ปชช.จับจองที่2ฝั่งเจ้าพระยาเฝ้ารับเสด็จในหลวง
บรรยากาศในพื้นที่ จ.นนทบุรี ทั้ง 2 ฝั่งริมแม่น้ำเจ้าพระยา โดยเฉพาะชุมชนเกาะเกร็ด ซึ่งเป็นที่อยู่อาศัยของชาวไทย เชื้อสายมอญ และจะเป็นเส้นทางเสด็จพระราชดำเนินผ่านของพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว สมเด็จพระนางเจ้าฯ พระบรมราชินีนาถ และสมเด็จพระเทพรัตนราชสุดาฯ สยามบรมราชกุมารี ที่จะเสด็จพระราชดำเนินทางชลมารค ก่อนที่จะทรงเปิดโครงการที่จัดสร้าง ตามพระราชดำริทั้ง 5 โครงการ ล่าสุด ประชาชน ต่างประดับธงชาติและธงตราสัญลักษณ์ไว้เต็มพื้นที่ เพื่อเตรียมเฝ้าฯรับเสด็จด้วยความจงรักภักดี จนเต็มพื้นที่แล้ว ซึ่งชาวไทยเชื้อสายมอญ ที่อยู่ในชุมชนแห่งนี้หลายคน รู้สึกตื่นเต้นที่จะได้ชมพระบารมีของพระองค์ท่านอย่างใกล้ชิด โดยในขณะนี้ได้มีการนำภาพถ่ายบันทึกเหตุการณ์ที่ พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว ได้เสด็จพระราชดำเนินไปเยี่ยมเยียนราษฎรชาวเกาะเกร็ด และมีชาวเกาะเกร็ด แสดงรำถวายต่อหน้าพระพักตร์ เมื่อวันที่ 8 พฤษภาคม พ.ศ.2489 มาติดตั้งริมแม่น้ำ เพื่อแสดงความจงรักภักดีและซาบซึ้งในพระมหากรุณาธิคุณอย่างไรก็ตาม สำหรับประชาชน ที่ต้องการเข้ามาในพื้นที่เฝ้าฯรับเสด็จ 2 ฝั่งริมแม่น้ำ จ.นนทบุรี สามารถเดินทางมาได้ที่จุดใหญ่ ๆ อาทิ การไฟฟ้าฝ่ายผลิตแห่งประเทศไทย ซึ่งได้เตรียมพื้นที่รับเสด็จ พร้อมเตรียมอาหาร และน้ำดื่มไว้บริการประชาชนอีกด้วย พสกนิกร ทั่วสารทิศทยอยเฝ้าฯรับเสด็จ ร.พ.ศิริราช ประชาชนทุกหมู่เหล่าจากทั่วสารทิศ ยังคงทยอยดินทางมาเฝ้าฯรับเสด็จ พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวที่ โรงพยาบาลศิริราช บริเวณด้านล่างของอาคารเฉลิมพระเกียรติ อย่างต่อเนื่อง โดยขณะนี้ บริเวณดังกล่าวเต็มไปด้วยพสกนิกรที่พร้อมใจกันใส่เสื้อสีชมพู เฝ้าฯรับเสด็จด้วยความจงรักภักดี ตั้งแต่ช่วงเช้าจนเต็มพื้นที่แล้วทั้งนี้ คุณยายอรสา ทองคำ อายุ 60 ปี ชาว อ.ปากเกร็ด จ.นนทบุรี กล่าวว่า แม้ขบวนเสด็จจะถึงพื้นที่ จ.นนทบุรี ในช่วงเย็น แต่ก็อดใจรอไม่ไหว จึงได้ตัดสินใจเดินทางมาเฝ้าฯรับเสด็จบริเวณด้านล่างอาคาร เพราะต้องการได้ชื่นชมพระบารมีอย่างใกล้ชิดมากที่สุด พร้อมกล่าวด้วยน้ำตาแห่งความปลื้มปีติว่า เมื่อนึกถึง พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว ภาพที่เกิดขึ้นในใจก็คือภาพที่พระองค์ท่าน ทรงปฏิบัติพระราชกรณียกิจด้านต่าง ๆ โดยมี พระเสโท ไหลออกมาอยู่ตลอดเวลา ที่เป็นเช่นนี้ก็เนื่องจากซาบซึ้งในพระมหากรุณาธิคุณของพระองค์ ที่ได้ทรงงานอย่างหนักโดยมิได้คำนึงถึงว่าจะเหน็ดเหนื่อยพระวรกายเพียงใด ทั้งนี้ก็เพื่อความอยู่ดีกินดีของพสกนิกรชาวไทยทั้งสิ้นอย่างไรก็ตาม สำหรับประชาชนที่ต้องการเดินทางมาเฝ้าฯรับเสด็จในพื้นที่โรงพยาบาลศิริราช