ก.ขนส่ง เร่งแจกป้ายแดงให้ค่ายจำหน่ายรถ

ก.ขนส่ง เร่งแจกป้ายแดงให้ค่ายจำหน่ายรถ

ก.ขนส่ง เร่งแจกป้ายแดงให้ค่ายจำหน่ายรถ
แชร์เรื่องนี้
แชร์เรื่องนี้LineTwitterFacebook

17 ก.ค. - นายจิรุตม์ วิศาลจิตร รองอธิบดีกรมการขนส่งทางบก กล่าวถึงปัญหาป้ายแดงของรถจดทะเบียนใหม่ที่ไม่เพียงพอต่อการใช้งานขณะนี้ ว่า เกิดจากปัญหาการจดทะเบียนรถยนต์ใหม่ที่เพิ่มสูงขึ้น หลังจากที่ยอดการจำหน่ายและส่งมอบรถยนต์ใหม่ ซึ่งเคยอั้นไว้ตั้งแต่ช่วงวิกฤตอุทกภัยปลายปี 2554 ซึ่งค่ายรถยนต์หลายแห่งมีปัญหา ไม่สามารถส่งมอบรถยนต์ให้แก่ลูกค้าได้ และเมื่อถึงปีนี้ เมื่อมีการส่งมอบรถยนต์พร้อมกัน รวมถึงมาตรการลดภาษีรถยนต์คันแรกและความนิยมรถอีโคคาร์ ทำให้การจดทะเบียนรถยนต์ใหม่ในรอบ 3 เดือนที่ผ่านมา ยอดจดทะเบียนรถใหม่ที่พุ่งสูงขึ้นกว่าร้อยละ 15-20 ทำให้เกิดภาวะป้ายแดงขาดแคลน

อย่างไรก็ตาม ล่าสุดกรมการขนส่งทางบกเดินหน้าแก้ปัญหาดังกล่าว ด้วยการผลิตและเพิ่มป้ายแดงแจกจ่ายให้แก่บริษัทตัวแทนจำหน่ายรถยนต์ไปแล้ว จากแต่ละปีที่จะมีป้ายแดงให้ตัวแทนจำหน่ายรถยนต์ใช้หมุนเวียนกว่า 700,000 ป้าย อย่างไรก็ตาม การเพิ่มขึ้นจะต้องอยู่ระดับปริมาณที่เหมาะสม ไม่เช่นนั้นจะทำให้ตัวแทนจำหน่ายรถยนต์ที่จำหน่ายรถยนต์ให้ลูกค้าไม่ไปเร่งดำเนินการจดทะเบียน ซึ่งจะส่งผลกระทบ ทำให้รายได้ภาษีเข้ารัฐช้า และทำให้ประชาชนที่ใช้รถยนต์ได้รับป้ายทะเบียนป้ายดำของตัวเองช้าไปด้วย

ขณะที่ นายสุรพงษ์ ไพสิฐพัฒนพงษ์ รองประธานกลุ่มอุตสาหกรรมยานยนต์ สภาอุตสาหกรรมแห่งประเทศไทย (ส.อ.ท.) ยอมรับว่าการที่ค่ายรถยนต์เร่งการส่งมอบรถยนต์ให้แก่ลูกค้าในช่วงนี้ หลังจากปัญหาอุทกภัยปลายปี 2554 ทำให้ยอดจำหน่ายรถยนต์ในช่วง 5 เดือนแรกปีนี้เติบโตอย่างรวดเร็ว โดยเดือนพฤษภาคมที่ผ่านมามียอดจำหน่ายรถยนต์ทุกประเภทสูงถึง 115,000 คัน ถือว่าเป็นยอดจำหน่ายสูงสุดในเดือนเดียวในรอบ 50 ปี หรือตั้งแต่ประเทศไทยเริ่มมีการผลิตอุตสาหกรรมยานยนต์

ขณะที่ยอดการผลิตทั้งจำหน่ายในประเทศและส่งออกเพิ่มสูงขึ้นในทิศทางเดียวกัน โดยเดือนพฤษภาคมมียอดการผลิตสูงถึง 202,000 คัน และทิศทางของอุตสาหกรรมยานยนต์ปีนี้ผู้ประกอบการยังมั่นใจว่ายังสามารถมียอดจำหน่ายเป็นไปตามเป้าหมาย คือ จำหน่ายรถยนต์ในประเทศมากกว่า 1.2 ล้านคัน และส่งออกมากกว่า 1 ล้านคัน แม้ว่าขณะนี้หลายฝ่ายมีความวิตกกังวลเกี่ยวกับวิกฤตเศรษฐกิจยูโรโซน แต่จากปัจจุบันที่ไทยมีการผลิตรถยนต์เพื่อการส่งออกไปภูมิภาคยุโรปสัดส่วนร้อยละ 6.5 เมื่อเทียบกับภูมิภาคอื่นๆ เชื่อว่าปัญหาดังกล่าวจะกระทบไทยไม่มาก โดยกลุ่มอุตสาหกรรมยานยนต์จะติดตามตัวเลขการส่งออกไปในภูมิภาคสหภาพยุโรป (อียู) อย่างใกล้ชิด - สำนักข่าวไทย

แชร์เรื่องนี้
แชร์เรื่องนี้LineTwitterFacebook