ศาลรธน.เริ่มไต่สวน7ผู้ร้อง-วิรัตน์ย้ำล้มล้างการปกครอง

ศาลรธน.เริ่มไต่สวน7ผู้ร้อง-วิรัตน์ย้ำล้มล้างการปกครอง

ศาลรธน.เริ่มไต่สวน7ผู้ร้อง-วิรัตน์ย้ำล้มล้างการปกครอง
แชร์เรื่องนี้
แชร์เรื่องนี้LineTwitterFacebook

บรรยากาศการนัดไต่สวน พยานฝ่ายผู้ร้องเรื่องคำร้องขอให้ศาลรัฐธรรมนูญ พิจารณาวินิจฉัยตามรัฐธรรมนูญ มาตรา 68  ขณะนี้บรรดาฝ่ายผู้ร้องและพยานได้เข้าร่วมห้องที่ห้องประชุมแล้ว โดยพยานและฝ่ายผู้ร้องไม่ได้เข้าร่วมไต่สวนครบทั้งหมด 7 คน ขณะที่ ผู้ติดตามทั้งฝ่ายร้องและผู้ถูกร้อง ได้เดินทางเข้าร่วมรับฟังการไต่สวนด้วย อาทิ นายสมชาย แสวงการ นายถาวร เสนเนียม นายพิทูร พุ่มหิรัญ และ นายชูศักดิ์ ศิรินิล ซึ่งเป็นตัวแทนของฝ่ายผู้ร้องและผู้ถูกร้อง ได้เข้าฟังการไต่สวนทั้งนี้ ก่อนการเข้าไต่สวนนั้น นายวิรัตน์ กัลยาศิริ ส.ส. พรรคประชาธิปัตย์ ในฐานะผู้ร้องที่ 3 ได้ให้สัมภาษณ์ก่อนเข้าห้องไต่สวนว่า วันนี้ มีความมั่นใจในข้อมูลและหลักฐานที่จะนำมากล่าวต่อศาล พร้อมทั้งเชื่อว่า เป็นการกระทำที่ล้มล้างการปกครอง ขณะที่ กลุ่มมวลชน ทั้งกลุ่มกองทัพปลดแอกประชาชนเพื่อประชาธิปไตย และกลุ่มเสื้อหลากสี ได้คอยให้กำลังใจคณะตุลาการศาลรัฐธรรมนูญ และการรักษาความปลอดภัย ก็ยังคงเป็นไปอย่างเข้มงวด สมเจตน์ไม่กดดันศาลรธน.ไต่สวนพล.อ.สมเจตน์ บุญถนอม ส.ว.สรรหา ในฐานะผู้ร้องที่ 1 และพยานฝ่ายผู้ร้อง ในคดีที่ศาลรัฐธรรมนูญ รับคำร้องไว้วินิจฉัยว่า การแก้ไขรัฐธรรมนูญ อาจเป็นการล้มล้างการปกครองในระบอบประชาธิปไตย กล่าวกับ สำนักข่าว ไอ.เอ็น.เอ็น. ว่า ในวันนี้ที่จะไปร่วมไต่สวน จะพยายามเต็มที่ ทำให้ดีที่สุด โดยไม่หนักใจ หรือ กดดัน เพราะไม่ได้ตั้งความหวังเรื่องผลการตัดสิน ทั้งนี้การยื่นเรื่องถือว่าทำตามหน้าที่ เพราะเห็นภัยจะเกิดขึ้น หากปล่อยไปจะเกิดความเสียหายต่อประเทศอย่างร้ายแรงและกระจายความขัดแย้ง เกิดการต่อสู้กันมากขึ้น ดังนั้นจึงขึ้นอยู่กับศาลว่าจะเห็นในสิ่งที่จะนำเสนอนี้หรือไม่นายสุรพล นิติไกรพจน์ อดีตสมาชิกสภานิติบัญญัติแห่งชาติ ในฐานะพยานฝ่ายผู้ร้องที่ 5 กล่าวกับ สำนักข่าว ไอ.