นายกฯย้ำไปเขมรปัดถกผลประโยชน์ทับซ้อน
น.ส.ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร นายกรัฐมนตรี กล่าวว่า ในวันที่ 13 ก.ค. นี้ ที่ศาลรัฐธรรมนูญ จะมีการวินิจฉัยว่าการแก้ไขรัฐธรรมนูญมาตรา 291 เข้าข่ายผิดมาตรา 68 หรือไม่นั้น ได้มอบหมายให้ ร.ต.อ.เฉลิม อยู่บำรุง รองนายกรัฐมนตรี และสำนักงานตำรวจแห่งชาติ ดูแลความสงบเรียบร้อย ขณะที่ขอความร่วมมือให้ทุกฝ่ายที่จะมีการเคลื่อนไหวนั้น ให้แสดงออกตามกรอบของกฎหมาย ในระบอบประชาธิปไตย ซึ่งต้องช่วยกัน และหันหน้าคุยกัน เชื่อว่าหากได้หารือคุยกันจะได้เกิดความสงบเรียบร้อย และเป็นไปในทิศทางสันติวิธีพร้อมกันนี้ นายกรัฐมนตรี ยืนยันว่า การไปเยือนประเทศกัมพูชา และพบกับผู้นำกัมพูชานั้น ไม่มีการหารือเรื่องผลประโยชน์ทับซ้อนทางทะเล แต่อย่างใด โดยเป็นการไปเยือนในฐานะแขกของ นางฮิลลารี คลินตัน รัฐมนตรีว่าการกระทรวงต่างประเทศของสหรัฐฯ และเป็นการพัฒนาความสัมพันธ์ความร่วมมือระหว่างกันตามปกติเท่านั้นนายกรัฐมนตรี ยังกล่าวว่าการไปเยือนประเทศกัมพูชาในวันที่ 13 ก.ค.นี้ ช่วงที่ได้เข้าพบหารือกับ สมเด็จฮุนเซน ผู้นำกัมพูชา นั้นเป็นการหารือตามปกติ โดยเฉพาะความร่วมมือในการทำงานร่วมกันในประชาคมเศรษฐกิจอาเซียน โดยยืนยันว่าไทยมีความพร้อมในอีก 3 ปีข้างหน้า ทั้งนี้รัฐบาลจะใช้ความสัมพันธ์ที่ดีในทุกด้านหารือเพื่อพัฒนาผลประโยชน์ของไทยให้เติบโตต่อไปได้ขณะที่การหารือกับนักลงทุนสหรัฐนั้นจะมีการตอกย้ำให้ความมั่นใจ โดยจะหารือในลักษณะคล้ายกับการประชุมอีโคโนมิค ฟอรัม ที่ผ่านมาอีกทั้งตนพร้อมชี้แจงเกี่ยวกับสถานการณ์ทางการเมืองของไทยให้กับนักลงทุนต่างชาติได้รับทราบว่ามีการเคลื่อนไหวที่เป็นไปตามหลักประชาธิปไตย อย่างไรก็ตามกรณีการนำ MOU 43 เกี่ยวกับพื้นที่เขาพระวิหารยังไม่มีการนำมาหารือในคณะรัฐมนตรี ส่วนการจะถอนทหารบริเวณพื้นที่ทับซ้อนชายแดน ไทย - กัมพูชา หรือไม่นั้นให้ กระทรวงกลาโหมเป็นผู้ดูแลรับผิดชอบต่อไป