ตร.วิสามัญมือยิงเสี่ยเอเยนต์สลากคารถเบนซ์-พบคดีอื้อ
เมื่อเวลาประมาณ 05.00 น. ที่ผ่านมา เกิดเหตุเจ้าหน้าที่ตำรวจวิสามัญคนร้ายชาย 1 คน เหตุเกิดบริเวณริมรั้วอู่รถโดยประจำทาง ถนนกำแพงเพชร 2 ขาเข้า ก่อนถึงสามแยกหมอชิตเล็กน้อย ที่เกิดเหตุพบศพผู้เสียชีวิตเป็นชาย สวมเสื้อยืดสีดำ กางเกงยีนส์ ที่มือขวากำปืนพกสั้น ด้าน พ.ต.อ.สุนทร คงกล่ำ ผู้กำกับการ สน.บางซื่อ เปิดเผยว่า ผู้ตายเป็นผู้ต้องหาที่หนีการจับกุมคดียิงเสี่ยรถเบนซ์และอีกหลายคดี ขณะจะเข้าทำการจับกุมคนร้าย ซึ่งกำลังจะเดินทางหลบหนีไปกบดานต่างจังหวัดนั้น คนร้ายได้ยิงต่อสู้เจ้าหน้าที่ตำรวจ จึงถูกวิสามัญดังกล่าว ขณะที่ พล.ต.ต.พิสิฏฐ์ พิสุทธิ์ศักดิ์ รองผู้บัญชาการตำรวจนครบาล เปิดเผยว่า เบื้องต้น ผู้ตายคือ นายศักรภพน์ คล้ายคลึง อายุ 44 ปี ผู้ต้องหาตามหมายจับมือยิงนายอดิศร ศรีสุข อายุ 29 ปี เอเยนต์สลากกินแบ่งรัฐบาลคารถเบนซ์ และยังพัวพันอีกหลายคดี ซึ่งเจ้าหน้าที่ชุดสืบสวน สืบทราบว่าผู้ต้องหากำลังจะเดินทางหลบหนี จึงได้ติดตามเพื่อเข้าจับกุม แต่คนร้ายขัดขืนยิงต่อสู้ เจ้าหน้าที่ตำรวจจึงตัดสินใจวิสามัญ ผบช.น. เผย วิสามัญมือยิงเสี่ยเบนซ์ ยังล่าอีก2พล.ต.ท.คำรณวิทย์ ธูประจ่าง ผบช.น. กล่าวถึงการวิสามัญฆาตกรรม นายศักรภพน์ คล้ายคลึง ผู้ก่อเหตุยิง นายอดิศร ศรีสุข อายุ 29 ปี เอเย่นต์สลากกินแบ่งรัฐบาล พร้อมเพื่อนอีก 2 คน ได้รับบาดเจ็บภายในหมู่บ้านตะวันนา แขวงลาดยาว เขตจตุจักร กทม. เมื่อวันที่ 22 มิ.ย.ที่ผ่านมา ว่า โดยในการสืบสวนทราบว่ากลุ่มผู้บาดเจ็บพัวพันกับการค้ายาเสพติด ซึ่งเป็นขบวนการใหญ่ ก่อนจะมีการฆ่าตัดตอนกันเอง โดยมีผู้บงการจ้างวาน นายศักรภพน์ มาก่อเหตุ หลังจากลวง นายอดิศร พร้อมพวกมายิง แต่ไม่ตาย ก็ทำเป็นเนียนนำตัวกลุ่มผู้บาดเจ็บส่งโรงพยาบาล เหมือนไม่มีอะไรเกิดขึ้น ซึ่งเหตุการณ์ในครั้งนั้น มีผู้ร่วมขบวนการหลายขั้นตอน และมีคนชี้เป้า นายศักรภพน์ ได้ตามไปยิงคนชี้เป้าที่ จ.เพชรบุรี จนเสียชีวิต ซึ่งก่อนหน้านั้น เจ้าหน้าที่ตำรวจภูธรภาค 7 สามารถจับกุมผู้ต้องหาที่ร่วมขบวนการยิง นายอดิศร ได้ ซึ่งทำหน้าที่เป็นคนขับรถจักยานยนต์ให้ นายศักรภพน์พล.ต.ท.คำรณวิทย์ กล่าวต่อว่า หลังที่เกิดเหตุยิง นายอดิศร กับพวก เจ้าหน้าที่ตำรวจทั้งฝ่ายสืบสวนของ กก.สส.บช.น. ร่วมกันทำงานกับฝ่ายสืบสวน บก.น.2 จนทราบเบาะแส กระทั่งรู้ว่าผู้ก่อเหตุเป็น นายศักรภพน์ ซึ่งเป็นมือปืนก่อคดีอุกฉกรรจ์หลายคดีตนจึงสั่งการให้เร่งสืบสวนจับกุมตัวมาให้ได้ ก่อนที่เจ้าหน้าที่ฝ่ายสืบสวนลงพื้นที่ตามแหล่งที่คาดว่าจะหลบหนี เพราะเชื่อว่ายังกบดานอยู่ในประเทศ ขณะเดียวกันก็ได้กำชับเจ้าหน้าที่ตำรวจที่ลงพื้นที่ให้ใช้ความระมัดระวังในการทำหน้าที่และให้ระมัดระวังตัวด้วย เนื่องจากคนร้ายมีอาวุธปืนพกติดตัวตลอดเวลา กระทั่งก่อนมีการวิสามัญฆาตกรรม เจ้าหน้าที่สืบทราบว่า นายศักรภพน์ จะมาขึ้นรถทัวร์ที่สถานีขนส่งหมอชิต เพื่อเดินทางไปหาญาติที่ อ.พรหมพิราม จ.พิษณุโลก แต่ผู้ต้องหาได้ต่อสู้ขัดขืนและยิงปืนใส่เจ้าหน้าที่ตำรวจ จึงจำเป็นต้องวิสามัญฆาตกรรม เพื่อความปลอดภัยของเจ้าหน้าที่ตำรวจที่ปฏิบัติหน้าที่ อย่างไรก็ตาม เจ้าหน้าที่ตำรวจต้องสืบสวนจับกุมผู้ร่วมขบวนการต่อไป ถึงแม้จะทำการวิสามัญฆาตกรรมมือปืนแล้วก็ตาม เพราะยังเหลือตัวผู้บงการอยู่อีก