เอ็น.เอ็น. ว่า ยังไม่ขอตอบรายละเอียดใด ๆ เพราะจนถึงตอนนี้ ยังไม่ทราบเรื่องว่ามีประเด็นใดบ้าง และไม่ขอตอบว่า วันนี้จะไปที่ศาลด้วยตนเองหรือไม่ "วรินทร์" พร้อมลุย มั่นใจเต็ม 100 นายวรินทร์ เทียมจรัส แกนนำกลุ่มสยามสามัคคี ในฐานะผู้ร้องที่ 6 และพยานฝ่ายผู้ร้อง ในคดีที่ศาลรัฐธรรมนูญ รับคำร้องไว้วินิจฉัยว่าการแก้ไขรัฐธรรมนูญ อาจเป็นการล้มล้างการปกครองในระบอบประชาธิปไตย กล่าวกับ สำนักข่าว ไอ.เอ็น.เอ็น. ว่า การไต่สวนวันนี้ ได้เตรียมการเรียบร้อย ไม่มีปัญหา คาดว่า ศาลคงให้เริ่มไต่สวนตามลำดับ โดยส่วนตัวจะอธิบายเรื่องข้อกฎหมายที่ว่ ามาตรา 291 ไม่สามารถแก้ไขได้ แต่สามารถแก้มาตราอื่นได้ ดังนั้น ก็ขัดรัฐธรรมนูญ ถือว่าล้มล้างรัฐธรรมนูญเพราะเป็นการเงื่อนไขใหม่ พร้อมจะเสนอมูลเหตุจูงใจ จากข่าวตั้งแต่ปี 2550 ที่ผ่านมา เช่นการให้ มาตรา 112 ทั้งนี้ ย้ำว่า มั่นใจเต็มร้อยและยังเชื่อว่า ศาลไม่มีปัญหา หรือ ความกดดัน เพราะตุลาการทุกคน ผ่านงานมา 30 - 40 ปี ผ่านวิกฤติมาหมดแล้ว แต่ใครจะเอากฎหมู่อยู่เหนือกฎหมาย ก็ไม่เป็นไร "ไม่มีปัญหาหรอกครับ ศาลท่านผ่านงานมา 30 - 40 ปี ทุกคน ท่านก็ผ่านวิกฤติตรงนี้มาหมดแล้วล่ะ คงไม่มีปัญหาอะไร" นายวรินทร์ กล่าวทั้งนี้ นายวรินทร์ เชื่อว่า หลังจบการไต่สวนแล้ว ใช้เวลาไม่นาน ศาลจะมีคำวินิจฉัยออกมา เพราะศาลเห็นพยานหลักฐาน แต่ละฝ่ายทั้งหมดแล้ว "วันธงชัย" พร้อมเต็ม 100 - "เดชอุดม" บอก ปกติทุกอย่างนายวันธงชัย ชำนาญกิจ ทนายความอิสระ ในฐานะผู้ร้องที่ 3 และพยานฝ่ายผู้ร้อง ในคดีที่ศาลรัฐธรรมนูญ รับคำร้องไว้วินิจฉัย ว่า การแก้ไขรัฐธรรมนูญอาจเป็นการล้มล้างการปกครองในระบอบประชาธิปไตย กล่าวกับ สำนักข่าว ไอ.เอ็น.เอ็น. ว่า พร้อมเต็ม 100 ไม่กดดัน ในการไต่สวนวันนี้ แม้ว่าคดีนี้จะเป็นคดีใหญ่คดีแรกของตนเอง ทั้งนี้ ส่วนตัวมั่นใจในพยานหลักฐานที่นำเสนอไป ด้วยข้อกฎหมายที่ชัดเจนว่า มาตรา 291 ไม่สามารถแก้ตัวเองได้ ขณะเดียวกัน ยังยอมรับว่า กลัวอยู่บ้างเรื่องความปลอดภัย เพราะ 2 - 3 วัน ที่ผ่านมา มีรถยนต์น่าสงสัย มาวนอยู่หน้าบ้านด้วย"มั่นใจเบื้องต้น เรื่องข้อกฎหมาย ว่า ม.291 ไม่สามารถแก้ตัวมันเองได้ มั่นใจ มาตรานี้มากกว่า และมาตรา 68 ก็ชัดอยู่" นายวันธงชัยกล่าวด้าน นายเดชอุดม ไกรฤทธิ์ ส.