สื่อ-ประชาชนรอฟังไกล่เกลี่ยซีวิค9ศพแน่น

สื่อ-ประชาชนรอฟังไกล่เกลี่ยซีวิค9ศพแน่น

สื่อ-ประชาชนรอฟังไกล่เกลี่ยซีวิค9ศพแน่น
แชร์เรื่องนี้
แชร์เรื่องนี้LineTwitterFacebook

บรรยากาศที่ ศาลเยาวชนและครอบครัวกลาง ศาลนัดไกล่เกลี่ยในคดีที่พนักงานอัยการ ฝ่ายคดีเยาวชนและครอบครัว 1 เป็นโจทก์ยื่นฟ้อง เยาวชน อายุ 18 ปี เป็นจำเลยในฐานความผิดขับรถโดยประมาท เป็นเหตุให้ผู้อื่นถึงแก่ความตายและบาดเจ็บสาหัส และใช้โทรศัพท์ขณะขับรถ โดยจำเลยให้การปฏิเสธ ทั้ง 2 ข้อหา จากกรณีเมื่อช่วงค่ำ วันที่ 27 ธ.ค.2553 เยาวชนได้ยืมรถฮอนด้าซีวิค รุ่นไดเมนชั่น สีน้ำตาลของเพื่อน ขับมาบนถนนโทลล์เวย์ ขาเข้า ช่วงสำนักงานปรมณูแห่งชาติ และได้พุ่งชนรถตู้โดยสาร โตโยต้า คอมมูเตอร์ วิ่งระหว่าง มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ รังสิต-อนุสาวรีย์ชัยสมรภูมิ จนเป็นเหตุให้มีผู้เสียชีวิตถึง 9 ราย โดยก่อนหน้านี้ ศาลยังไม่มีคำพิพากษาในคดีดังกล่าว เนื่องจาก ศาลได้ให้มีการเจรจาไกล่เกลี่ยของคู่ความทั้ง 2 ฝ่าย ซึ่งเป็นไปตามกระบวนการพระราชบัญญัติศาลเยาวชนและครอบครัวและวิธีพิจารณาคดีและครอบครัว พ.ศ.2553 บรรดาญาติของทั้ง 2 ฝ่าย ได้เดินทางมายังศาล เพื่อทำการไกล่เกลี่ยเป็นที่เรียบร้อยแล้ว ขณะที่มีบรรดาสื่อมวลชนจากทุกสำนักที่ให้ความสนใจเดินทางมาบันทึกภาพและทำข่าวกันอย่างเนืองแน่น  บิดาผู้เสียชีวิต 9 ศพ มาศาลขอฟังข้อเสนอจำเลยก่อนน.พ.กฤช รอดอารีย์ บิดาของ นายเกียรติมันต์ รอดอารีย์ นักศึกษามหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ หนึ่งในผู้เสียชีวิต จากกรณีที่เยาวชน อายุ 18 ปี ขับรถพุ่งชนรถตู้บนทางด่วนโทลเวย์ เป็นเหตุให้มีผู้เสียชีวิต 9 ราย เมื่อวันที่ 27 ธ.ค. 2553 ที่เดินทางมาศาลเยาวชนและครอบครัวกลาง หลังศาลนัดไกล่เกลี่ยประนีประนอมคดี โดยกล่าวว่า เบื้องต้นยังไม่เข้าใจขั้นตอนของกระบวนการไกล่เกลี่ย แต่รู้สึกไม่พอใจที่การเดินทางมาในวันนี้ยังไม่มีโอกาสได้พบจำเลย เนื่องจากหวังว่าการนัดมาในวันนี้น่าจะมีความชัดเจนและได้พบกับจำเลย อีกทั้งไม่อยากให้คดียืดเยื้อ เพราะเป็นการบั่นทอนจิตใจ ขณะที่ นายณรงค์ ใจหาญ อาจารย์คณะนิติศาสตร์ มหาวิทลัยธรรมศาสตร์ ในฐานะที่ปรึกษาด้านกฎหมายของญาติผู้เสียหาย กล่าวว่า ยังไม่มีการเตรียมข้อมูลใดๆ ต้องฟังข้อเรียกร้องของผู้เสียหาย เเละฟังข้อเสนอของฝ่ายจำเลยก่อน ครึ่งวันยังไม่ได้ข้อยุติไกล่เกลี่ย 9 ศพตลอดครึ่งวันที่ศาลเชิญญาติผู้เสียหาย คดีเยาวชนอายุ 18 ปี ขับรถพุ่งชนรถตู้โดยสารบนทางด่วนดอนเมืองโทลเวย์ เป็นเหตุให้มีผู้เสียชีวิต 9 ราย เมื่อวันที่ 27 ธ.