ขณะนี้ยังสามารถเดินทางมาได้ เพราะหากพื้นที่รับเสด็จภายในเต็มแล้ว ก็สามารถเฝ้าฯรับเสด็จและชื่นชมพระบารมีได้ทั้ง 2 ฝั่งแม่น้ำเจ้าพระยา กำหนดเขตเดินเรือเส้นทางเสด็จฯทางชลมารคกำหนดเขตควบคุมการเดินเรือจากด้านเหนือ ตั้งแต่บริเวณ สะพานพระราม 4 ถึงด้านใต้ บริเวณ สะพานพระพุทธยอดฟ้า ตั้งแต่เวลา 13.00 น. - 21.30 น. ห้ามเรือเดินทะเล เรือลากจูง เรือลำเลียงสินค้า เรือบรรทุกสินค้าอันตราย เรือท่องเที่ยวและภัตตาคาร และแพไม้ เดินผ่านพื้นที่ควบคุมการเดินเรือ สำหรับเรืออื่นให้เดินเรือช้าและเบา ขณะขบวนเสด็จฯ ให้ลอยลำชิดฝั่ง ห้ามใช้แตรสัญญาณและเครื่องขยายเสียง ให้เปิดเฉพาะไฟเดินเรือ ตั้งแต่เวลา 18.00 น. - 21.30 น. ห้ามเดินเรือทุกชนิดผ่านพื้นที่ควบคุมการเดินเรือ ระหว่างท่าเกียกกาย ถึงสะพานกรุงธนนอกจากนี้ กรมเจ้าท่า ได้ออกประกาศกรมเจ้าท่า ให้ระมัดระวังการเดินเรือบริเวณหน้ากรมชลประทาน เขตดุสิต กรุงเทพมหานคร และให้เดินเรือห่างจากฝั่งประมาณ 50 เมตร ระยะความยาวประมาณ 120 เมตร โดยให้เดินเรือชิดฝั่งตะวันตกของแม่น้ำเจ้าพระยา (ฝั่งธนบุรี) เนื่องจากกองทัพเรือมีการวางทุ่นเครื่องหมายจอดเรืออังสนา จำนวน 2 ทุ่น ตั้งแต่วันที่ 5 - 8 กรกฎาคม 2555 ทั้งนี้ ให้ผู้ควบคุมเรือทุกลำ ปฏิบัติตามประกาศนี้โดยเคร่งครัด พร้อมทั้งให้ปฏิบัติตามคำสั่งของเจ้าหน้าที่กรมเจ้าท่า ตำรวจน้ำ และกองทัพเรือ ซึ่งปฏิบัติหน้าที่อยู่ในเรือรักษาการณ์ และประจำท่าเทียบเรือ หากผู้ควบคุมเรือฝ่าฝืน ต้องระวางโทษปรับตั้งแต่ 500 - 5,000 บาท และกรมเจ้าท่า มีอำนาจสั่งยึดประกาศนียบัตรผู้ควบคุมเรือ มีกำหนดไม่เกิน 6 เดือน สำหรับผู้สนใจ สามารถสอบถามข้อมูลเพิ่มเติมได้ที่ ส่วนตรวจการเดินเรือ สำนักความปลอดภัยและสิ่งแวดล้อมทางน้ำ กรมเจ้าท่า เบอร์โทรศัพท์ 0-2233-1311-8 ต่อ 308, 309 หรือสายด่วนศูนย์ปลอดภัยทางน้ำ 1199 กทม. ตรวจท่าเรือ-โป๊ะ รับประชาชนเฝ้าฯรับเสด็จ ทางชลมารคนายวสันต์ มีวงศ์ โฆษกกรุงเทพมหานคร เปิดเผยการเตรียมความพร้อม เส้นทางการเสด็จพระราชดำเนินทางชลมารคของ พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว เพื่อทรงเปิดโครงการชลประทานอันเนื่องมาจากพระราชดำริ 5 โครงการ ในวันนี้ว่า ได้สั่งการสำนักงานเขตที่อยู่ริมแม่น้ำเจ้าพระยา ประกอบด้วย เขตพระนคร เขตบางกอกน้อย เขตดุสิต เขตบางพลัด เขตบางซื่อ ดูแลความเรียบร้อย ซึ่งจะใช้เทศกิจ จำนวน 200 นาย ดูแลทั้ง 2 ฝั่งแม่น้ำเจ้าพระยา ขณะเดียวกัน ได้สั่งการสำนักเทศกิจ และสำนักป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย ดูแลท่าเรือ โป๊ะเรือ ให้มีความแข็งแรง และให้สำนักการจราจรและขนส่ง ตรวจสอบระบบกล้องวงจรปิดบริเวณริมแม่น้ำเจ้าพระยาให้อยู่ในสภาพที่พร้อมใช้งานได้ทุกตัว