ว.สรรหา ในฐานะพยานผู้ร้องคนที่ 5 กล่าวกับ สำนักข่าว ไอ.เอ็น.เอ็น. ว่า ในการไปร่วมไต่สวน วันนี้ ส่วนตัวไม่ได้เตรียมการอะไร ทุกอย่างเป็นไปตามปกติ บก.น.2 จัดตำรวจ 200 นายดู ศาลรธน.ไต่สวนพล.ต.ต.สำเริง สุวรรณพงษ์ ผบก.น.2 กล่าวถึงมาตรการดูแลรักษาความปลอดภัยศาลรัฐธรรมนูญ ในวันนี้ (5 ก.ค.) ที่จะมีการไต่สวนเรื่องการแก้ไขรัฐธรรมนูญว่า เบื้องต้น ถ้าหากกลุ่มผู้ชุมนุมมี 2 ฝ่าย คือ ทั้งฝ่ายสนับสนุนและคัดค้าน ก็จะมีการแบ่งพื้นที่ไม่ให้อยู่ใกล้กัน โดยวางกำลังตำรวจกั้นกลางป้องกันเหตุปะทะ แต่จากการประสานแกนนำ พบว่า ตอนนี้มีเพียงฝ่ายสนับสนุนฝ่ายเดียวที่จะเดินทางมารวมตัวที่ศูนย์ราชการ โดยมีส่วนหนึ่งที่มาล่วงหน้าตั้งแต่เมื่อวานนี้ คือ กลุ่มทหารปลดแอกประชาชนเพื่อประชาธิปไตย ส่วนกำลังเจ้าหน้าที่ตำรวจ ได้เตรียมชุดควบคุมฝูงชนจำนวน 1 กองร้อย 150 คน ฝ่ายสืบสวน และจราจร อีกประมาณ 50 นาย รวม 200 นาย ส่วนการประเมินกลุ่มผู้ชุมนุม คาดว่า จะมีประมาณ 200 คน ซึ่งพอกับกำลังเจ้าหน้าที่ พร้อมทั้งได้มีการประสานแกนนำ ว่าหากมารวมตัวจะแบ่งพื้นที่อย่างไร โดยทางศาลรัฐธรรมนูญได้ให้เจ้าหน้าที่ติดตั้งจอมอนิเตอร์ถ่ายทอดลงมายังด้านล่าง อย่างไรก็ตาม จนถึงขณะนี้ยังไม่มีการข่าวรายงานความเคลื่อนไหวที่ส่งผลกระทบการทำงานของตุลาการศาลรัฐธรรมนูญแต่อย่างใด เสื้อหลากสีมาให้กำลังใจไต่สวน บรรยากาศก่อนการไต่สวนพยานฝ่ายผู้ร้อง เรื่องคำร้องขอให้ศาลรัฐธรรมนูญพิจารณาวินิจฉัยตาม มาตรา 68 ล่าสุดขณะนี้ บรรดาพยานผู้ร้องได้เริ่มทยอยเดินทางมายังศาลรัฐธรรมนูญแล้ว อาทิ นายสมชาย แสวงการ สมาชิกวุฒิสภาสรรหา นอกจากนี้  ยังมีตัวแทนจากฝ่ายผู้ถูกร้องเดินทางมาร่วมรับฟังการไต่สวนครั้งนี้ด้วย อาทิ นายพิทูร พุ่มหิรัญ เลขาธิการรัฐสภา ขณะที่การรักษาความปลอดภัย มีกำลังตำรวจจาก สน.