ค. 2553 เข้าพบนักจิตวิทยา ซึ่งเป็นขั้นตอนหนึ่งในกระบวนการไกล่เกลี่ย จนถึงขณะนี้ ยังไม่ได้ข้อสรุป โดย นายวีระศักดิ์ ทัพขวา หัวหน้างานสำนักงานช่วยเหลือประชาชนทางกฎหมาย ศูนย์นิติศาสตร์ คณะนิติศาสตร์มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ ทีมที่ปรึกษาด้านกฎหมายของผู้เสียหาย กล่าวว่า ในช่วงเช้ายังไม่ได้ข้อสรุป โดยยังอยู่ในขั้นตอนการพูดคุยกับนักจิตวิทยาและนักสังคมสงเคราะห์ ซึ่งในช่วงบ่าย จะมีการพูดคุยกันอีกครั้ง โดยไม่ยืนยันว่าจะได้ข้อสรุปหรือไม่ ทั้งนี้ เลขานุการศาลได้กำชับเรื่องการให้ข้อมูล เนื่องจากยังอยู่ในข้อมูลการพิจารณา จึงจำเป็นต้องระมัดระวัง สำหรับขั้นตอนการพูดคุยกับนักจิตวิทยา ได้มีการเชิญครอบครัวผู้เสียหายและครอบครัวของตัวเยาวชนที่เป็นจำเลย ซึ่งในวันนี้ ส่งตัวแทนมาศาลได้แยกฝั่งของผู้เสียหาย และจำเลยอยู่คนละห้อง เพื่อหลีกเลี่ยงการเผชิญหน้า โดยในฝั่งของผู้เสียหายได้มีการสอบถามความรู้สึก ซึ่งยืนยันว่าต้องการให้ศาลชี้ในคดีว่าใครเป็นผู้กระทำผิด บิดาน.ศ.มธ.เผยศาลเรียกคุยรายละเอียดไกล่เกลี่ยพ.ต.อ.ศรัญ นิลวรรณ บิดา น.ส.สุดาวดี นิลวรรณ นักศึกษามหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ ที่เสียชีวิตจากกรณีที่เยาวชนอายุ 18 ปี ขับรถพุ่งชนรถตู้บนทางด่วนดอนเมืองโทลล์เวย์ เมื่อวันที่ 27 ธ.ค. 2553 โดยกล่าวว่า ก่อนการเดินทางมาในวันนี้ เข้าใจว่าเป็นการไกล่เกลี่ยก่อนการตัดสินคดี ซึ่งแต่เดิมทางกลุ่มผู้เสียหายยังมองไม่เห็นทางออก ว่าจะสามารถไกล่เกลี่ยได้ เนื่องจากจำเลยยังไม่เคยยอมรับผิดตั้งแต่ต้น และเมื่อมาถึงกลับพบว่าเป็นเพียงการมาพูดคุยหาข้อมูลจากครอบครัวผู้เสียหายของศูนย์ฟื้นฟูเด็กและเยาวชนและครอบครัว ของศาลเยาวชนและครอบครัวกลาง โดยมี นักจิตวิทยา นักสังคมสงเคราะห์ เป็นผู้ที่มาสอบถามข้อมูล และความรู้สึกว่าที่ผ่านมาตั้งแต่เกิดเหตุ มีความต้องการและรู้สึกอย่างไร เพื่อเป็นแนวทางของขั้นตอนการดำเนินการต่อไป โดยแต่ละครอบครัวเห็นตรงกันว่า ที่ผ่านมาเวลาได้ช่วยเยียวยาไปแล้วส่วนหนึ่ง ซึ่งเริ่มรับได้กับเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น แต่ก็ไม่อาจลืมความสูญเสียได้ โดยทั้งหมดต้องการให้ศาลนัดวันพิพากษาเพื่อตัดสินคดีโดยเร็ว ซึ่งหลังจากนี้ ก็จะเป็นขั้นตอนการรอคณะกรรมการพิจารณาของศาลประชุมหารือเพื่อกำหนดขั้นตอนการดำเนินการต่อไป โดยหากศาลจะมีการนัดมาพูดคุยทำความเข้าใจอีก ทางผู้เสียหายก็จะมีการพิจารณาว่า มีความจำเป็นหรือไม่ หากไม่จำเป็น ก็จะของด อย่างไรก็ตาม ในส่วนของจำเลยที่ไม่ได้เดินทางมา แต่ส่งตัวแทนมานั้น ถือเป็นสิทธิ์ของจำเลย ไม่สามารถบังคับได้ และหลังได้เกิดเหตุ ก็ยังไม่ได้รับการติดต่อจากจำเลย  
แชร์เรื่องนี้
แชร์เรื่องนี้LineTwitterFacebook