อี๊ดรับเลิกแฟนอ้างงานรุมโต้ปุ๋ย รุ่งทิวามือที่3

อี๊ดรับเลิกแฟนอ้างงานรุมโต้ปุ๋ย รุ่งทิวามือที่3

อี๊ดรับเลิกแฟนอ้างงานรุมโต้ปุ๋ย รุ่งทิวามือที่3
แชร์เรื่องนี้
แชร์เรื่องนี้LineTwitterFacebook

คบหากันมาร่วม 10 ปี สำหรับนักร้องหนุ่มอารมณ์ดี "อี๊ด-สมพงษ์ คุนาประถม" หรือ อี๊ด โปงลางสะออน กับแฟนสาวนอกวงกาว "นุจ-นุจจรินทร์ พลแสน" แต่สุดท้าย ความสัมพันธ์ก็ต้องจบลง โดยงานนี้ หนุ่มอี๊ด ก็เปิดเผยว่า "ก็เป็นเรื่องของเวลาครับ เพราะผมเป็นคนที่จริงจังกับการทำงานมาก ไม่ค่อยมีเวลาได้ดูแลเขา เขาเป็นคนดีมาก เราก็เข้าใจความเป็นผู้หญิง เพราะเราทำงานแบบนี้ ก็อาจจะหาเวลาดูแลกันยาก ช่วงนี้ก็ห่างกัน เขาก็กลับไปอยู่ที่ขอนแก่นด้วย สาเหตุที่เลิกกัน มันก็เป็นเรื่องเวลา คนเราคบกันมานาน ความหวานก็น้อยลง ไม่มีใครผิดหรือถูก เพียงแต่ว่าบางทีความคิดก็ต่างกัน เราคบกันมานาน ตั้งแต่สมัยเรียนมัธยม ก็น่าจะ 10 กว่าปีแล้ว ถามว่ามีการผูกแขน หรือ แต่งงานกันหรือยัง ก็ยังไม่มี ก่อนจะเป็นศิลปิน เราก็บอกเขาว่า ขอทำหน้าที่ตรงนี้ก่อน เขาเองก็เป็นคนช่วยดูแลน้องๆ ในวงด้วย แต่พอสักระยะนึง เราก็มาคุยกันด้วยเหตุและผลว่าห่างกัน ก็ลองดู เผื่ออะไรมันจะดีขึ้น และที่เลิกกัน ก็ไม่ใช่เพราะยังไม่ยอมแต่งสักที จริงๆ แม่เขาก็มาอยู่ที่บ้าน มาช่วยดูแล เราก็ให้ความมั่นใจเขา เป็นช่วงที่ผมกำลังจะเริ่มคิดเรื่องนี้ เพราะก่อนหน้านั้น เราก็คุยเรื่องแต่งงานกันไว้แล้ว ซึ่งก็คุยมานานแล้ว ตั้งแต่ตอนมาเรียนกรุงเทพฯ ด้วยกัน ก็ขอเก็บเงิน ทำหน้าที่ก่อน เรื่องมีมือที่ 3 ก็ขอบอกว่า ไม่ใช่เลย ด้วยความที่แฟนเป็นคนขี้หึง ผมเองก็เป็นศิลปิน เวลาไปไหนมาไหน ก็ขี้เล่น คนอื่นก็เป็นแค่ตัวประกอบ แต่จริงๆ ผมก็มีเขาคนเดียว แล้วข่าวที่ว่า ผมคบกับ "ปุ๋ย-รุ่งทิวา" นั้น ก็ไม่เกี่ยวเลย น้องเขาเป็นคนที่คอยดูแลคิวงานให้ เขาเข้ามาที่หลัง ตอนที่เกิดเรื่อง เราไม่ได้รู้จักกันเลย คือ เราเลิกกันก่อนที่จะมาเจอน้องอีก จะเรียกว่าเป็นแฟนคนใหม่ ก็ไม่ใช่ ไม่ได้เป็นแฟน คือ ผมจ้างเขาทำงานเป็นเงินเดือนอยู่เพื่อดูแล ตอนที่แฟนผมอยู่ เขาก็ช่วยดูแล แล้วก็มีคนมาแนะนำให้รู้จักทีหลัง น้องเขาก็เก่งดี แต่อนาคตไม่รู้ว่า ข้างหน้าจะเป็นยังไง ก็มีแต่คนแซว เราก็คิดอยู่ว่าจะเอาจริงไหม แต่ผมก็ว่า อย่าเพิ่งเลยดีกว่า เพราะไม่เคยอกหักในชีวิต เพิ่งจะมาเจอครั้งนี้ อาจจะมีพลังอ่อนลง แต่ก็ต้องทำใจให้เร็วที่สุด เพราะเราต้องพาน้องๆ ก้าวต่อไป ตอนนี้ก็ถือว่า อยู่ในช่วงทำใจ เพราะคนเราอยู่กันมานาน พออยู่คนเดียวแล้ว รู้สึกเหมือนขาดคนที่ช่วยประคับประคองกันมา ยังเป็นห่วงกันอยู่ ก็โทรไปหากันเรื่อยๆ มีอะไรก็ยังยินดีช่วยเหลือ ถามว่าคิดจะตามง้อไหม เรื่องนั้นเขาคงมีคนดูแลแล้ว แต่ก็ยังคิดถึงอยู่ บอกเขาว่า มีอะไรให้ช่วย เราก็ยินดีลงไปดูแลให้ ธุรกิจบางอย่างที่เขาคิดจะทำ มันไม่ใช่ง่ายๆ ธุรกิจเล็กๆ แต่ใช้เงินเยอะเหมือนกัน อยากให้เขาคิดดีๆ จริงๆ เรื่องนี้ก็มีคนบอกมา ผมก็ไม่กล้าถามเขาหรอก ถ้าผมมีคนใหม่ ผมก็จะปรึกษาเขาเหมือนกัน หรือเขามีใคร ผมก็จะให้คำปรึกษาเขา อยากเป็นเพื่อนที่สนิทที่สุด เรารักกันไม่ได้ แต่ก็สามารถเป็นเพื่อนสนิทที่คุยกันได้ ถามว่า กลัวคนจะมองว่าเริ่มคบกันจากศูนย์ แล้วพอเริ่มมีก็เลิกรากันไหม ผมไม่กลัว ผมไม่ใช่คนใจไม้ไส้ระกำ เขาก็ไม่ใช่คนเอาเปรียบใครเหมือนกัน เราอยู่ได้ถึงทุกวันนี้ เพราะเราซื่อสัตย์และดูแลทุกคนจากใจจริงๆ ไม่ใช่ว่าไม่แต่งงาน แล้วผมจะไม่ให้อะไรเขาเลย ถึงตอนนี้ ผมก็ยังรักเขาอยู่ เราอยู่ด้วยกันมาขนาดนี้ จะตัดใจเลย ก็คงเป็นไปไม่ได้ ผมเชื่อว่า เขาก็คงนึกถึงเราอยู่เหมือนกัน โอกาสที่จะกลับมาคืนดีกัน ก็คงยาก เราไม่ค่อยได้เจอกัน ก็แล้วแต่ฟ้าลิขิตแล้วกัน"
แชร์เรื่องนี้
แชร์เรื่องนี้LineTwitterFacebook