ทุ่งสองห้อง รวมถึงเจ้าหน้าที่ตำรวจจากกองบังคับการตำรวจนครบาล 2 จำนวน 1 กองร้อย ที่มาคอยดูแลรักษาความปลอดภัย ส่วนกลุ่มมวลชนเสื้อหลากสี ขณะนี้เริ่มทยอยเดินทางมาร่วมรับฟังกันอย่างต่อเนื่อง ขณะที่ กลุ่มกองทัพปลดแอกประชาชนเพื่อประชาธิปไตย ยังคงปักหลักอยู่ที่หน้าศาล 'สมชาย'ย้ำแก้รธน.ม.291เป็นการแก้ทั้งฉบับนายสมชาย แสวงการ สมาชิกวุฒิสภาสรรหา กล่าวก่อนการชี้แจงการไต่สวนพยานผู้ร้องของศาลรัฐธรรมนูญว่า การแก้ไขรัฐธรรมนูญ มาตรา 291 ที่ให้มีการเลือกตั้ง ส.ส.ร. เป็นการแก้ไขรัฐธรรมนูญทั้งฉบับ ซึ่งจะขัดต่อมาตรา 68 ที่เข้าข่ายล้มล้างการปกครองระบอบประชาธิปไตย โดยส่วนตัวเห็นว่า ควรจะแก้ไขรัฐธรรมนูญเป็นรายมาตรามากกว่า อย่างไรก็ตาม ยืนยันว่า การร้องครั้งนี้ ใช้สิทธิ์ตามรัฐธรรมนูญ ส่วนคลิปเสียงของ นายสมศักดิ์ เกียรติสุรนนท์ ประธานรัฐสภา นั้น ส่วนตัวเป็นว่า หากประธานรัฐสภา อยู่ภายใต้อาณัติของนักการเมือง ถือเป็นเรื่องอันตราย เพราะการวินิจฉัยอาจเอนเอียงได้ 'สมเจตน์'ชี้เจ็บปวดคนไทยคนเดียวทำร้ายปท.พล.อ.สมเจตน์ บุญถนอม ส.ว.สรรหา ในฐานะผู้ร้องที่ 1 กล่าวก่อนเข้าชี้แจงด้วยวาจาต่อองค์คณะตุลาการ ในกรณีขอให้ ศาลรัฐธรรมนูญ พิจารณาวินิจฉัยตามร่างแก้ไขรัฐธรรมนูญ มาตรา 291 นำไปสู่การล้มล้างการปกครอง มาตรา 68 หรือไม่ ว่าการชี้แจงด้วยวาจาต่อศาลครั้งนี้ ถือเป็นครั้งสำคัญในชีวิต ตั้งแต่ได้รับราชการมา ตนเอาชีวิตและผู้ใต้บังคับบัญชาเป็นประกัน โชคดีที่มีชีวิตรอดมาได้ แต่โชคร้ายที่ต้องมาต่อสู้กับคนในชาติเดียวกัน เจ็บปวด ไม่คิดว่าคนไทยคนหนึ่งจะทำร้ายประเทศชาติได้ขนาดนี้  คนไทยคนนั้นคือคนที่เลวที่สุดในประเทศและไม่ควรได้รับเป็นคนไทย เพราะปลุกระดมด้วยการโฆษณาชวนเชื่อ โดยใช้ประชานิยมเป็นนโยบาย เพื่อปลุกระดมคนในชาติเดียวกัน ขอยืนยันว่า การกระทำในครั้งนี้ ไม่มีอะไรอยู่เบื้องหลัง มีแต่ความมั่นคงของประเทศชาติเท่านั้น ที่เป็นเบื้องหลังในขณะนี้
แชร์เรื่องนี้
แชร์เรื่องนี้LineTwitterFacebook