พร้อมทั้งให้สำนักงานบรรเทาสาธารภัย นำรถดับเพลิงมาเตรียมความพร้อมไว้ในจุดต่าง ๆ ทั้ง 5 จุด อีกด้วย ทั้งนี้ยืนยันว่า กรุงเทพมหานคร มีความพร้อมในการจัดสถานที่ เต็ม 100% เมืองนนท์ เตรียมที่รองรับ 80,000 คน เฝ้าฯรับเสด็จบรรยากาศประชาชนเฝ้าฯรับเสด็จพระราชดำเนินทางชลมารค ที่บริเวณท่าน้ำนนทบุรี จัดโดยเทศบาลนนทบุรี มีการจัดเตรียมสถานที่รับเสด็จ ซึ่งเป็นเส้นทางที่ พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว สมเด็จพระนางเจ้าฯ พระบรมราชินีนาถ สมเด็จพระเทพรัตนราชสุดาฯ สยามบรมราชกุมารี จะเสด็จพระราชดำเนินผ่าน ได้มีการจัดเตรียมสถานที่รองรับประชาชนที่จะมาเฝ้าฯรับเสด็จ ตลอด 2 ฝั่งแม่น้ำเจ้าพระยาไว้ จำนวน 80,000 คน อาทิ ท่าน้ำนนทบุรี , การไฟฟ้าฝ่ายผลิตแห่งประเทศไทย , กรมราชทัณฑ์ , อาคารกรมสรรพสามิต , กรมพลาธิการทหารบก , กรมชลฯปากเกร็ด , พุทธสถาน เชิงท่าหน้าโบสถ์ โรงเรียน มัสยิด ทุกแห่ง อีกทั้งในพื้นที่ จ.นนทบุรี ยังได้จัดเตรียมการแสดงเทิดพระเกียรติต่าง ๆ ของนักเรียนในจ.นนทบุรี ไว้ทุกแห่ง ด้าน พ.ต.อ.ชาญศิริ สุขลอย ผกก.สภ.เมืองนนทบุรี ได้กล่าวถึงในส่วนของมาตรการรักษาความปลอดภัย และการอำนวยความสะดวกให้กับพี่น้องประชาชน ว่าได้จัดกำลังเตรียมพร้อมไว้ทั้งสิ้น 250 นาย ดูแลโดยรอบท่าน้ำนนทบุรี สำหรับการจัดการจราจรในพื้นที่นั้น ได้จัดที่จอดรถไว้ที่บริเวณ ศาลากลางเก่านนทบุรี โรงเรียนอนุบาล ร.ร.มัธยมรัตนาธิเบศร์ และตลอดเส้นทางนนทบุรี 1 ด้วย อย่างไรก็ตาม ในส่วนของเรือข้ามฟาก และเรือด่วนเจ้าพระยา ยังคงเปิดให้บริการตามปกติ โดยจะหยุดให้บริการตามกำหนดการของกรมเจ้าท่า เป็นช่วงเวลาไป ปชช.รอเฝ้าฯรับเสด็จในหลวงตามที่ พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว มีพระราชประสงค์ เสด็จพระราชดำเนินทางชลมารค โดยเรืออังสนา ที่กองทัพเรือ จัดถวายเป็นเรือพระที่นั่ง เพื่อทรงเยี่ยมราษฎรตลอดลำน้ำเจ้าพระยา ระหว่างโรงพยาบาลศิริราช ผ่านเกาะเกร็ด ต.เกาะเกร็ด อ.ปากเกร็ด จ.นนทบุรี เจ้าอาวาสวัดเสาธงทอง กล่าวว่า คณะสงฆ์ ได้เตรียมพร้อมเฝ้าฯรับเสด็จ พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว โดยมีการจัดโต๊ะหมู่บูชา สวดชัยมงคลคาถา ประกอบพิธี ต่างช่วยกันประดิษฐ์ประดอยธงชาติและธงสัญลักษณ์ พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว ก่อนจะนำมาติดที่ศาลาริมน้ำหน้าวัด อย่างไรก็ตาม คณะสงฆ์วัดเสาธงทอง เตรียมพร้อมรับเสด็จอย่างเต็มที่ พร้อมทั้งเชิญชวนพุทธศาสนิกชน ร่วมสวดบทเจริญชัยมงคลคาถา ถวายพระพร พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวทางด้าน นายวิศิษฐ์ พวงเพชร นายอำเภอปากเกร็ด จ.