เปิดสัญญาบัวขาว กลับสู่เส้นทางมวยอีกครั้ง
ก่อนอื่นต้องขอแสดงความยินดีกับบัวขาวและค่าย ป.ประมุข ที่เวลานี้ต่างฝ่ายตกลงกันลงตัวแล้วในเรื่องของสัญญาการชกมวยของบัวขาว โอเคกันในราคา 60-40 ชัดเจน
เป็นประเด็นร้อนแรงแห่งปีเลยก็ว่าได้สำหรับ บัวขาว หรือ นายสมบัติ บัญชาเมฆ กับปัญหาทางค่าย ป.ประมุข ที่สุดท้ายแล้วเจ้าตัวขอยุติปัญหาด้วยการแขวนนวมหลังจากที่ตกลงสัญญากันไม่ได้
จนเกิดเป็นคำถามกับแฟนมวยว่าหลังจากนี้บัวขาวแขวนนวมไปแล้ว บัวขาวจะทำอะไรต่อไป ซึ่งบนโลกออนไลน์ก็ได้มีภาพบัวขาวออกมาฝึกซ้อมศิลปะการต่อสู้ที่ต่างประเทศจนมีข่าวลือมาว่าบัวขาวจะหันไปเอาดีทางด้าน MMA (Mixed Martial Arts) ซึ่งเป็นศิลปะการต่อสู้แบบผสมผสาน เพราะเป็นทางออกเดียวที่ไม่ผิด พรบ. มวยไทย เนื่องจาก MMA เป็นศิลปะการต่อสู้ที่อยู่นอกเหนือข้อบังคับของ พ.ร.บ มวย ซึ่งชัดเจนแล้วว่าว่าบัวขาวสามารถเล่นกีฬาชนิดนี้ได้อย่างแน่นอน
แต่สุดท้ายทั้งบัวขาวและค่าย ป.ประมุข จบลงกันด้วยดีแล้วหลังจากที่ศาลนัดไกล่เกลี่ยในเรื่องของสัญญาในการชกมวย เมื่อวันที่ 2 กรกฎาคมที่ผ่านมา ซึ่งวันนี้เราจะเอามาให้ดูกันเป็นข้อๆไปเลยว่า สัญญานั้นเป็นธรรมกับบัวขาวหรือไม่
โดยในสัญญาประนีประนอมยอมความต่อหน้าศาลมีข้อความดังต่อไปนี้
1.บัวขาวจะขึ้นเวทีมวยโดยใช้ชื่อว่า บัวขาว ป.ประมุข จนถึงวันที่ 4 พฤศจิกายน 2561 โดยรายได้ทั้งหมด บัวขาวจะได้ส่วนแบ่ง 60 เปอร์เซ็นต์ของรายได้ทั้งหมด ทางค่ายป.ประมุขรับไป 40 เปอร์เซ็นต์ ส่วนรายได้ทางด้านโฆษณาและการโชว์ตัวนั้น บัวขาวจะได้ส่วนแบ่ง 75 เปอร์เซ็นต์ ค่ายได้ 25 เปอร์เซ็นต์ โดยในสัญญาระบุอีกว่าหากบัวขาวไม่สามารถชกมวยต่อไปได้ ข้อตกลงเรื่องเงินส่วนแบ่งถือว่ายุติลง
2.การรับงานต่างๆของบัวขาวไม่ว่าจะโฆษณาหรือชกมวย การตัดสินใจขึ้นอยู่กับบัวขาวเท่านั้น
3.บัวขาวสามารถฝึกซ้อมมวยหรืออยู่อาศัยที่ไหนก็ได้ ไม่จำเป็นต้องเฉพาะค่ายป.ประมุข
4.ทั้งสองฝ่ายถอนเรื่องต่างๆที่ได้ยื่นไว้กับคณะกรรมการกีฬามวยทั้งหมดและไม่เรียกร้องอะไรต่อกันอีก
5.ค่ายป.ประมุขยินยอมให้บัวขาวขึ้นชกไทยไฟต์ได้
6.ค่ายป.ประมุขถอนฟ้องบริษัท สปอร์ต อาร์ต จำกัด และจ่ายเงินค่าตัวบัวขาวให้กับทางค่ายป.ประมุขภายใน 15 วันนับตั้งแต่ทำสัญญาฉบับนี้
7. ทั้งสองฝ่ายปฏิบัติตามสัญญานี้อย่างเคร่งครัด หากฝ่ายใดผิดข้อสัญญา ให้อีกฝ่ายดำเนินการฟ้องร้องได้ทันที
ซึ่งดูจากสัญญาฉบับนี้แล้วค่อนข้างโปร่งใสและเป็นธรรมต่อบัวขาวมากเลยทีเดียว ซึ่งทำให้หลังจากนี้บัวขาวสามารถกลับมาชกมวยอีกครั้งได้ ถือว่าเป็นเรื่องที่น่ายินดีที่แฟนมวยจะได้ดูฮีโร่มวยไทยได้ขึ้นชกมวยอีกครั้ง พร้อมทำชื่อเสียงให้ประเทศชาติได้อย่างสบายใจ
ไม่ต้องมาปวดหัวในเรื่องของผลประโยชน์อีกแล้ว
เครดิตภาพ - เฟซบุ๊ค Banchamek Gym