ่งคาดว่าผลการตรวจสอบจะต้องรออีกประมาณ 1 สัปดาห์
แชร์เรื่องนี้
แชร์เรื่องนี้LineTwitterFacebook