แพทย์เฝ้าระวังใกล้ชิด “หลวงพ่อคูณ” อาการทรุด
ทีมแพทย์ รพ.มหาราชนครราชสีมา เผยหลวงพ่อคูณ เกิดภาวะแทรกซ้อน อาการทรุด ปอดติดเชื้อจากการสำลักขณะดูดเสมหะ ย้ำยังไม่ต้องส่งศิริราช การรักษาคุมได้ พร้อมเฝ้าระวังใกล้ชิด และไม่เกี่ยววัณโรคปอดที่เคยเป็น
นพ.พินิศจัย นาคพันธุ์ แพทย์ผู้เชี่ยวชาญด้านโรคหัวใจและหลอดเลือด โรงพยาบาลมหาราชนครราชสีมา เปิดเผยผลตรวจอาการของพระเทพวิทยาคม หรือหลวงพ่อคูณ ปริสุทโธ อายุ 89 ปี เจ้าอาวาสวัดบ้านไร่ วันนี้ (7 ก.ค.) ว่า จากอาการแรกรับเมื่อวันที่ 4 ก.ค.ที่ผ่านมา ด้วยภาวะหลอดลมอักเสบเฉียบพลัน มีเสมหะมาก และอาการสะอึก ซึ่งแพทย์รักษาจนอาการดีขึ้นเป็นลำดับ
แต่ปรากฏว่าเมื่อบ่ายวานนี้ (6 ก.ค.) หลวงพ่อคูณมีอาการสำลักขณะดูดเสมหะ และช่วงค่ำเริ่มมีไข้ ทำให้อาการแย่ลง และไข้สูง เสมหะมากขึ้น คณะแพทย์ประเมินแล้วจึงเอกซเรย์คอมพิวเตอร์อีกครั้ง พบปอดบวมจากการติดแบคทีเรีย จึงให้ยาปฏิชีวนะฉีดเข้าทางเส้นเลือดดำเพื่อฆ่าเชื้อ ขณะนี้คณะแพทย์พยายามรักษาแบบประคับประคอง พร้อมทั้งให้น้ำเกลือควบคู่กับยาฉีด อย่างไรก็ตาม ภาวะแทรกซ้อนของปอดที่เกิดขึ้นนั้น เห็นว่ายังไม่ต้องส่งไปโรงพยาบาลศิริราช เพราะการรักษาได้ปรึกษาทีมแพทย์ศิริราชมาตลอด และต้องเฝ้าระวังอย่างใกล้ชิด ซึ่งปอดอักเสบครั้งนี้เป็นภาวะแทรกซ้อนจากที่หลวงพ่อคูณสำลัก ไม่เกี่ยวกับวัณโรคปอดที่เคยเป็น
นพ.พินิศจัย กล่าวด้วยว่า หลังจากให้ยาฆ่าเชื้อตั้งแต่เมื่อคืนจนถึงวันนี้ อาการเริ่มดีขึ้นบ้าง และยังอ่อนเพลียอยู่ ซึม เสมหะมาก แต่รู้สึกตัวดี คาดว่าหลวงพ่อคูณยังต้องนอนพักอยู่ที่โรงพยาบาลต่อไปอีก และยาฆ่าเชื้อในปอดจะต้องให้อย่างน้อย 10 วัน
"อาการท่านดูดีขึ้นบ้าง แต่จะบอกได้ว่าดีขึ้นแบบชัดเจนคงยังบอกไม่ได้ตอนนี้ ต้องเรียนว่าเวลาหลวงพ่อไม่สบายภูมิต้านทานจะลดลง และเรากลัวเรื่องภาวะแทรกซ้อนต่าง ๆ ตรงนี้เราเฝ้าระวังและดูแลท่านมาด้วยความไม่ประมาท".-สำนักข่าวไทย