นนทบุรี กล่าวว่า ได้นำเจ้าหน้าที่หน่วยงานที่เกี่ยวข้อง ร่วมกับพระภิกษุสงฆ์ ทำความสะอาดวัดต่างๆ และได้สั่งการให้ เตรียมการรับเสด็จ โดยประดับประดาธง ขึ้นป้ายเทิดทูนสถาบัน ในส่วนของวัดจะมีพื้นที่ให้ประชาชนไปเฝ้าฯรับเสด็จ ส่วนที่ อ.ปากเกร็ด มีวัดเชิงเลน วัดท่าอิฐ วัดแสงสิริธรรม วัดใหญ่สว่างอารมณ์ วัดไผ่ล้อม วัดปากคลองพระอุดม วัดเสาธงทอง วัดบางจาก วัดปรมัยยิกาวาส วัดเตย วัดสนามเหนือ วัดกลางเกร็ด วัดฉิมพลี ปชช. แห่รับเสด็จ ในหลวง แน่นเกราะเกร็ดบรรยากาศล่าสุด ที่บริเวณชุมชนเกราะเกร็ด จังหวัดนนทบุรี ประชาชนจากทั่วทุกสารทิศ ยังคงทยอยเดินทางมารอเฝ้าฯรับเสด็จ พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว สมเด็จพระนางเจ้าฯ พระบรมราชินีนาถ และ สมเด็จพระเทพรัตนราชสุดาฯ สยามบรมราชกุมารี ที่จะเสด็จพระราชดำเนินทางชลมารค อย่างต่อเนื่อง และมีจำนวนมากขึ้นเรื่อยๆ ทั้งนี้เนื่องจากชุมชนเกาะเกร็ดนั้น เป็นสถานที่ท่องเที่ยวที่ได้รับความนิยมเป็นอย่างมาก และเปิดให้บริการในวันเสาร์ - อาทิตย์ และนักขัตฤกษ์ จึงทำให้วันนี้มีนักท่องเที่ยวและประชาชนเดินทางมามากกว่าปกติถึงเท่าตัว เนื่องจากถือเป็นโอกาสพิเศษ ที่จะมาท่องเที่ยว พร้อมกับชื่นชมพระบารมีด้วย ทำให้พ่อค้า แม่ค้า ที่ขายของในชุมชนเกาะเกร็ดนั้น มีรายได้ที่เพิ่มขึ้นเป็นอย่างมากขณะที่ทางเจ้าหน้าที่ตำรวจ ได้ทยอยนำกำลังเข้าจัดระเบียบ และดูแลประชาชนในพื้นที่ เพื่อเตรียมความพร้อมในการรอเฝ้าฯรับเสด็จแล้ว อย่างไรก็ตามมีรายงานว่า กรมเจ้าท่า จะหยุดให้บริการเดินเรือ ตั้งแต่ช่วงเวลา 16.00 น. เป็นต้นไป พสกนิกร ใจจดจ่อรอชื่นชมพระบารมี ในหลวง แน่นศิริราชเหลือเวลาอีกไม่ถึง 1 ชั่วโมง ที่ชาวไทยทั้งประเทศ จะได้ร่วมเฝ้าฯรับเสด็จ และชื่นชมพระบารมีของ พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว ที่จะเสด็จพระราชดำเนินทางชลมารค ทรงเปิดโครงการชลประทานที่จัดสร้างขึ้นตามพระราชดำริทั้ง 5 แห่ง จึงทำให้ประชาชนจากทั่วสารทิศที่พร้อมใจกันเดินทางมารอเฝ้าฯรับเสด็จที่โรงพยาบาลศิริราช ตั้งแต่ 04.00 น. มีความตื่นเต้นยิ่งขึ้น โดยล่าสุด ทุกคนได้นำธงชาติและธงตราสัญลักษณ์ขึ้นมาถือไว้ ขณะที่อีกส่วนหนึ่งได้นำพระบรมฉายาลักษณ์ของ พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว ยกขึ้นมากอดไว้ โดยทั้งหมดพร้อมที่จะประนมมือไหว้ และเปล่งเสียงทรงพระเจริญ ไปกับชาติและธงตราสัญลักษณ์ที่โบกสะบัด ทันทีที่ พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว เสด็จพระราชดำเนินผ่าน นอกจากนี้ ยังมีประชาชนอีกจำนวนมาก ที่เข้าจับจองพื้นที่ตลอดทั้ง 2 ฝั่งริมแม่น้ำเจ้าพระยา โดยเลือกจุดที่คิดว่าจะได้ชื่นชมพระบารมีได้นานที่สุด รวมทั้ง การได้รับเสด็จ พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว นั้น ถือว่าเป็นสิริมงคลแก่ชีวิต