ตุ๊กรับขายบ้านแบ่งเงินบ๊วยยันไม่เคยขอเลิก
หย่าร้างกันไปเรียบร้อยแล้ว สำหรับสาว "ตุ๊ก - ชนกวนันท์" กับหนุ่ม "บ๊วย - เชษฐวุฒิ" ล่าสุด สาวตุ๊กก็มาร่วมงาน "หนึ่งผนังรวมพลังรักษ์สะอาดกับ สีเบเยอร์ชิลด์" ที่อนุสาวรีย์ประชาธิปไตย งานนี้ สาวตุ๊กก็เปิดเผยเรื่องราวทั้งหมดว่า "งานวันนี้ก็ค่าตัวปกติ เราก็เป็นนักแสดงคนหนึ่ง เรตในการทำงานของเราก็ยังเป็นเรตเดิม ถึงจะเป็นกระแส ก็ไม่มีการอัพค่าตัว จริงๆ เราพอใจเรตนี้นานแล้ว และควรพอใจเท่าเดิม ทำงานกันไปยาวๆ ดีกว่า สภาพจิตใจตอนนี้ ก็เป็นปกติ แต่ก็ต้องยอมรับว่า ที่ผ่านมาก็อยู่ในช่วงอ่อนแอ ก็อ่อนแออยู่ระยะหนึ่งแล้วทุกอย่างมันก็ดำเนินไป เราก็ทำทุกอย่างที่ลูกผู้หญิงคนหนึ่งจะทำให้ดีที่สุด และตุ๊กก็คิดว่า ตุ๊กพยายามทำทุกอย่างให้ดีที่สุดเท่าที่ตุ๊กจะทำได้แล้ว และเมื่อมันไม่ได้เป็นไปตามที่เราปรารถนา เมื่อมันจบ ความอ่อนแอเราก็ต้องพับเก็บไป วันนี้ ก็น่าจะเป็นเรื่องราวของการโล่งใจ สบายใจ ทุกสถานการณ์มันก็ต้องมีทางออกของมัน ในทางที่ดีที่สุดของแต่ละสถานการณ์ ตอนนี้ เราก็ต้องเข้มแข็ง เพราะเราไม่ใช่ตัวคนเดียว เรารู้สึกยังไง ก็ไม่อยากให้มีแม้สักเสี้ยวหนึ่งที่จะให้ลูกรู้สึก ฉะนั้นเราต้องเข้มแข็ง เพราะเขายังต้องพึ่งพา และเขาจะเชื่อมความรู้สึกกับเราตลอดเวลา เพราะเขาเป็นเด็ก อย่างที่ก่อนหน้านี้ คุณบ๊วยเขาโดนโจมตีตลอดเวลา ตุ๊กก็เห็นใจเขา อะไรที่เขาไม่สบายใจตุ๊กก็ไม่สบายใจ ก็อยากเห็นเขามีความสุข ไม่อยากเห็นเขาเป็นแบบนี้ แต่ทุกชีวิตก็ต้องมีเรื่องราว สำหรับสาเหตุที่หย่าร้างกันครั้งนี้ ถ้าถามตุ๊กถึงสาเหตุที่แท้จริง ตุ๊กไม่มี ตุ๊กไม่ได้มีความต้องการให้จบแบบนี้ ตุ๊กไม่มีสาเหตุ แต่ถ้าจะให้ถามคือชีวิตคู่มันต้องเห็นชอบด้วยคน 2 คน ถ้าแม้เพียงใครคนหนึ่งคิดว่าจะยกเลิก ถ้าเช่นนั้น อีกคนก็ดำเนินต่อไปไม่ได้แน่ๆ""เรื่องมือที่ 3 ตุ๊กไม่ขอตอบ คือตุ๊กก็พยายามขอ ถ้าตุ๊กยังเห็นแก่ตัว ยังเห็นแก่ความต้องการของตัวเอง ยังเห็นแก่ตัวที่จะพยายามเพื่อตัวเอง แต่คือเราไม่ได้มือเปล่า ซ้ายก็ลูกอีกคน ขวาก็ลูกอีกคน คนหนึ่งก็ยังต้องอุ้ม อีกคนก็ยังต้องจูง ฉะนั้นมันจะไปไหนไม่ได้ และมันอาจจะล้มกันทั้งหมด ฉะนั้นมันเลยถึงจุดที่ต้องเคลียร์ จากภาพวันเกิดลูก ที่ทุกคนคิดว่าทุกอย่างดีขึ้นนั้น ตุ๊กก็เชื่อว่าปีหน้าปีต่อไปภาพก็จะเป็นเช่นนั้น เพราะอย่างที่พี่บ๊วยบอก เรายังเป็นพ่อเป็นแม่ กิจกรรมนั้นมันก็ต้องยังดำเนินอยู่ และเราก็อยากทำด้วย สำหรับเรื่องที่บอกว่า พี่บ๊วยขอเลิกตั้งแต่คลอดน้องภูมิได้ 20 วันนั้น ตุ๊กลืมไปแล้ว ก็เอาเป็นว่า วันนี้ก็เป็นแบบนี้แล้ว และเรื่องที่บอกว่า ตุ๊กเป็นลมในวันหย่า คือจริงๆ วันนั้นอยู่โรงพยาบาล เพราะมีนัดตรวจสุขภาพ อยู่โรงพยาบาลจริงๆ เรื่องเป็นลมมันก็มีบ้างในระหว่างเลี้ยงลูก แต่ถ้าสรุปเลยคือ วันหย่าไม่ได้เป็นลม น่าจะเป็นการสื่อสารกันผิด ส่วนเรื่องกระแสข่าวที่ว่า พี่บ๊วยรักลูกไม่เท่ากันนั้น ตุ๊กไม่เชื่อว่าพี่บ๊วยจะรักลูกไม่เท่ากัน และตุ๊กเชื่อว่าลูกทั้ง 2 ซึมซับความรักจบกพี่บ๊วยได้ ส่วนเรื่องสินสมรส และเรื่องลูก ตอนนี้ก็อย่างที่พี่บ๊วยบอก ตุ๊กก็เป็นคนดูแลลูกเป็นหลัก ส่วนเรื่องสินสมรส ทรัพย์สินต่างๆ เราก็ทำทุกอย่างตามที่ตกลงกันไว้ บ้านที่อาศัยอยู่ก็คงต้องขาย เพราะทุกคู่ก็ต้องมีการจัดการเรื่องสินสมรส แต่ ณ วันนี้ ตุ๊กกับลูกก็ยังอยู่ที่บ้านหลังนั้น แต่ถ้าขายขึ้นมาก็คงต้องย้ายออกไป คือตอนนี้พี่บ๊วยเป็นคนผ่อนคนเดียว แต่ถ้าทุกอย่างเรียบร้อย เขาก็ประสงค์จะยกให้ลูก ส่วนเรื่องจะไปต่างประเทศ ก็ไปตามปกติเป็นประจำอยู่แล้ว ไม่ได้จะหนีอะไรเลย ไปเที่ยวปกติ ไม่ได้หนีไปพักใจอย่างที่เป็นข่าว ไปกับครอบครัว ไปวันอาทิตย์นี้ ไป 6 วัน ที่เกาหลี ตอนนี้ตุ๊กก็ใช้ชีวิตปกติ บางอย่างที่เคยทำกัน 2 คน ก็อาจจะเหงาบ้าง เหนื่อยบ้าง แต่ทุกอย่างต้องทำได้"